สำหรับรายงานหัวข้อ 23 of the best places to travel to around the world in 2023 หลังการแพร่ระบาดของโควิด19 ลดลง และมีการเปิดประเทศในหลายทวีปทั่วโลก ของ Insider ได้นำเสนอ 23 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกที่น่าสนใจในปีนี้ ดังนี้
1.ภูฏาน
ประเทศภูฏาน กลับมาเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าประเทศแล้ว หลังปิดประเทศไปนานจากการแพร่ระบาดของโควิด19 โดยขณะนี้มีการปรับปรุงถนนและสิ่งก่อสร้างต่างๆให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งประเทศนี้ถือเป็นเส้นทางการท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
2.ออสเตรเลีย
ออสเตรเลีย เป็นประเทศที่อากาศปลอดโปร่ง ท้องฟ้าสดใส คุณสามารถชมปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะทางฝั่งตะวันตก ส่วนภูมิภาค Ningaloo มีหลายจุดได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
3.หมู่เกาะเคย์แมน
หมู่เกาะเคย์แมน อาณานิคมโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักรที่อยู่ในทะเลแคริบเบียนกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมแห่งใหม่ของนักท่องเที่ยวที่ชื่อชอบทะเล
โดยเฉพาะจุดยอดฮิตอย่าง ชายหาด Seven Mile Beach อันโด่งดังที่สวยงามจนหลายคนบอกว่าต้องไปเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง
4.ดูไบ
ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กลายเป็นจุดหมายใหม่ของนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักที่ชื่นชอบความหรูหรา จนเป็นจุดหมายปลายทางที่มีผู้ชมมากที่สุดใน TikTok ด้วยจำนวนการดูถึง 82 พันล้านครั้ง จุดเด่นคือบริการที่น่าประทับใจของ ร้านอาหาร รีสอร์ท และ โรงแรม ระดับท็อปของโลกซึงมารวมกันอยู่ที่นี่
5.ลุ่มแม่น้ำลัวร์
ลุ่มแม่น้ำลัวร์ ในประเทศฝรั่งเศสเหมาะสำหรับการหลบหนีความวุ่นวายไปท่องเที่ยวอย่างผ่อนคลาย ที่นี่ดึงดูดใจนักเดินทางด้วยที่พักแบบปราสาทระดับห้าดาว และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์หลายแห่งในภูมิภาคซึ่งถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโก
6.ญี่ปุ่น
ญี่ปุ่น กลับมาเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าประเทศแล้ว นอกจาก บ่อนํ้าแร่ออนเซน ภูเขาไฟฟูจิ ดอกซากุระ สิ่งที่พลาดไม่ได้คืออาหารเลิศรสในชาติที่มีร้านดาวมิชลินมากที่สุดในโลก และช่วงมี.ค.-พ.ค. Ace Hotel Kyoto จะนำ Noma Residency ร้านอาหารที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดในโลกมาเปิดที่ญี่ปุ่นด้วย
7.ลาสเวกัส
ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา หนึ่งในนครที่ไม่เคยหลับไหลของโลก นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความมีชีวิตชีวา ไม่ควรพลาดประสบการณ์ในการพักโรงแรมกาสิโนที่มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ และโชว์การแสดงอันน่าตื่นตาตื่นใจใหม่ๆตลอดทั้งปี
8.บาหลี
บาหลี อินโดนีเซีย สถานที่ท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อนและดูแลสุขภาพ เมืองที่เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งจิตวิญญาณ อาหารมังสวิรัติ และการต้อนรับแบบไร้ที่ติในโรงแรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงฤดูใบไม้ผลิสำหรับเทศกาลวิญญาณบาหลี กับการเฉลิมฉลองสี่วันติดของโยคะ ดนตรี และการเต้นรำ
9.เมรีดา
เมรีดา เม็กซิโก พื้นที่สีเขียวแห่งอเมริกากลาง การเดินทางบนถนนคาบสมุทรยูคาทานจะปลุกจิตวิญญาณของนักสำรวจในตัวคุณ สวนสาธารณะตั้งอยู่ใจกลางเมืองกลายเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจของทุกคน ท่ามกลางบรรยากาศของเมืองเก่าที่สวยงาม
10.เกาะคานูอัน
เกาะคานูอัน เกาะเล็ก ๆ ในทะเลแคริบเบียนของประเทศเกรนาดีนส์ เซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ ถือเป็น 1 ในจุดหมายปลายทางของเขตร้อนที่หรูหรา บนเกาะขนาด 5 ตารางไมล์ มีรีสอร์ทหรูและโรงแรม 5 ดาวมากมาย เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างมีระดับของนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนัก
11.อิสตันบูล
นครอิสตันบูล ของตุรเคีย เมืองสองทวีปที่อุดมไปด้วยเสน่ห์ และปี 2023 ประเทศนี้จะเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของการเป็นสาธารณรัฐ งานอีเวนต์ และนิทรรศการต่างๆที่น่าสนใจจึงเกิดขึ้นมากมายตลอดทั้งปี
12.ไทย
ประเทศไทย มีเทศกาลที่น่าสนใจตลอดทั้งปีให้ท่องเที่ยวได้เปิดประสบกาณ์ โดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์ที่ใกล้เข้ามาและพิเศษสุดสำหรับปีนี้จะมีศิลปินชื่อดังและเทศกาลดนตรีระดับโลกมาจัดที่นี่ ขณะเดียวกันไทยยังเป็นจุดหมายปลายทางในการเปิดประสบการณ์ของนักชิมและนักช้อปปิ้งจากทั่วโลกอีกด้วย
13.โปรตุเกส
โปรตุเกส ถูกยกให้เป็นอันดับ 1 ของประเทศที่เหมาะอาศัยอยู่หลังเกษียณอายุประจำปีนี้ และเป็นเมืองที่ชาว Digital Nomads ย้ายมามากที่สุด เพราะมีการเปิดวิซ่าให้นักท่องเที่ยวเข้ามาทำงานและท่องเที่ยวได้ ส่วนค่าครองชีพก็ไม่สูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในยุโรป
14.สวิตเซอร์แลนด์
สวิตเซอร์แลนด์ รถไฟและรถกระเช้าสายใหม่ในประเทศนี้นำเสนอวิวทิวทัศน์ที่น่าทึ่งและไม่ควรพลาดเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ชื่อชอบภูเขา ทะเลสาบ ลานสกี และอากาศเย็นๆ ขณะเดียวกันที่นี่ยังเต็มไปด้วยร้านอาหารและโรงแรมที่น่าสนใจมากมาย
15.ซิชิลี
เกาะซิชิลีอันเงียบสงบของ อิตาลี ใครที่ชื่นชอบดอกบัวสีขาวไม่ควรพลาดไปชม ส่วนประสบการณ์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ฟังเพลงจากเปียโน แช่ตัวในสระไร้ขอบ ทานอาหารอร่อยๆและทัวร์ไร่องุ่น รวมถึงปิดท้ายด้วยการช้อปปิ้งสินค้าท้องถิ่นก้น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคน
16.กลาสโกว์
กลาสโกว์ สกอตแลนด์ นอกจากงานแข่งจักรยานระดับโลกที่กำลังจะจัดขึ้น ที่นี่ยังเต็มไปด้วยโรงแรม ร้านอาหาร และพิพิธภัณฑ์หลายแห่ง โดยสถานที่จำนวนมากยังคงลักษณะเด่นทางประวัติศาสตร์ของสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมไว้เกือบทั้งเมือง
17.อียิปต์
อียิปต์ นักท่องเที่ยวสายผจญภัยต่างรอคอย การเปิดของพิพิธภัณฑ์อียิปต์อันยิ่งใหญ่ที่ตั้งอยู่บนที่ราบสูงกิซ่าถัดจากมหาปิรามิดแห่งอียิปต์ ซึ่งคาดว่าจะให้นักท่องเที่ยวเข้าชมอีกครั้งในปีนี้ โดยที่นี่คือ 1 ในพิพิธภัณฑ์ระดับโลกไม่กี่แห่งที่ควรค่าแก่การเสียเงินเข้าชม
18.โครเอเชีย
โครเอเชีย ชายฝั่งอันสวยงาม ค่าครองชีพที่ไม่แพงทำให้นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสประสบการณ์อย่างการเช่าเรือ เที่ยวในบีชคลับ และทานไอศกรีมตลอดวัน ซึ่ง Dubrovnik เมืองท่าโบราณและแหล่งมรดกโลกของยูเนสโกเป็นหนึ่งในจุดหมายที่คุณไม่ควรพลาดหากไปเยือนโครเอเชีย
19.อัลอูลา
อัลอูลา เมืองประวัติศาสตร์ของมนุษย์สมัยโบราณที่ถูกพัฒนาจนสามารถมอบบริการอันทันสมัยและหรูหราได้ในใจกลางทะเลทรายของประเทศซาอุดิอาระเบีย รวมถึงปีแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมอย่าง Hegra สุสานและวัดที่แกะสลักบนหน้าผาหินทราย เมืองพี่เมืองน้องกับนคร Petra ของประเทศจอร์แดน
20.ชาร์ลสตัน
ชาร์ลสตัน สหรัฐอเมริกา อาจทำให้หลายคนสับสนกับ เมืองท่าชาร์ลสตันในอังกฤษ แต่ที่นี่ต่างไปโดยสิ้นเชิง เมืองแห่งนี้ในรัฐเซาท์แคโรไลนา มีโรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมใหม่ๆ และนิทรรศการที่น่าสนใจจำนวนมากรอต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่
21.ฟีนิกซ์
ฟีนิกซ์ เมืองใหญ่ที่สุดและมีประชากรมากที่สุดของรัฐแอริโซนา ในประเทศสหรัฐอเมริกา ติดอันดับเพราะเป็นเจ้าภาพในการแข่งขันซุปเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 57 ซึ่ง รีฮานน่า นักร้องสาวชื่อดังชาวบาร์เบโดสจะกลับมาแสดงการร้องเพลงอีกครั้งในช่วง ฮาล์ฟไทม์โชว์ แน่นอนว่างานนี้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากมาย
22.ปารีส
ปารีส ฝรั่งเศสคือ 1 ในลิสต์การท่องเที่ยวยอดนิยมทุกปี กับเมืองที่โดดเด่นด้วยแฟชั่น เต็มเปี่ยมไปด้วยอารยธรรมและโบราณสถานที่น่าสนใจ รวมถึงงานศิลปะลํ้าค่ามากมายในพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง ลูฟวร์
23.ซานฟรานซิสโก
ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา เมืองที่สามารถมอบประสบการณ์ดีๆให้คุณได้ไม่แพ้ นิวยอร์ก กับอุทยานแห่งชาติที่อุดมสมบูรณ์ สะพานโกลเด้นเกตอันสวยงาม รถรางรอบเมืองที่เป้นเอกลักษณ์ รวมถึงสภาพอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี
แปลและเรียบเรียง สิทธิโชติ สุภาวรรณ์
PHOTOGRAPH BY MARCUS WESTBERG
ภาพประกอบในเนื้อหาจาก Pixabay
ที่มา
https://www.insider.com/best-places-to-travel-in-2023-around-the-world-2023-1#san-francisco-just-got-its-own-equivalent-of-nycs-high-line-24
บทความที่เกี่ยวข้อง