เมื่อชีวิตสะพรั่งบาน
บนชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของนิวฟันด์แลนด์ ใกล้แผ่นดินด้านตะวันออกสุดของทวีปอเมริกาเหนือ คือกลุ่มหน้าผาที่ยื่นไปในทะเลชื่อว่า แหลมมิสเทเคน (Mistaken Point) ปัจจุบัน ที่นี่มีชื่อเสียงจากชุดเบาะแสอันน่าทึ่งซึ่งเพิ่งได้รับการตีความใหม่เกี่ยวกับปริศนาที่ทั้งเร้นลับและน่าพิศวงที่สุดข้อหนึ่งว่าด้วยชีวิตบนโลก หลังจากปรากฏและดำรงวงศ์วานบนโลกมานานกว่าสามพันล้านปี ทำไมจู่ๆชีวิตซึ่งส่วนใหญ่มีขนาดเล็กจิ๋วและมักมีเซลล์เดียวจึงแตกแขนงแยกเผ่าพันธุ์เป็นสัตว์โลกรูปแบบซับซ้อน มีหลายเซลล์ ขนาดใหญ่ และหลากหลายอย่างน่าทึ่ง
วันหนึ่งในฤดูใบไม้ร่วง ผมเดินทางไปที่แหลมมิสเทเคน โดยร่วมทางไปกับมาร์ก ลาฟลาม จากมหาวิทยาลัยโทรอนโตมิสซิสซอกา และไซมอน แดร์ร็อก สังกัดมหาวิทยาลัยแวนเดอร์บิลต์ในแนชวิลล์ ซึ่งร่วมงานกับลาฟลามมานาน
ภายในเขตสงวนทางนิเวศวิทยาแหลมมิสเทเคน เราขับรถไปตามถนนโรยกรวดสู่จุดที่เป็นร่องบนหน้าผาริมทะเล ก่อนจะปีนลงไป ลาฟลามชี้ไปที่แผ่นหินราบเรียบสีเทาอมม่วงแผ่นหนึ่งที่เอียงราว 30 องศา ฟอสซิล บนแผ่นหินนั้นดูเผินๆเหมือนเงารูปโครงกระดูกงู กล่าวคือมีส่วนกระดูกสันหลังกับซี่โครงเรียงต่อกันไปราวหนึ่งเมตร แต่ไม่มีโครงกระดูกอยู่ที่นี่ จะว่าไปไม่มีกระดูกเลยสักชิ้น มีเพียงรอยประทับของสิ่งมีชีวิตร่างกายอ่อนนุ่มที่ตายและถูกกลบฝังอยู่ ณ ก้นทะเลเมื่อนานแสนนานมาแล้ว สิ่งมีชีวิตนี้ว่ายน้ำไม่ได้ ไม่รู้จักคลาน จึงไม่มีทางดำเนินชีวิตแบบเดียวกับสิ่งมีชีวิตชนิดใดในปัจจุบัน พวกมันมาจากช่วงเวลาอันคลุมเครือ เมื่อโลกเป็นบ้านของสัตว์หน้าตาแปลกประหลาดซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่ตระหนักว่า พวกมันเคยมีอยู่ด้วยซ้ำ “นี่คือครั้งแรกที่สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น” ลาฟลามบอกผมตอนเราคุกเข่าลงบนหิน


ปริศนาเกี่ยวกับชีวิตรูปแบบใหม่ๆ ที่รู้จักกันในชื่อ อีดีแอคารัน (Ediacaran) เหล่านี้ เปิดฉากขึ้นที่เทือกเขาฟลิน เดอส์อันห่างไกลในรัฐเซาท์ออสเตรเลียที่ซึ่งนักธรณีวิทยาหนุ่มชื่อ เรจินัลด์ สปริกก์ ได้รับมอบหมายให้ประเมินความคุ้มค่าของเหมืองอีดีแอคาราที่ปิดกิจการไปแล้วอีกครั้งในปี 1946 สปริกก์สังเกตเห็นรอยพิมพ์บางอย่างบนชั้นหินปูนที่โผล่ขึ้นมา เขาคิดว่ามัน “ดูเหมือนแมงกะพรุน” แล้วยังมีรอยพิมพ์แบบอื่นๆด้วย บางรอยดูไม่เหมือนสิ่งมีชีวิตที่เรารู้จักเลยสักนิด ทั้งที่ยังพบเห็นได้หรือสูญพันธุ์ไปแล้ว
สปริกก์ไม่ทันตระหนักว่า ฟอสซิล เหล่านั้นมีอายุมากถึงราว 550 ล้านปี นับว่าเก่าแก่กว่าเหตุการณ์ทางวิวัฒนาการอีกเหตุการณ์หนึ่งซึ่งรู้จักกันมากกว่า นั่นคือการทวีชนิดพันธุ์สัตว์ยุคแคมเบรียน (Cambrian explosion) ไม่น้อยกว่า 10 ล้านปี นักวิทยาศาสตร์ในสมัยนั้นเชื่อว่า การทวีชนิดพันธุ์สัตว์ยุคแคมเบรียนคือวาระที่ชีวิตรูปแบบเรียบง่ายบนโลกแตกเผ่าพันธุ์อย่างรวดเร็วราวการระเบิดของดวงดาว เกิดเป็นสัตว์หน้าตาแปลกประหลาดที่มีร่างกายซับซ้อนและใหญ่โต (เราเรียกพวกมันว่าสัตว์) ซึ่งส่วนมากยังสืบวงศ์วานลูกหลานมาจนถึงปัจจุบัน การค้นพบของสปริกก์เป็นเรื่องสำคัญเพราะเป็นหลักฐานชิ้นแรกสุดว่า มหากาพย์เรื่องความใหญ่โตและความซับซ้อนของชีวิตเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเวลาที่ทุกวันนี้เรียกว่า ยุคอีดีแอคารัน ไม่ใช่ยุคแคมเบรียนที่ตามมาติดๆ

Recommend
แมวบ้าน แมวเลี้ยง หรือ แมวป่า? สิ่งมีชีวิตขนปุยที่นอนอยู่อย่างขี้เกียจบนโซฟาของคุณเป็นแมวป่ารึเปล่า? และทั้งสองกลุ่มนี้แตกต่างกันอย่างไร?
กรณี แมวบ้าน แมวเลี้ยง แมวป่า ลองนึกถึงความแตกต่างระหว่างสุนัขบ้านกับหมาป่า หรือหมูเลี้ยงกับหมูป่า เราสามารถแยกแยะความแตกต่างของมันได้ในทันที…
ผลการวิจัยใหม่เผย เต่าสามารถมองโลกในแง่ดี – ร้าย ได้คล้ายมนุษย์
“งานวิจัยใหม่เผยให้เห็นว่าเต่าบกก็มีความรู้สึกคล้ายกับเรา การค้นพบนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการปรับปรุงคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับสัตว์เลื้อยคลาน” สัตว์มีความรู้สึกหรือไม่? เป็นคำถามที่มีมายาวนานนับหลายพันปี ซึ่งไม่น่าแปลกใจเลยเนื่องจากมนุษย์นั้นคิดได้และรู้สึกเป็น แต่สำหรับการหาคำตอบในสิ่งมีชีวิตอื่นนั้นเป็นเรื่องยากอย่างไม่น่าเชื่อ อย่างไรก็ตามเมื่อเราใช้เวลากับสัตว์มากขึ้นเท่าไหร่…
” หมึกยักษ์ ” ทั้งชาญฉลาด และปรับตัวเก่ง
งานวิจัยชิ้นใหม่กำลังเปลี่ยนวิธีที่เรามองเซฟาโลพอด หมึกยักษ์ ที่ชาญฉลาดและปรับตัวเก่งเหล่านี้ ด้วยลำตัวโป่งพองรูปกระเปาะ หนวดยั้วเยี้ย และหมึกฟุ้งตลบ ไม่น่าแปลกใจที่…
เชื่อไหม! เมื่อก่อน ยีราฟ “คอสั้น” ปัจจุบัน “คอยาว” เพราะเรื่องผสมพันธุ์! (และอาหาร)
ทำไมยีราฟคอยาว ปัญหาที่นักวิทยาศาสตร์ถกเถียงกันมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัย ชาร์ลส์ ดาร์วิน ผู้ให้กำเนิดทฤษฏีวิวัฒนาการ ขณะนี้งานวิจัยใหม่จากมหาวิทยาลัยเพนน์สเตตได้ให้คำตอบที่หักล้างหลายความเชื่อที่เคยคิดกันมา ทำไมยีราฟคอยาว…