รู้จักกับไรเดอร์กล้าตาย ผู้ช่วยขับเคลื่อนเลกอสให้วิ่งฉิว

รู้จักกับไรเดอร์กล้าตาย ผู้ช่วยขับเคลื่อนเลกอสให้วิ่งฉิว

ในเขตมหานครของไนจีเรีย มอเตอร์ไซค์รับจ้างต้องรับมือกับการถูกคุกคาม  ท้องถนนสับสนอลหม่าน และอุบัติเหตุน่าสยอดสยอง แต่หากไม่มีพวกเขา นครที่มีประชากร 20 ล้านคนคงหยุดนิ่งอยู่กับที่

สายใยที่ถักทอเป็นเลกอสนั้นละเอียดอ่อน มหานครของไนจีเรียแห่งนี้แผ่ล้นจากผืนแผ่นดินใหญ่ลงสู่เกาะน้อยใหญ่ในลากูนที่ทอดยาวเลียบชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ด้วยพื้นที่ราว 3,367 ตารางกิโลเมตร ชาวเมืองเลกอสจำนวนมากพึ่งพามอเตอร์ไซค์รับจ้างหรือที่เรียกว่า โอกาดา ในการเดินทางไปยังจุดต่างๆ ของเมืองที่แผ่ไพศาลแห่งนี้ เหล่าไรเดอร์ท้ามฤตยูควบรถเครื่องซอกแซกไปตามถนนที่การจราจรติดขัด คอยหลบหลีกหลุมบ่อ และคนเดินเท้าเพื่อพาผู้โดยสารซึ่งบางครั้งคราวละหลายคนไปถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย ระบบขนส่งมวลชนของที่นี่ยังขาดประสิทธิภาพ และบ่อยครั้งถนนหนทางก็ไม่เป็นมิตรสำหรับคนเดินเท้า วิกตอร์ อาเดอวาเล ช่างภาพและนักสำรวจเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ผู้เกิดและเติบโตในเลกอส บอกว่า โอกาดา “ช่วยแก้ปัญหาหนักหนาสาหัสที่รัฐบาลไม่สามารถแก้ไขได้ตลอดหลายปี” 

รัฐบาลออกกฎห้ามโอกาดาเมื่อไม่นานมานี้โดยอ้างเหตุผลเรื่องความปลอดภัย แต่เหล่าไรเดอร์ยังคงฝ่าฝืนคำสั่ง และคอยรอรับลูกค้าอยู่ตามถนนหนทางในเมือง
ก่อนหน้าคำสั่งห้าม ผู้ขับขี่โอกาดาได้รับใบอนุญาตรายวันในการทำงาน

บางคนมองโอกาดาเป็นภัยคุกคาม เจ้าหน้าที่ทางการอ้างว่า เหล่าไรเดอร์เป็นสาเหตุของอุบัติเหตุบนท้องถนนส่วนใหญ่ในเลกอส อีกทั้งผู้ก่อเหตุปล้นชิงวิ่งราวก็มักเป็นผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ เพื่อส่งเสริมความปลอดภัยบนท้องถนน ทางการจึงห้ามมอเตอร์ไซค์รับจ้างใช้สะพาน ทางหลวง และเข้าพื้นที่บางส่วนของเมือง 

เมื่อปี 2019 รัฐบาลเปิดตัวโครงการริเริ่มปฏิรูปรถประจำทางโดยนำรถใหม่หลายร้อยคันมาให้บริการในหลายสิบเส้นทาง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความต้องการใช้บริการโอกาดาของชาวเมืองลดน้อยลงเลย โอกาดายังคงเป็นวิธีสัญจรที่แพร่หลายสำหรับเดินทางไปยังย่านต่างๆ ของเมืองที่รถประจำทางเข้าไม่ถึง อาเดอวาเลบอกว่า โดยทั่วไป  การใช้บริการมอเตอร์ไซค์รับจ้างเป็นทางเลือกที่จัดว่าถูกที่สุด และยังเป็นแหล่งรายได้เลี้ยงชีพสำหรับผู้ขับขี่ในเมืองที่ค่าจ้างแรงงานไม่ได้หาง่ายๆ โอลูวาเฟมี อีปาเดโอลา เพื่อนพ่อของอาเดอวาเล ผู้ขับขี่โอกาดาส่งลูกเรียน  มากว่า 20 ปีบอกว่า “ที่ผมยังทำงานนี้อยู่เพราะบางครั้งรายได้จากงานประจำในฐานะช่างซ่อมรถก็ขาดมือเวลาที่ต้องการขึ้นมาจริงๆ” ทว่าค่าโดยสารโอกาดากำลังเพิ่มสูงขึ้นเพราะผู้ขับขี่ต้องหาทางชดเชยกรณีที่ถูกจับ

การบังคับใช้กฎหมายอย่างทั่วถึงยังเป็นปัญหา ชาวเมืองที่ยังยึดอาชีพโอกาดาต้องเผชิญกับการข่มขู่คุกคามจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มักจับผู้ขับขี่และรีดไถเงินเพื่อแลกเปลี่ยนกับการไม่ถูกยึดรถ อาเดอวาเลบอกว่า “หลายคนยอมควักกระเป๋าจ่ายถึง 90,000 ไนรา [57 ดอลลาร์สหรัฐ] เพื่อให้ได้รถมอเตอร์ไซค์คืน แต่บางครั้งก็ไม่ได้คืน และต้องทนเห็นทางการทำลายรถของกลางที่ยึดไว้” ซึ่งที่ผ่านมารวมแล้วหลายพันคัน มอเตอร์ไซค์ถือเป็นสินค้าราคาแพง ซึ่งอาจมีสนนราคาสูงถึง 33 เท่าของค่าแรงเฉลี่ยทั้งปีในเลกอส และผู้ขับขี่มักใช้วิธีผ่อนชำระ 

คีลานโก ลูกูโมนู ให้บริการสถานที่จอดรับผู้โดยสารแก่โอกาดา ไรเดอร์คนหนึ่งอาจมีรายได้ราว 120,000 ไนรา (78 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อเดือน
อาโนแดร์ อาบีเกล อาดากู เริ่มยึดอาชีพโอกาดาเพื่อส่งเสียลูกสาวสี่คนและเก็บเงินซื้อรถเล็กๆ สักคัน
ไรเดอร์ อับดุลราซัค รอคอยผู้โดยสาร

แต่ใช่ว่าเหล่าโอกาดาจะก้มหน้าก้มตายอมรับชะตากรรม เหตุประท้วงเกิดขึ้นหลายครั้ง และอย่างน้อยสหภาพโอกาดาแห่งหนึ่งก็ฟ้องร้องรัฐบาลเพื่อให้ศาลยกเลิกคำสั่งห้ามและเรียกร้องเงินชดเชยสำหรับรายได้ที่สูญเสียไป 

เคห์นดี โอกุนจิมี และสมาชิกในครอบครัว นั่งซ้อนท้ายโอกาดา เพื่อหารายได้เลี้ยงชีพอย่างเพียงพอ บางครั้ง ไรเดอร์ต้องทำงานถึงวันละ 12 ชั่วโมง
ในเขตมูชิน ย่านชานเมืองเลกอส คำสั่งห้ามโอกาดาบังคับใช้อย่างเข้มงวด และที่ผ่านมา ทั้งไรเดอร์และผู้โดยสารเคยถูกจำคุกมาแล้ว เหล่าไรเดอร์จึงหันไปใช้ตรอกซอกซอยเพื่อหลบเลี่ยงตำรวจ

ความคิดเห็นต่อโอกาดาของอาเดอวาเลเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา สมัยเป็นเด็ก พ่อของเขาซึ่งขี่โอกาดามา 25 ปี  ใช้มอเตอร์ไซค์คันเดียวกันนั้นรับส่งสมาชิกในครอบครัวไปโบสถ์และตลาด และส่งอาเดอวาเลกับน้องชายไปโรงเรียน มอเตอร์ไซค์เคยเป็นเครื่องหมายบ่งบอกถึงความเป็นชนชั้นล่าง ในตอนนั้น เขารู้สึกอับอายและมักลงจากรถก่อนถึงโรงเรียนเพื่อไม่ให้เพื่อนๆ เห็น แต่ทุกวันนี้ ความอายนั้นได้แปรเปลี่ยนเป็นความภาคภูมิ ขณะที่อาเดอวาเลเฝ้ามองเหล่าไรเดอร์ขับขี่ผ่านความท้าทายใหม่ๆ “พวกเขาไม่ยอมถูกลบไปจากชีวิตของเมืองครับ” 

ภาพถ่าย วิกตอร์ อาเดอวาเล

เรื่อง  อะเล็กซิส โอเคโอโว

แปล กองบรรณาธิการ


อ่านเพิ่มเติม : “เมื่อคนไม่ทิ้งบ้าน ย่านก็ไม่ร้าง” ความหวังเล็กๆ ที่พยายามรักษาคนและย่าน “ตลาดน้อย” ไว้ด้วยกัน

 

Recommend