พบมัสยิดอายุ 1,200 ปีในทะเลทรายเนเกฟประเทศอิสราเอล หลักฐานการเปลี่ยนผ่านจากศาสนาคริสต์มาเป็นอิสลามในพื้นที่
นักโบราณคดีชาวอิสราเอลค้นพบซากมัสยิดโบราณที่มีอายุ 1,200 ปีระหว่างการปรับเปลี่ยนพื้นที่เพื่อสร้างย่านใหม่ของเมืองราฮัต (Rahat) กลางทะเลทรายเนเกฟ (Negev) ทางตอนใต้ของอิสราเอล เชื่อว่าเป็นหลักฐานในการเปลี่ยนผ่านจากศาสนาคริสต์มาเป็นอิสลามในพื้นที่แห่งนี้
“ลักษณะทางสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์เหล่านี้แสดงให้เห็นว่าอาคารนี้ถูกใช้เป็นมัสยิด” หน่วยงานด้านวัตถุโบราณของอิสราเอล หรือ IAA (the Israel Antiquities Authority) กล่าวในแถลงการณ์ พร้อมระบุว่ามัสยิดนี้มี “ห้องสี่เหลี่ยมจัตุรัสและผนังที่หันไปทางนครเมกกะ” พวกเขาเชื่อว่าในแต่ละครั้งอาจมีผู้เข้ามาทำการละหมาราวครั้งละ 24 ถึง 36 คน
นอกจากนี้ยังพบ “ซากอาคารหรูหรา” อยู่ไม่ไกลจากมัสยิด โดยมีซากเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารพร้อมกับสิ่งประดิษฐ์จากแก้ว ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความมั่งคั่งของผู้อยู่อาศัย ทาง IAA กล่าวว่า “สิ่งเหล่านี้ค่อย ๆ ถูกจัดสร้างขึ้นหลังจากการหายไปของการปกครองโดยไบแซนไทน์และศาสนาคริสต์ที่มีอิทธิพลเหนือดินแดนแห่งนี้มาเป็นเวลาหลายร้อยปี”
“กระบวนการทางประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นคือการเข้ามาของศาสนาใหม่ ซึ่งเป็นศาสนาอิสลามรวมทั้งการปกครองและวัฒธรรมใหม่ในภูมิภาคแห่งนี้” IAA กล่าวเสริม
การพิชิตดินแดนของชาวมุสลิมนั้นเกิดขึ้นในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 7 ทำให้เมื่อราว 3 ปีก่อนทาง IAA ได้เคยพบซากมัสยิดอีกแห่งในบริเวณเดียวกันซึ่งอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 7 ถึง 8 เป็นหลักฐานยืนยันถึงการเข้ามาของชาวมุสลิม
IAA ระบุว่ามัสยิดที่ถูกค้นพบเหล่านี้จะถูกเก็บรักษาไว้ยังสถานที่ปัจจุบันดังเดิม ไม่ว่าจะเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์หรือสถานที่ละหมาด
สืบค้นและเรียบเรียง วิทิต บรมพิชัยชาติกุล
Photography by Emil Aljem via Facebook: Israel Antiquities Authority
ที่มา
https://www.cbsnews.com/news/ancient-mosque-negev-desert-israeli-archeologists/