ใครมีสิทธิ์ขุดไดโนเสาร์?

ใครมีสิทธิ์ขุดไดโนเสาร์?

“ชนบทของฝรั่งเศสรุ่มรวยไปด้วยไข่ที่กลายเป็นฟอสซิล

รอยเท้า และกระดูก จึงเกิดข้อพิพาทและการต่อสู้

ว่าใครกันแน่ที่มีสิทธิ์ล่าขุมทรัพย์เหล่านี้”

วันอากาศร้อนแผดเผาวันหนึ่งเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา อ็องนี เมแฌ็ง ก้มๆ เงยๆ อยู่เหนือแผ่นดินเหนียว สีแดงในที่ดินเพาะปลูกแปลงหนึ่งใกล้เมืองมาร์แซย์บนชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียนของฝรั่งเศส เมแฌ็งกำลังขูดดินเหนียวแผ่นนั้น ตอนที่เจอสิ่งที่ดูเหมือนเศษกระดูกขนาดเล็กชิ้นหนึ่ง ขณะรู้สึกได้ถึงกระแสอะดรีนาลินที่พุ่งพล่านทุกครั้งที่พบเจอฟอสซิล เธอตะโกนเรียกสามี ปาทริก ที่กำลังขุดอยู่ใกล้ๆ สองนักบรรพชีวินวิทยาสมัครเล่น ซึ่งเกษียณแล้วและอยู่ในวัย 60 ด้วยกันทั้งคู่ เกลี่ยผิวดินออกอย่างระมัดระวัง เซาะร่องเล็กๆ รอบกระดูก และหล่อแม่พิมพ์ ปูนปลาสเตอร์เพื่อเก็บเป็นบันทึกทางวิทยาศาสตร์

พอฟ้ามืด คู่สามีภรรยาเมแฌ็งก็มีแม่พิมพ์เพิ่มอีกสองชิ้น และรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นว่าอาจเจอของสำคัญเข้าให้แล้ว มันเป็น “ผลของการอุทิศตนให้กับงานที่เราทำครับ” ปาทริกบอก เป็นเช่นนั้น ในไม่ช้าผู้เชี่ยวชาญระดับแถวหน้าจะแซ่ซ้องการค้นพบของพวกเขาว่าอาจมีความสำคัญใหญ่หลวง แต่การค้นพบดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ไม่ราบรื่นนักสำหรับวงการบรรพชีวินวิทยาในฝรั่งเศส ซึ่งมีความพยายามที่จะกีดกันสามีภรรยาคู่นี้ รวมถึงมือสมัครเล่นอื่น ๆ จากสนามขุดค้น

การถกเถียงอันดุเดือดว่าใครมีสิทธิ์ล่าฟอสซิลไดโนเสาร์กลายเป็นการต่อสู้ว่าด้วยความน่าเชื่อถือ ฝ่ายหนึ่งคือเจ้าหน้าที่ทางการและนักวิทยาศาสตร์ฝรั่งเศสที่เอือมระอากับการลอบขุดค้น และตลาดมืดข้ามชาติที่ซื้อขายฟอสซิลในราคางาม อีกฝ่ายคือนักขุดค้นเป็นงานอดิเรกที่ทำงานร่วมกับมืออาชีพ เพื่อปกป้องและจัดทำระเบียนมรดกทางธรณีวิทยาของประเทศ เติมเต็มพิพิธภัณฑ์ด้วยตัวอย่างที่มีแต่ผู้คลั่งไคล้กลุ่มหนึ่งเท่านั้นที่มีปัญญาสะสมได้ แต่ละฝ่ายต่างกล่าวหาอีกฝ่ายว่าเป็นพวกสวนทางวิทยาศาสตร์ และต่างก็มีหลักฐานสนับสนุนข้ออ้างของตน 

ฝรั่งเศสเคยเต็มไปด้วยไดโนเสาร์ ปัจจุบันประเทศนี้มีบันทึกในรูปฟอสซิลกว้างขวางที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป โดยครอบคลุมช่วงเวลาตั้งแต่ปลายยุคไทรแอสซิกไปจนถึงปลายยุคครีเทเชียส หรือราว 200 ล้านถึง 75 ล้านปีก่อน ฟอสซิลถูกค้นพบครั้งแรกในฝรั่งเศสสมัยศตวรรษที่สิบแปด แต่ความสนใจในบรรพชีวินวิทยาเพิ่งพุ่งทะยานในทศวรรษ 1950 เมื่อนักวิจัยค้นพบขุมทรัพย์ไข่ไดโนเสาร์ที่เชิงเขาทางทิศใต้ของภูเขามงตาญแซ็ง-วิกตัวร์

ในช่วงทศวรรษ 1980 นักบรรพชีวินวิทยาสมัครเล่น ปาทริกและอ็องนี เมแฌ็ง ขุดพบฟอสซิลขากรรไกรของอะเบลิซอริด ในแคว้นพรอว็องส์ของฝรั่งเศส ปาทริกเริ่มล่าฟอสซิลตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่น ตอนออกเดตกันแรก ๆ ครั้งหนึ่ง เขากับอ็องนีพากันไปหาฟอสซิลไข่ไดโนเสาร์

บทความทางวิทยาศาสตร์และหนังสือพิมพ์หลั่งไหลตามมา และภายในไม่กี่เดือนผู้คนก็หลั่งไหลไปยังพื้นที่รอบเมืองเอ็ก-ซ็อง-พรอว็องส์ (Aix-en-Provence ซึ่งไม่ช้าก็ได้ชื่อเล่นว่า Eggs-en-Provence) เพื่อค้นหาวัตถุทรงกลมมีเกล็ด ขนาดและรูปทรงประมาณลูกฟุตบอลของตัวเองบ้าง ตลาดมืดเริ่มปรากฏ ตัวอย่างเพียงชิ้นเดียวอาจขายได้ในราคาหลายพันฟรังก์ หรือเทียบเท่าหลายร้อยยูโรในปัจจุบัน เพื่อเป็นการโต้ตอบ ทางการฝรั่งเศสเริ่มกวาดล้าง และเปลี่ยนแซ็ง-วิกตัวร์เป็นเขตสงวนธรรมชาติ แต่ไข่ไดโนเสาร์ยังคงโผล่ขึ้นมาเรื่อยๆ ระหว่างปี 2000 ถึง 2004 นักวิจัยในเมืองพบไข่500 ฟองหรือราวๆ นั้นในพื้นที่แปลงหนึ่ง ซึ่งต่อมาจะกลายเป็นร้านค้าปลีกโมโนปรี และยังมีการค้นพบไข่อีกกว่า 400 ฟองใต้โรงละครกร็องเตอัทร์เดอพรอว็องส์

นักบรรพชีวินวิทยามืออาชีพ ซึ่งจำนวนมากง่วนอยู่กับงานวิจัย ไม่สามารถออกไปมองหาฟอสซิลใหม่ ๆ ได้ตลอดเวลา มือสมัครเล่นจึงเข้ามาเติมเต็มช่องว่างนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ในทศวรรษ 1980 คู่สามีภรรยาเมแฌ็งขุดพบกระดูกขากรรไกรขนาดมหึมาชิ้นหนึ่งของ อะเบลิซอริด (abelisaurid) ไดโนเสาร์ที่ก่อนหน้านั้นพบแต่ในอเมริกาใต้ ต่อมาในปี 2022 นักขุดค้นสมัครเล่นคนหนึ่งค้นพบสิ่งที่ปรากฏว่าเป็นไททันโนซอร์เกือบครบทั้งตัวในพื้นที่ป่าแห่งหนึ่งของเมืองครูซีทางตอนใต้ของฝรั่งเศส

นักขุดค้นเป็นงานอดิเรกจำนวนมาก รวมถึงคู่สามีภรรยาเมแฌ็ง ปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนทางบรรพชีวินวิทยาเมื่อพวกเขาขุดค้นและแบ่งปันการค้นพบกับบรรดานักวิทยาศาสตร์ รายงานฉบับหนึ่งซึ่งตีพิมพ์เมื่อปีที่แล้วบรรยายการค้นพบฟอสซิลสำคัญหลายร้อยชิ้นที่มาจากยุคออร์โดวิเชียนเมื่อราว 470 การค้นพบดังกล่าวกลายเป็นหัวข้อศึกษาทางวิชาการในหมู่นักวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยโลซานในสวิตเซอร์แลนด์ กระนั้น ตลาดค้าฟอสซิลมีช่องให้ทำเงินได้มหาศาล และนักขุดค้นบางคนก็ไม่ได้คำนึงถึงจริยธรรมเท่าใดนัก 

เตียรี ตอโตซา ภัณฑรักษ์และนักบรรพชีวินวิทยาที่เขตสงวนธรรมชาติแห่งชาติแซ็ง-วิกตัวร์ เคยช่วยรับรองฟอสซิลที่นักขุดเป็นงานอดิเรกหลายคนค้นพบ แต่กลับมารู้ในภายหลังว่าเป็นของที่ขายในตลาดมืด 

เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2024 โครงกระดูกของ อะแพโทซอรัส โครงหนึ่งที่พบในรัฐไวโอมิง ถูกขายให้กับผู้ประมูลไม่เปิดเผยชื่อรายหนึ่งในราคาหกล้านดอลลาร์สหรัฐที่งานประมูลในย่านชานกรุงปารีส ก่อนหน้านั้นในปี 2023 ที. เร็กซ์ตัวหนึ่งที่รู้จักกันในชื่อ ทรินิตี ถูกขายในซูริกที่ราคา 5.4 ล้านดอลลาร์ พิพิธภัณฑ์ต่างๆ ไม่มีเงินซื้อของแพงขนาดนี้ หรือแม้จะทำได้ การซื้อฟอสซิล “จะเท่ากับเป็นการเปิดกล่องแพนดอรา” ตอร์โตซาบอกและอธิบายว่า “หากเราเริ่มซื้อฟอสซิล ใครๆ จะพากันพูดว่า งั้นเราไม่ให้ใครฟรีๆ หรอก เพราะจะมีคนซื้อ”

คู่สามีภรรยาเมแฌ็งบอกว่า พวกเขาไม่ขายฟอสซิลที่ขุดได้ คอลเลกชันที่พวกเขาสะสมมาตลอดสี่ทศวรรษของ การขุดค้น เก็บรักษาอยู่ในโกดังลับแห่งหนึ่ง ซึ่งมีแต่นักวิทยาศาสตร์ที่เข้าถึงได้

สิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยกว่าก็คือ ฟอสซิลจะหายไปจากบันทึกสาธารณะแบบไม่เป็นข่าวฮือฮาเท่าการประมูลสาธารณะ แหล่งขุดค้นทรงคุณค่าเป็นพิเศษแห่งหนึ่งในเมืองโรเกอฟอร์-ลา-เบดูล บนชายฝั่งตอนใต้ของฝรั่งเศสถูกปล้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยพวกลักลอบขุดค้น “มันเหลือแต่ซากแล้วครับตอนนี้” ตอร์โตซากล่าวอย่างเศร้าใจ และเสริมว่า ร้อยละเก้าสิบของคอลเล็กชันส่วนบุคคลถ้าไม่ถูกขายไป ก็สูญหายในเหตุเพลิงไหม้ หรือไม่ก็ถูกทอดทิ้งไปเฉย ๆ ในรายงานฉบับหนึ่ง สภาแห่งชาติฝรั่งเศสเพื่อการคุ้มครองธรรมชาติพบว่า มรดกทางธรณีวิทยาของฝรั่งเศส “ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการสะสมฟอสซิล”

ในแคว้นนอร์ม็องดี สถานการณ์ตึงเครียดเป็นพิเศษ ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา คนท้องถิ่นเก็บฟอสซิล อายุ 160 ล้านปีจากยุคจูแรสซิก แอมโมไนต์ และสมบัติอื่น ๆ จากชายหาดใต้ผากาลวาโดอันสูงชัน ซึ่งเป็นแหล่งค้นพบซากไดโนเสาร์ซากแรกๆ ในฝรั่งเศส ตอนนี้ พวกเขายังสามารถหาและเก็บได้เหมือนเดิม แต่รัฐบาลฝรั่งเศสมีแผนจะเปลี่ยนพื้นที่นี้เป็นเขตสงวนธรรมชาติยาว 37 กิโลเมตร อันเป็นมาตรการที่ส่วนหนึ่งออกแบบเพื่อจำกัดคนที่มีสิทธิ์ขุดค้นในแหล่งฟอสซิลแห่งนี้

หากกฎข้อบังคับที่เสนอมานี้ถูกประกาศใช้ ใครก็ตามที่ถูกจับได้ว่าเก็บฟอสซิลโดยไม่ได้รับอนุญาตอาจถูกปรับเป็นเงิน 750 ยูโร การีน บูตีลิเยร์ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาในท้องถิ่น ชื่อ ปาเลโอสเปซพูดถึงความพยายามของรัฐบาลในเรื่องนี้ว่าเป็น “การลอบสังหารบรรพชีวินวิทยาในนอร์ม็องดี” เพื่อเป็นการประท้วง ทีมของเธอปักธงแดงบนตัวอย่างไดโนเสาร์ทุกชิ้นที่เก็บมาโดยนักขุดค้นสมัครเล่น สรุปแล้วแทบจะทั้งคอลเล็กชันซึ่งประกอบด้วยฟอสซิลราว 27,000 ชิ้น มีธงปักอยู่

โลร็อง ปูกลีซี นายแพทย์จากปารีสและนักสะสมสมัครเล่นแบบจริงจังอีกรายแย้งว่า กาลวาโดเป็นพื้นที่ที่มีความท้าทายไม่เหมือนที่อื่น “มันเป็นพื้นที่ติดทะเล ฉะนั้น หากฟอสซิลไม่ถูกเก็บไปทันที พวกมันจะกลายเป็นทรายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงครับ” เขากล่าวอย่างฉุนเฉียว “การเก็บพวกมันเท่ากับเป็นการรักษาไว้” ปูกลีซีเป็นหัวหอกในความพยายามโน้มน้าวหน่วยงานท้องถิ่นและระดับชาติให้ยอมผ่อนผัน แต่เท่าที่ผ่านมาแทบไม่เกิดผลอะไร เอริก บูเฟโต นักบรรพชีวินวิทยาจากศูนย์เพื่อการวิจัยทางวิทยาศาสตร์แห่งชาติของฝรั่งเศส มีความกังวลเหมือนกับปูกลีซี “ถ้าเรากีดกันนักขุดค้นสมัครเล่นไม่ให้เก็บฟอสซิล ก็จะไม่มีฟอสซิลใหม่ๆ อีกต่อไป” เขาบอกและเสริมว่า ตอนนี้หลายพื้นที่ของโพรว็องซ์กลายเป็น “พื้นที่ร้างการวิจัย” ไปแล้ว เพราะกฎข้อบังคับที่เข้มงวดเกินไป

นักขุดค้นสมัครเล่นค้นพบฟอสซิลชิ้นสำคัญ ๆ จำนวนมากจากทั่วฝรั่งเศส ตั้งแต่ไททันโนซอร์เกือบครบทั้งตัวที่พบใกล้กับเมืองกรูซีทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ไปจนถึงชิ้นส่วนกระดูกในภาพที่ขุดเพบในแคว้นพรอว็องส์ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญบางคนคิดว่าเป็นแรปเตอร์ชนิดใหม่

ระหว่างนี้ คู่สามีภรรยาเมแฌ็งยังถือว่าโชคดีอยู่ การค้นพบของพวกเขาในแคว้นพรอว็องส์ใกล้กับมาร์แซย์ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เกิดขึ้นในที่ดินส่วนบุคคลแปลงหนึ่ง ที่เจ้าของอนุญาตให้พวกเขาดำเนินงานวิจัยต่อไปได้  หลังการค้นพบช่วงแรกๆ สามีภรรยาคู่นี้กลับไปที่แหล่งขุดค้นอีกสี่ครั้ง และขุดพบฟอสซิลของไดโนเสาร์ตัวเดียวกันอีกหลายชิ้น คอลเล็กชันกระดูกสีสนิมชุดนี้อาจเป็นคำตอบของปริศนาที่วนเวียนอยู่ในวงการบรรพชีวินวิทยาฝรั่งเศส  มานานกว่า 30 ปี

ย้อนหลังไปช่วงปลายทศวรรษ 1980 คู่สามีภรรยาเมแฌ็งค้นพบกระดูกคล้ายคลึงกันนี้ชุดหนึ่งในอีกภูมิภาคหนึ่งของพรอว็องส์  บูเฟโตศึกษาฟอสซิลดังกล่าวและสรุปว่าเป็นของไดโนเสาร์กลุ่มแรปเตอร์ขนาดตัวไล่เลี่ยกับไก่ มีอุ้งเล็บงุ้มเป็นตะขอ และมีชีวิตอยู่ในช่วงปลายยุคครีเทเชียส หรือเพียงไม่กี่ล้านปีก่อนไดโนเสาร์จะสูญพันธุ์ไปเมื่อราว 66 ล้านปีก่อน บูเฟโตร่วมเขียนรายงานการค้นพบนี้ และประกาศว่าเป็นแรปเตอร์ชนิดใหม่ โดยตั้งชื่อว่า แวริแรปเตอร์ เมชิโนรัม (Variraptor mechinorum) เพื่อเป็นเกียรติแก่คู่สามีภรรยาเมแฌ็ง

ไม่นานหลังจากนั้น นักวิทยาศาสตร์ทีมหนึ่งจากปารีสก็ออกมาคัดค้านการจำแนกชนิดพันธุ์ใหม่ดังกล่าวโดยอ้างว่ากระดูกชุดนั้นน่าจะเป็นของแรปเตอร์อีกชนิดหนึ่ง แล้ว แวริแรปเตอร์ เมชิโนรัม ก็ถูกห่อหุ้มด้วยความคลุมเครือนับแต่นั้นเป็นต้นมา ตอร์โตซาซึ่งตรวจสอบการค้นพบนี้แล้วบอกว่า การค้นพบครั้งใหม่ของสามีภรรยาเมแฌ็งอาจมอบชิ้นส่วนที่ขาดหายไปซึ่งอาจช่วยไขปริศนาที่ว่านี้ได้ กระนั้น แม้จะทำงานร่วมกับนักขุดค้นสมัครเล่นด้วย แต่ตอร์โตซาก็เห็นชอบกับกฎข้อบังคับที่เคร่งครัดขึ้น รวมทั้งการบังคับใช้กฏระเบียบที่มีอยู่แล้วว่าด้วยผู้มีสิทธิ์ขุดค้นอย่างจริงจังมากขึ้น “กฎข้อบังคับไม่ได้หมายถึงการห้ามขุดค้นเสมอไปครับ” เขาบอกและเสริมว่า แต่ฝรั่งเศสก็ไม่ควรเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนที่ใครจะทำอะไรก็ได้เหมือนกัน

นักบรรพชีวินวิทยา เตียรี ตอร์โตซา (ทางซ้าย) กับทีมผู้เชี่ยวชาญ ขุดหาไข่ไดโนเสาร์ในเขตสงวนธรรมชาติแห่งชาติแซ็ง-วิกตัวร์ ซึ่งเป็นเขตคุ้มครองที่นาน ๆ ครั้งจึงจะอนุญาตให้มือสมัครเล่นเข้าร่วมการขุดค้นทางวิทยาศาสตร์

วันหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ สามีภรรยาเมแฌ็งเปิดประตูบานหนึ่งเข้าไปในห้องขนาดเล็กห้องหนึ่งในสถานที่ปิดเป็นความลับ ซึ่งใช้เป็นที่เก็บชุดสะสมอันเป็นผลจากการขุดค้นสี่ทศวรรษของทั้งคู่ ตอนเดินผ่านชั้นเก็บกะโหลกจระเข้กับอัลลิเกเตอร์ กระดองเต่าขนาดยักษ์ชิ้นหนึ่ง ฟันไดโนเสาร์หลายสิบซี่ กระดูกเชิงกรานของแองคิโลซอรัสชิ้นหนึ่ง และเศษชิ้นส่วนกระดูกของ ไททันโนซอรัส อีกมาก ปาทริกกับอ็องนีหยุดที่โต๊ะตัวหนึ่งซึ่งมีฟอสซิลวางอยู่หกชิ้น

ที่ผ่านมาไม่เคยมีการพบโครงกระดูกครบทั้งตัวของ แวริแรปเตอร์ เมชิโนรัม แต่ตัวอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะซึ่งรวมถึงกระดูกแข้งท่อนหนึ่ง ชิ้นส่วนกะโหลกชิ้นหนึ่ง ฟันหลายซี่ กระดูกแขนเสี้ยวหนึ่ง และกระดูกสันหลังอีกหลายชิ้น อาจเป็นกระดูกครบชุดที่สุดเท่าที่เคยพบก็เป็นได้

“เราไม่ใช่พวกเคร่งศาสนาครับ” ปาทริกกล่าวขณะมองไปรอบห้อง “แต่ที่นี่เปรียบเสมือนโบสถ์ของเรา”

เรื่อง สกอตต์ จอห์นสัน

ภาพถ่าย เปาโล แวร์โซเน

แปล อัครมุนี วรรณประไพ


อ่านเพิ่มเติม : ‘130 ล้านปีแห่งความลับ’ การปะติดปะต่อปริศนาไดโนเสาร์ในไทย

และความเป็นไปได้ในการพบไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหม่

Recommend