ตั้งแต่ปี 1998 เป็นต้นมา สถาบันชีววิทยาของ Autonomous Metropolitan University of Xochimilco นับจำนวนประชากรของอะโซโลตล์ในพื้นที่หนึ่งตารางกิโลเมตร และพบว่ามีจำนวนเหลืออยู่เพียง 6,000 ตัว จากนั้นจึงนับจำนวนใหม่ทุกๆ 4-5 ปี และพบว่าจำนวนอะโซโลตล์ลดลงอย่างฮวบฮาบ โดยในปี 2014 พบว่าเหลืออะโซโลตล์เพียง 35 ตัวในพื้นที่หนึ่งตารางกิโลเมตรเท่านั้น
สาเหตุหลักของการลดลงของจำนวนอะโซโลตล์มาจากการปล่อยสัตว์ชนิดพันธุ์คุกคามลงในถิ่นอาศัยของพวกมัน อย่างปลาทิลาเปีย (วงศ์ Tilapia หรือปลาหมอสี) และปลาในวงศ์ปลาดอกหมาก (Mojarra) การมีสารเคมีปนเปื้อนในลำน้ำเมื่อมีการเปลี่ยนเส้นทางน้ำจืดเข้าสู่กรุงเม็กซิโกซิตี เพื่อให้ชาวเมืองมีน้ำกินน้ำใช้ และคลองที่มีอยู่แต่เดิมก็กลายเป็นแหล่งระบายน้ำเสียจากตัวเมือง อีกทั้งการขยายของชุมชนเมืองที่แผ่ตัวมาตามบริเวณรอบทะเลสาบ ภายในอีก 10-20 ปีข้างหน้า จะต้องใช้มาตราการขั้นเด็ดขาดเพื่อช่วยอะโซโลตล์ไม่ให้สูญพันธุ์ไป โดยมีหน่วยงานที่พยายามขยายพันธุ์พวกมันในคอโลนีหนึ่งเพื่อให้มีประชากรหลายพันตัว
อะโซโลตล์เป็นสัตว์ที่ขยายพันธุ์ง่าย โดยจะวางไข่ครั้งละ 1,500-2,000 ฟอง อีกทั้งขยายพันธุ์ได้ทั้งในห้องปฏิบัติการ สวนสัตว์ และสถานเพาะเลี้ยง ในช่วงปี 2015-2016 มีการกำหนดพื้นที่หวงห้ามในทะเลสาบเพื่อปกป้องประชากรอะโซโลตล์
ดีโอนีโซ เอสลาวา หัวหน้ากลุ่ม Umbral Axolchiatl บอกว่า หน้าที่ของชาวชุมชนคือหาวิธีพิทักษ์รักษาอะโซโลตล์ไว้ “เพราะนี่คือบ้านของเรา ที่ซึ่งเราอยู่อาศัยร่วมกับสิ่งมีชีวิตทุกๆชนิด โดยเฉพาะกับอะโซโลตล์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมของเรา เป็นรากเหง้าและเป็นอัตลักษณ์ของเราครับ” เขาบอก
อ่านเพิ่มเติม