นิติวิทยาศาสตร์นก
“ผมระบุเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายในคดีฆาตกรรม สัตว์ป่า ถ้าผู้เคราะห์ร้ายนั้นเป็นนกครับ นั่นคือสิ่งที่นักนิติปักษีวิทยา (forensic ornithologist) เปปเปอร์ เทรล สรุปเกี่ยวกับงาน นิติวิทยาศาสตร์นก ของเขา ตำแหน่งงานนี้หายากเสียจนเขาเป็นเพียงหนึ่งในสองคนในสหรัฐฯ
งานนี้นับว่าน่าสยดสยองทีเดียว เริ่มแรกเทรลจะเลือกชิ้นส่วนจากหลักฐาน ได้แก่ กระดูกและขนที่บรรจุมาในถุงหรือแม้แต่ซากทั้งซากที่เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายด้านสัตว์ป่าส่งมาให้จากภาคสนาม จากนั้นเขาจะทำการวิเคราะห์หลักฐาน บางครั้งเขาสามารถระบุชนิด-พันธุ์นกได้ในทันที ถ้าไม่ได้ เขาจะทำการตรวจสอบที่ใช้เวลานานโดยอาศัยการสร้างทฤษฎีจากรายละเอียดต่าง ๆ อาทิ ขนาด และรูปแบบของเรือนขน เมื่อเทรลสามารถระบุชนิดพันธุ์ได้ งานของเขาก็มักเสร็จสิ้น ขณะที่เพื่อนร่วมงานซึ่งได้แก่นักวิทยาศาสตร์จากกรมประมงและ สัตว์ป่าสหรัฐฯ จะศึกษาเหยื่อเพิ่มเติมหากจำเป็น เพื่อแยกดีเอ็นเอ หรือไม่ก็ระบุสาเหตุการตาย
โดยมากนกมักถูกยิงหรือไม่ก็ติดกับดัก บ้างตายระหว่างถูกลักลอบขนส่งข้ามพรมแดน บ้างถูกฆ่าเพื่อนำไปทำเครื่องประดับหรือเครื่องรางของขลัง เช่น ชูปาโรซา หรือนก ฮัมมิงเบิร์ดตากแห้งที่ขายกันในเม็กซิโก
เทรลต้องพยายามวางใจเป็นกลางในคดีฆาตกรรมนกราว 100 คดีที่เขาช่วยคลี่คลายในแต่ละปี แม้ว่าบางครั้งเขาจะอดมีอารมณ์ร่วม ไม่ได้ เทรลบอกว่า การรู้ว่าสัตว์ตัวนั้น “ตายอย่างโหดร้าย” ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำใจยอมรับ “แต่ผมก็รู้สึกโล่งใจถ้าสามารถทำให้ผู้คนหันมาสนใจปัญหานี้ เช่นกรณีของชูปาโรซา”
เรื่อง แคเทอรีน ซักเคอร์แมน
ภาพถ่าย ทอม ฟัลค์ส
อ่านเพิ่มเติม : รูปทรงของไข่เกี่ยวข้องการบินอย่างไร, พิราบตรวจอากาศ : ภารกิจใหม่ของนกพิราบ