การเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นการคุกคามความพยายามหลายสิบปีที่ได้ฟื้นฟูจำนวนประชากร หมาป่า ของรัฐ ซึ่งใช้เงินภาษีไปกว่าหลายสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ
ผู้ร่างกฎหมายของรัฐไอดาโฮได้ผ่าน (ร่าง) กฎหมายที่ตั้งเป้าจะกำจัดประชากรส่วนใหญ่ของหมาป่าในรัฐ ข้อกฎหมายที่จะยกเลิกขีดจำกัดเรื่องจำนวนการล่า หมาป่า แสดงให้เห็นถึงการส่งเสริมการล่าหมาป่าในรัฐที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และมันได้สร้างความโกรธเคืองในหมู่นักวิทยาศาสตร์ นักอนุรักษ์ รวมไปถึงกลุ่มผู้ที่สนับสนุนการล่าหมาป่า
(ร่าง) กฎหมายฉบับใหม่นี้จะส่งให้เหล่านายพรานและผู้รับเหมาเอกชน สามารถล่าหมาป่าได้มากกว่าร้อยละ 90 ของจำนวนประชากรหมาป่าในรัฐ ที่มีประมาณ 1,500 ตัวจากการนับครั้งล่าสุด การตัดสินใจครั้งนี้ประกาศออกมาในเวลาเพียงหนึ่งเดือน หลังจากที่หมาป่าสายพันธุ์ดังกล่าวถูกถอดออกจากบัญชีสิ่งมีชีวิตใกล้สูญพันธุ์ของสหรัฐฯ แม้ว่าประชากรหมาป่าในเทือกเขาร็อกกีตอนเหนือจะถูกถอดออกจากบัญชีตั้งแต่ปี 2011 ก็ตาม การเคลื่อนไหวครั้งนี้คุกคามความพยายามอย่างหนักหน่วงตลอดระยะเวลาหลายสิบปี และใช้เงินภาษีไปกว่าหลายสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อการฟื้นฟูจำนวนประชากรหมาป่าในภูมิภาค
(ร่าง) กฎหมายนี้ได้ผ่านเข้าไปในสภา และได้รับการสนับสนุนอย่างล้นหลามจากสมาชิกพรรครีพับบลิกัน แต่ได้รับการต่อต้านจากสมาชิกพรรคเดโมแครตเช่นกัน (ร่าง) กฎหมายฉบับนี้ได้รับการยอมรับเมื่อวันที่ 21 เมษายน ที่ผ่านมา ด้วยจำนวนคะแนนเสียง 26 ต่อ 7 ในวุฒิสภาของรัฐ และผ่านสภาผู้แทนราษฎรแห่งรัฐ เมื่อวันที่ 27 เมษายน ด้วยคะแนนเสียง 58 ต่อ 11 และในปัจจุบันกฎหมายนี้กำลังถูกเสนอไปยังสำนักงานของผู้ว่าการรัฐ หนึ่งในสมาชิกพรรครีพับบลิกัน แบรต ลิตเทิล และถ้าเขาลงนามใน(ร่าง)ฉบับนี้ มันจะมีผลบังคับใช้ภายในหนึ่งเดือน
เนื้อหาใน (ร่าง) กฎหมายมีเนื้อหาอนุญาตให้หมาป่า สัตว์ที่หลาย ๆ คนมองว่าเป็นอันตรายต่อปศุสัตว์ และกวาง สามารถล่าได้ด้วยวิธีการใด ๆ ก็ตาม รวมไปถึงการถูกยิงจากเครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ รถเอทีวี และรถลุยหิมะ การใช้เหยื่อล่อ และการล่ายามค่ำคืนด้วยแสงไฟสปอร์ตไลท์จะได้รับการอนุญาตเช่นกัน (ร่าง) กฎหมายนี้ยังจะอนุมัติการวางกับดัก และบ่วงต่างๆ เพื่อล่าหมาป่าในพื่นที่ส่วนบุคคลตลอดทั้งปี และนายพรานแต่ละคนสามารถซื้อป้ายแท็กสำหรับสังหารผู้ล่าเหล่านี้ได้อย่างไม่จำกัด
กฎหมายใหม่จะเปิดทางให้ใช้เงินจากงบประมาณของรัฐกว่า 3 แสนดอลลาร์สหรัฐ เพื่อนำไปใช้กับการสังหารหมาป่าที่ล่ากวางเป็นอาหารได้ โดยเพิ่มมาจากปีที่ผ่านมา 1.9 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ นี่เป็นจำนวนเงินที่เพิ่มเติมจากงบประมาณจากรัฐกว่า 5 แสนดอลลาร์สหรัฐ ที่ถูกจัดสรรให้กับการสังหารเหล่าหมาป่าที่เป็นภัยต่อปศุสัตว์ เงินบางส่วนของงบประมาณนี้ยังสามารถนำไปมอบให้บุคคลทั่วไปเบิกถอนได้ สำหรับค่าใช้จ่ายในการล่าหมาป่าได้ นักวิจารณ์หลายท่านมองว่า นี่คือการหวนคืนของระบบล่าค่าหัว หรือที่เรียกว่า Bounty-hunting system ที่เกือบจะนำไปสู่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของหมาป่าในแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐอเมริกาในช่วงต้นศตวรรษที่ 20
(ร่าง) กฎหมายฉบับนี้ถูกต่อต้านจากหลายหน่วยงานที่ปกติจะสนับสนุนการล่าหมาป่า รวมไปถึงหน่วยงานเกมกีฬา และการตกปลาประจำรัฐไอดาโฮ และกลุ่มนักกีฬาของรัฐ
“มันไม่มีเหตุผลเลย” คาร์เทอร์ นีมีเยอร์ อดีตผู้จัดการสัตว์ป่า ที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ของอาชีพเขาไปกับการควบคุมสัตว์นักล่า กล่าวและเสริมว่า “สำหรับผมมันไม่ใช่แค่การขาดความยุติธรรม แต่เรากำลังเดินถอยหลัง”
แต่ (ร่าง ) กฎหมายนี้ได้รับการสนับสนุนจากเหล่าเจ้าของฟาร์มปศุสัตว์ที่โดยทั่วไปเป็นศัตรูกับหมาป่า นีมีเยอร์กล่าว
“ตอนนี้รัฐไอดาโฮมีหมาป่าเหล่านี้มากเกินไป” มาร์ค แฮร์ริส สมาชิกวุฒิสภาของพรรครีพับลิกัน หนึ่งในเจ้าของฟาร์มปศุสัตว์ และหนึ่งในผู้สนับสนัน (ร่าง) กฎหมายนี้ กล่าวในการอภิปรายในสภาเมื่อปลายเดือนเมษายน ที่ผ่านมา “เรามีหมาป่า 15 ฝูง จำนวน 150 ตัว และพวกมันกำลังทำลายชีวิตของผู้ประกอบการฟาร์มปศุสัตว์ พวกมันกำลังทำลายชีวิตสัตว์ป่า นี่เป็น (ร่าง) กฎหมายที่จำเป็น”
แรงที่สร้างเสถียรภาพ
งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาประชากรหมาป่าและบทบาทของพวกมันต่อระบบนิเวศได้เปิดเผยความจริงที่แตกต่างออกไปมาก
เป็นที่ทราบกันดีว่าตั้งแต่มีการนำหมาป่าหวนคืนสู่ระบบนิเวศของอุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตนเมื่อปี 1995 ซึ่งครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของรัฐไอดาโฮพวกมันได้ทำให้ระบบนิเวศมีเสถียรภาพ เช่น จากข้อมูลของหน่วยงานรัฐ จำนวนประชากรกวางในรัฐไอดาโฮตอนนี้มีมากกว่า 120,000 ตัว ซึ่งมีจำนวนมากกว่าหรือเท่ากับตอนที่มีการนำหมาป่าหวนคืนสู่ระบบนิเวศ งานวิจัยในอุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตนแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า หมาป่าสามารถช่วยส่งเสริมสุขภาพของฝูงกวางได้ โดยการลดโรคติดต่อ และสร้างประชากรที่มีความทนทานมากขึ้น
นอกจากนี้ ในหลายพื้นที่ของรัฐไอดาโฮที่มีจำนวนหมาป่าน้อยกว่า เกิดปัญหาจากจำนวนประชากรของกวางที่มากเกินไป บ่อยครั้งที่กวางจะกินพืชไร่ปริมาณมาก และนำไปสู่การที่รัฐต้องเข้ามาช่วยจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อช่วยเหลือชาวไร่ในบางกรณี การ์ริก ดัชเชอร์ ผู้อำนวยการโครงการและงานวิจัย ของลิฟวิงวิธวูล์ฟ (Living with Wolves) องค์กรอนุรักษ์จากรัฐไอดาโฮ กล่าว
จากข้อมูลของนีเมเยอร์ ผู้ (ร่าง) กฎหมายจากหลายรัฐแสดงความเกลียดชังโครงการการนำหมาป่ากลับคืนสู่ระบบนิเวศของรัฐบาลกลางเมื่อหลายสิบปีก่อน และพวกเขาได้พยายามที่จะต่อสู้กับโครงการนี้มาตลอด ซึ่งเป็นแนวความคิดที่ผลักดัน (ร่าง) กฎหมายในปัจจุบัน การเคลื่อนไหวที่จะขยายกิจกรรมการล่าหมาป่าได้เกิดขึ้นในพื้นที่อื่นเช่นกัน รวมถึงรัฐมอนแทนา และรัฐวิสคอนซิน
(ร่าง) กฎหมายนี้ได้เดินทางผ่านกระบวนการทางกฎหมายอย่างรวดเร็ว และไม่ได้ผ่านการปรึกษาหารืออย่างถี่ถ้วนจากผู้มีส่วนร่วมหลักอย่างหน่วยงานเกมกีฬาและการตกปลาประจำรัฐไอดาโฮ มัฟฟรีย์ เดวิส ตัวแทนของรัฐ และสมาชิกพรรคเดโมแครตที่ลงคะแนนเสียงต่อต้าน (ร่าง) กฎหมายนี้ กล่าว นอกจากนี้ นักวิทยาศาสตร์ นักอนุรักษ์ และผู้คนมากมายที่ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายนี้ ก็ไม่ได้มีส่วนร่วมกับการดำเนินการครั้งนี้
เมื่อ แมริสสา มอริสสัน ไฮเออะร์ เลขานุการสื่อมวลชน ของผู้ว่าการรัฐ แบรต ลิตเทิล ถูกถามถึง (ร่าง) กฎหมายนี้ เธอกล่าวว่า รัฐบาลจะไม่ให้ความเห็นถึงการออกกฎหมายที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์
“นี่มันเป็นแค่ (ร่าง) กฎหมายที่เดินทางไปถึงขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการอย่างรวดเร็ว” เดวิสกล่าว หนึ่งในเหตุผลที่เธอต่อต้าน(ร่าง)กฎหมายนี้เป็นเพราะว่า “มันชิงอำนาจไปจากหน่วยงานเกมกีฬาและการประมงประจำรัฐไอดาโฮ” ภายใต้กฎหมายนี้ กรรมการหน่วยงานการควบคุมการกำจัดหมาป่าที่อยู่ภายใต้สำนักงานของผู้ว่าการรัฐจะมีอำนาจหลักในการตัดสินใจว่า หมาป่ากี่ตัวจะถูกสังหารและมีอำนาจในการว่าจ้างบริษัทเอกชนเพื่อที่จะกำจัดพวกมัน
(ร่าง) กฎหมายนี้ไม่ได้คำนึงถึงจำนวนปศุสัตว์ที่ถูกสังหารโดยหมาป่าซึ่งมันเป็นจำนวนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนหมาป่า
ในปี 2020 ฝูงหมาป่าน่าจะสังหารวัวและแกะไปเป็นจำนวน102 ตัว โดยอ้างอิงจากผู้ตรวจสอบของรัฐ ซึ่งคิดเป็นประมาณ 1 ใน 28000 ส่วนของจำนวนวัวและแกะในรัฐที่มีจำนวนทั้งหมด 2.8 ล้านตัว ดัชเชอร์กล่าว
“ทำไม (ร่าง) กฎหมายอนุญาตให้ทำการสังหารหมาป่าส่วนใหญ่ของรัฐไอดาโฮ” เขากล่าว “จำนวนของเหล่าวัวและแกะที่ถูกล่าโดยหมาป่าไม่ได้แตกต่างไปกับจำนวนของเหล่าวัวและแกะที่ถูกล่าโดยผู้ล่าชนิดอื่น และผู้ล่าชนิดอื่นที่ว่าก็ไม่ได้ถูกกำจัด”
การฆ่าล้างอย่างไม่แยกแยะ
หลายปีที่ผ่านมา นายพรานในรัฐไอดาโฮได้สังหารหมาป่าประมาณ 500 ตัวทุกปีอย่างถูกกฎหมาย ทำให้ประชากรหมาป่าที่ได้รับการควบคุมเหลืออยู่เพียงประมาณ 1500 ตัว
เหล่าผู้สนับสนุน (ร่าง) กฎหมายนี้บางคนได้บอกเป็นนัยว่า พวกเขาไม่อยากให้จำนวนหมาป่าในรัฐไอดาโฮลดลงต่ำกว่า 15 คู่ผสมพันธุ์ หรือ 150 ตัว ถ้าจำนวนของหมาป่าลดลงต่ำกว่านี้ ซึ่งจะส่งผลให้หน่วยงานด้านประมงและสัตว์ป่าของรัฐบาลกลางสามารถเข้ามามีบทบาทในการควบคุมประชากรหมาป่า อองเดรย์ แซคคาดีย์ ทนายความอาวุโสของกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม Center for Biological Diversity กล่าว
ตัวเลขเหล่านี้คือข้อจำกัดขั้นต่ำที่หน่วยงานด้านประมงและสัตว์ป่าของรัฐบาลกลางกำหนดขึ้นมา หลังจากหมาป่าในเทือกเขาร็อกกีทางตอนเหนือถูกลบจากบัญชีรายชื่อสัตว์ป่าใกล้สูญพันธ์ เมื่อปี 2011 อย่างไรก็ตาม เดวิส ได้ให้ข้อมูลว่า (ร่าง) กฎหมายนี้สามารถนำไปสู่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ครั้งยิ่งใหญ่ได้ในทางทฤษฏี และทำให้รัฐบาลกลางสามารถเข้ามามีบทบาทในการบริหารได้อีกครั้ง นั่นคือสิ่งที่ฝ่ายไม่สนับสนุน (ร่าง) กฎหมายนี้ได้ตั้งเป้าไว้
มีหลากหลายเหตุผลที่ทำให้ (ร่าง) กฎหมายนี้ยังเป็นที่ถกเถียง ดัชเชอร์ กล่าว มันไม่ได้แค่ส่งเสริมการสังหารหมาป่าและลูก ๆ ในฝูงของพวกมัน กฎหมายนี้จะทำให้นายพรานสามารถติดตั้งกับดักและบ่วงในพื้นที่ส่วนบุคคลได้ตลอดทั้งปี ซึ่งเป็นอันตรายต่อสัตว์ป่า และนี่ยังแสดงถึงความไม่ตระหนักถึงผู้คนและสัตว์เลี้ยงของพวกเขา
วุฒิสมาชิกของรัฐ มิเชลล์ สเต็นเน็ต ผู้ที่ลงคะแนนเสียงต่อต้านกฎหมายนี้ กำลังเดินอยู่บนถนนที่มีหิมะปกคลุมไปกับสุนัขโกลเดนรีทรีฟเวอร์ของเธอ “ทีแกนน์” ในเดือนมกราคม เมื่อสุนัขของเธอเดินไปติดกับดักเหล็ก ซึ่งติดอยู่บนขาของมันนานกว่า 90 นาที ทีแกนน์ได้เผลอกัดสเต็นเน็ตขณะที่มันตื่นตระหนก และทั้งคู่ต้องได้รับการรักษาพยาบาลอย่างฉุกเฉิน โดยสุดท้ายแล้วทั้งสองหายดีเป็นปกติอีกครั้ง
“ตอนที่สุนัขจู่โจม อาจจะมีเด็กเดินเล่นอยู่ตรงนั้นก็ได้” เดวิสกล่าวเสริม
เรื่อง ดักลาส เมนน์
ภาพถ่าย จิม และเจมี ดัชเชอร์
แปลและเรียบเรียง นายจอมพล ละมูนกิจ
โครงการสหกิจศึกษากองบรรณาธิการนิตยสาร เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ฉบับภาษไทย
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ : 10 เรื่องราวดีๆ ของสัตว์ป่า ปี 2020