บรรพบรุษโบราณของแมงมุมมีหาง

บรรพบรุษโบราณของแมงมุมมีหาง

Paul Selden นักวิจัยจาก KU ระบุสัตว์จำพวกขาปล้องโบราณตัวนี้ใช้หางเช่นเดียวกับหนวดในการรับสัมผัสจากสิ่งแวดล้อม
ภาพกราฟฟิกโดย มหาวิทยาลัยแคนซัส

การค้นพบหาง

นักวิจัยรู้มานานมากกว่าสิบปีแล้วว่าแมงมุมสมัยใหม่วิวัฒนาการมาจากสัตว์จำพวกขาปล้อง จากตัวอย่างอื่นๆ ที่ค้นพบได้ซึ่งมีอายุราว 290 – 380 ล้านปีก่อน ฟอสซิลใหม่ที่ถูกค้นพบนี้ค่อนข้างสมัยใหม่ เมื่อเทียบกับสัตว์จำพวกขาปล้องอื่นๆ ที่เคยพบมา นอกจากนั้นยังถือเป็นฟอสซิลของแมงมุมมีหางแรกที่เคยค้นพบ

หางที่เต็มไปด้วยขนเส้นเล็กๆ ของมันน่าจะมีไว้สำหรับการสัมผัสสิ่งแวดล้อมรอบตัว Bo Wang ผู้ร่วมวิจัยกล่าวว่าวิวัฒนาการหางในที่สุดแล้วอาจไร้ประโยชน์ในภายหลังเมื่อสัตว์นักล่าตัวนี้เปลี่ยนพฤติกรรมจากการเดินหาอาหารเป็นการนั่งรอเหยื่อให้เข้ามาติดกับ ซึ่งในที่สุดหางจะไร้ความจำเป็นและหายไปในที่สุด เช่นเดียวกับแมงมุมในปัจจุบันที่ไม่มีหางอีกแล้ว และใช้การรับสัมผัสผ่านแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นผ่านเส้นใยแทน

Selden เองเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ว่าในปัจจุบันแมงมุมมีหางอาจยังคงมีชีวิตอยู่ภายในป่าดิบชื้นของเมียนมา ซึ่งยังไม่ได้รับการสำรวจมากนัก และเนื่องจากว่าเจ้าสิ่งมีชีวิตนี้มีขนาดเล็กมากๆ จึงเป็นการง่ายที่มันจะไม่ถูกพบเจอ และขณะนี้ตัวเขาเองยังไม่แน่ใจว่าพวกมันเป็นสัตว์มีพิษหรือไม่ แต่ Gonzalo Giribet นักสัตววิทยากล่าวว่า พวกมันไม่น่าที่จะเป็นอันตรายต่อผู้คนได้

 

สุสานอำพัน

ฟอสซิลตัวอย่างที่ถูกค้นพบเป็นเพศผู้ทั้งหมด ดังนั้น Selden จึงตั้งสมมุติฐานว่า มีความเป็นไปได้ที่พวกมันอาจถูกแช่อยู่ในยางไม้ ในช่วงเวลาที่มันออกจากเปลือกไม้เพื่อมองหาตัวเมีย

อำพันสามารถทำหน้าที่เป็นไทม์แคปซูลสำหรับบรรดาสรรพสัตว์โบราณ ช่วยแช่พวกมันไว้อยู่ในกาลเวลา แค่เพียงเดือนนี้ในเดือนเดียวนอกเหนือจากฟอสซิลของแมงมุมโบราณแล้ว ยังมีรายงานการค้นพบฟอสซิลของนกอายุ 99 ล้านปี ภายในอำพันจากเมียนมาเช่นกัน ส่วนที่ผ่านๆ มาก็มีฟอสซิลหางไดโนเสาร์ และบางส่วนของอวัยวะนก รวมถึงแมงมุมโบราณอีกด้วย ที่เคยถูกพบมาแล้วในก้อนอำพันจากการสำรวจที่ผ่านๆ มา

เรื่อง Elania Zachos

 

อ่านเพิ่มเติม

รีดพิษแมงมุมอันตรายเพื่อช่วยชีวิต

Recommend