ได้เวลาอวดเมืองประจำปี 2568 เทศกาลท้องถิ่นสู่ระดับโลก เพื่อเมืองที่น่าเที่ยว น่าอยู่ น่าลงทุน

ได้เวลาอวดเมืองประจำปี 2568 เทศกาลท้องถิ่นสู่ระดับโลก เพื่อเมืองที่น่าเที่ยว น่าอยู่ น่าลงทุน

อวดเมือง 2568 โดย Thailand Creative Culture Agency (THACCA) และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) ร่วมกันเปิดเวทีให้ 12 จังหวัด นำจุดแข็งของเมืองมาสื่อสารกับคนทั้งประเทศ

ลองจินตนาการถึงเมืองที่เราคุ้นชินกำลังจะมีเทศกาลดนตรีระดับโลก 

หรือ เมนูอาหารง่ายๆ ที่เราหากินกันได้ตั้งแต่เด็ก แต่เพิ่งโด่งดังใน TikTok จนใครต่อใครก็อยากลิ้มลองดูสักครั้ง

ไม่นับลานหน้าวัด ครัวริมคลอง ตลาดเก่า ผลงานศิลปินพี่ป้าน้าอา และอีก ฯลฯ ที่กำลังถูกบอกต่อนับร้อยนับพันครั้งหลังเป็นฉากหลังของซีรีส์ยอดนิยม

ถ้าคุณสัมผัสความรู้สึกนี้ได้ นี่แหละคือสัญญาณความสำเร็จของการให้เมืองบอกเล่าเรื่องของตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องมีใครกำกับ และนี่คือหัวใจของโครงการ อวดเมือง 2568: The Pitching โดย Thailand Creative Culture Agency (THACCA) และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) ที่ร่วมกันเปิดเวทีให้ 12 จังหวัดได้กลับไปทบทวนเทศกาลของตัวเอง และนำจุดแข็งของเมืองมาสื่อสารอัตลักษณ์กับคนทั้งประเทศ 

โครงการนี้ไม่ใช่เพียงแค่จะอวดสิ่งที่มีอยู่แล้ว แต่ยังท้าทายให้เมืองเล็กๆ หันกลับมามองตัวเองด้วยมุมมองใหม่ และถึงวันนี้เราก็ได้ 12 จังหวัด ที่ผ่านการอบรมเข้มข้นจากผู้เชี่ยวชาญ ทั้งเรื่องการจัดการเทศกาล สื่อสารแบรนด์เมือง ไปจนถึงการเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ พร้อมอวดเมืองของตนเองภายใน อวดเมือพาวิลเลี่ยน ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ฮอลล์ 1 ชั้น G ซึ่งจะจัดแสดงในงาน SPLASH THACCA 2025 ระหว่างวันที่ 8-11 กรกฎาคม 2568 

เมืองไหนบ้างที่พร้อมอวด? เทศกาลใดที่พร้อมเปลี่ยนมุมมองที่คุณเคยมี? ได้วลาตามไปทำความรู้จัก

  • กาญจนบุรี

กาญจนบุรี Movie Studio “เราจะทำให้กาญจนบุรีเป็น Hollywood of Asia”

ภาพยนตร์กว่า 400 เรื่องเลือกกาญจนบุรีเป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำมาแล้ว แต่ต่อไปนี้เมืองกาญจน์จะไม่ใช่แค่โลเคชั่น เพราะที่นี่จะกลายเป็น One Stop Service สำหรับอุตสาหกรรมภาพยนต์ ทั้งยังมีเทศกาล นิทรรศการ กิจกรรม คอนเสิร์ต และการเที่ยวตามรอยภาพยนตร์ เพื่อการสร้างรายได้ สร้างอาชีพที่กระจายไปถึงชุมชน ให้คนทุกคนได้รู้ว่า กาญจนบุรีมีดีกว่าในจอ

ด้วยความร่วมมือจากทั้งทางภาครัฐและเอกชน โครงการกาญจนบุรี Movie Studio จะผลักดันให้เกิดการลงทุนต่อยอดและขับเคลื่อนได้อย่างเข็มแข็ง สู่การอวดของดีในมิติต่างๆ ทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวได้ในอนาคต

  • ขอนแก่น

ขอนแก่น MUAN: Festival of Isan Pulse เทศกาลที่ถ่ายทอดอัตลักษณ์อีสานผ่านสองพลังสำคัญของเมือง

“ม่วนไหม” — การอวดผ้าไหมมัดหมี่ ภูมิปัญญาโบราณ สู่นวัตกรรมระดับโลก ทั้งในด้านสิ่งทอ แฟชั่น และวัสดุแห่งอนาคต และ “ม่วนหมอลำ” — การแสดงเสียงร้อง ดนตรี และจังหวะชีวิตแบบอีสาน สู่เวทีดนตรีร่วมสมัยระดับนานาชาติ

งานนี้ไม่ใช่แค่เทศกาลเพื่อความบันเทิง แต่ยังเป็น แพลตฟอร์ม B2B สำหรับนักลงทุน ผู้ประกอบการ และครีเอเตอร์ ที่จะได้พบกับโอกาสทางการค้า การแสดงสินค้า และการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ สิ่งทอสร้างสรรค์ ดนตรีอีสานร่วมสมัย เทคโนโลยีงานแสดง และไมซ์

  • จันทบุรี

 “Fruitpital”   เทศกาลมหานครผลไม้เมืองร้อนจันทบุรี

จันทบุรีเป็นแหล่งผลิตผลไม้ที่มีคุณภาพสูง โดยเฉพาะ ทุเรียน มังคุด ลำไย เงาะ และมีมูลค่าการส่งออกผลไม้สูงถึง 120,000 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา 

จันทบุรีพร้อมที่จะยกระดับเทศกาลผลไม้ประจำปีและของดีเมืองจันท์สู่ “ Fruitpital เทศกาลมหานครผลไม้เมืองร้อนจันทบุรี” ด้วยยุทธศาสตร์ 4F คือ 1. Fresh Fruit – อิ่มเอมกับผลไม้สดที่คัดสรรมาอย่างดี 2. Fine Food – ครบครันคาว – หวาน ด้วยวัตถุดิบจากผลไม้เมืองร้อน 3. Fun Farm – การท่องเที่ยวเชิงเกษตร (Agri-tourism) 4. Full Fame – รวมผลไม้เมืองร้อนที่ขึ้นทะเบียน G.I. และร่วมค้นหา “ราชาผลไม้แต่ละสายพันธุ์”

การรวมพลังจากหลายภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา และชุมชนในท้องถิ่น เพื่อการส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนและดึงดูดคนรุ่นใหม่ เกษตรกรรุ่นใหม่ และผู้ประกอบการในพื้นที่ ได้มองเห็นโอกาสในการสร้างอาชีพ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างจันทบุรีให้เป็น “มหานครผลไม้ที่น่าลงทุน น่าอยู่ และน่าท่องเที่ยว” มุ่งสู่การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่น่าจดจำให้กับผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศว่า “ถ้าคิดถึงผลไม้เมืองร้อน ต้องคิดถึงจันทบุรี”

  • เชียงราย

Chiang Rai BREW Festival  เทศกาลชากาแฟ ที่ผลักดันเชียงรายสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทย

“เชียงราย” เมืองเหนือสุดของประเทศไทย เมืองแห่งชาและกาแฟคุณภาพระดับโลก ที่เปี่ยมด้วยอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม และศักยภาพทางเศรษฐกิจอย่างแท้จริง 

Chiang Rai BREW Festival คือดีไซน์เฟสติวัลที่ต่อยอดชาและกาแฟจากผลผลิตท้องถิ่น สู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โดยเชื่อมโยงเส้นทางจากแหล่งผลิตถึงปลายน้ำ ผ่านกิจกรรมตลอดปี เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่บนเส้นทางชา-กาแฟในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

เทศกาลนี้ไม่เพียงมุ่งเน้นด้านการบริโภค แต่ขยายไปสู่การ จับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการท้องถิ่น นักวิชาการ นักเศรษฐกิจสร้างสรรค์ กับนักลงทุนรุ่นใหม่ เพื่อการยกระดับ Local Business to international Business  และการสร้างมูลค่าเพิ่มในอุตสาหกรรมภาคเกษตร ภาคการท่องเที่ยว การพัฒนานวัตกรรม  โดยเฉพาะกลุ่ม Specialty ที่ให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่อความยั่งยืน

  • นครราชสีมา

“K-BATTLE International HIPHOP Festival” “เทศกาลที่จะอวดเมืองโคราชให้โลกรู้ ด้วยการเต้น เสียงดนตรี และศิลปะ”

หากใครยังจำได้ ภาพ MILLI ขึ้นโชว์บนเวที Coachella พร้อมกับเมนูข้าวเหนียวมะม่วง หรือ LISA วง Black Pink มาถ่ายมิวสิกวิดีโอที่ถนนเยาวราช Soft Power เหล่านี้ได้สร้างภาพให้คนทั้งโลกได้รู้จักเมืองไทยในมุมมองใหม่ ๆ ได้อย่างน่าสนใจ เช่นเดียวกับ K-BATTLE International HIPHOP Festival ก็มีความตั้งใจคล้าย ๆ กัน ที่จะสร้างและผลักดันบุคลากรที่มีศักยภาพในการเป็นตัวแทน Soft Power ไทยให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านดนตรี ศิลปะ และวัฒนธรรม

ด้วยเทศกาลที่รวมศิลปะและวัฒนธรรมร่วมสมัย ตลอดจนการนำวัฒนธรรมท้องถิ่นเข้ามาผสมผสาน ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ที่คอยเสริมสร้างแรงบันดาลใจแก่เยาวชน ไม่ว่าจะเป็นการเวิร์คชอป งานดีไซน์ ไปจนถึงการแข่งขัน ในศิลปะหลากหลายแขนง โดยการผนึกกำลังกันของหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชน ที่มีเป้าหมายร่วมกันในการสร้างแรงดึงดูดผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก ด้วยความสุขและความสนุกในศิลปะที่เป็นสากล

  • พิษณุโลก

Phit‘lok Warrior Spirit Fest   เทศกาลมหาจิตนักรบพิษณุโลก

เปลี่ยนประวัติศาสตร์สงครามในอดีตให้กลายเป็นเสน่ห์ของเมือง ด้วยเรื่องเล่าจากแรงบันดาลใจ ผ่านศิลปวัฒนธรรมวิถีชีวิตและภูมิปัญญาท้องถิ่น อาทิ อาหาร การแต่งกาย สิ่งของเครื่องใช้ การตีดาบ ศิลปะการต่อสู้  สื่อผ่านถึงตัวตนของนักรบในประวัติศาสตร์บนแผ่นดินเกิดขององค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชสู่เป้าหมายให้พิษณุโลกเป็นเมืองแห่งสันติภาพ

เป้าหมายของเทศกาลนี้คือการนำเสนอให้ พิษณุโลก เป็น เมืองแห่งสันติภาพ โดยนำประวัติศาสตร์สงครามที่น่าศึกษา ให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้มาสัมผัสกับกลิ่นไอของอดีต เรียนรู้เรื่องราวการต่อสู้ของนักรบโบราณนานาชาติที่มีประวัติศาสตร์การต่อสู้เพื่อปกป้องประเทศหรือเคยอยู่ในภาวะสงคราม ทั้งหมดนี้จะนำเสนออย่างสร้างสรรค์ ให้เป็นแรงบันดาลใจต่อสมาชิกชาวโลกให้ตระถึงความสำคัญในคำว่า สันติภาพ

  • เพชรบุรี

เทศกาลพระนครคีรี-เมืองเพชร “เทศกาลประดับประดาพระนครคีรี(เขาวัง) ร้อยเรียงเรื่องเมือง โอกาส และวัฒนธรรม”

เทศกาลพระนครคีรี-เมืองเพชร คือเทศกาลสำคัญประจำปีของจังหวัดเพชรบุรี จัดต่อเนื่อง 10 วัน 10 คืน ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จัดมาแล้วยาวนานถึง 38 ครั้ง (ระหว่าง พ.ศ. 2528 -2568)

เสน่ห์ของงานนอกจากการได้น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและพระราชกรณียกิจของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีต่อประเทศชาติ และปวงชนชาวไทย การส่งเสริมการท่องเที่ยวด้านประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมและกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดเพชรบุรีแล้ว ไฮไลท์สำคัญคือการประดับประดาไฟให้งดงามตระการตาทั้ง 3 เขา ให้กลายเป็นวิมานฟ้า หนึ่งเดียวในประเทศไทย ที่ได้ขึ้นชมหมู่พระที่นั่งพระราชวังในยามค่ำคืน ที่ยอดเขาตะวันตก ชมพระธาตุจอมเพชรที่ยอดเขากลาง ชมพระเจดีย์แดง พระสุทธเสลเจดีย์ วัดพระแก้วน้อย ที่ยอดเขาตะวันออก เสมือนเป็นลานบ้าน ต่อเนื่องจากพระนครคีรีลงมาถึงอุทยานเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 4 ด้านหน้าเขาวังให้เป็นเหมือนลานเมือง ที่เป็นวิมานบนดิน

ความน่าสนใจยังอยู่ที่กิจกรรมที่กลายเป็น Talk of the Town ได้แก่การชูความโดดเด่นของอาหารพื้นถิ่น เมืองเพชรบุรี เมืองสามวัง เมืองสามรส เมืองสามทะเล ที่ UNESCO ยกให้เป็น “เมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร” (UCCN, Phetchaburi City of Gastronomy) ผ่านการนำเสนอแบบสมัยใหม่อย่าง Chef’s Table ณ พระนครคีรี ให้นักท่องเที่ยว นักเดินทางไมซ์ นักชิมจากทั่วสารทิศ ต้อนรับประดุจอาคันตุกะแขกบ้านแขกเมือง ร้อยเรียงเป็นเรื่องราวตามรอยสำรับอาหารในรัชกาลที่ 4-5-6

  • แพร่

Phrae Baan Baan 7 Wonders: แพร่บ้านบ้าน 7 วันเด้อ “วิถีเรียบง่ายที่เชื่อมป่า ผู้คน และโลกเข้าด้วยกัน ผ่าน 7 สิ่งมหัศจรรย์จากป่าเมืองแพร่” 

จังหวัดแพร่ เมืองเล็กกลางหุบเขาทางภาคเหนือของไทย พื้นที่ซึ่งธรรมชาติและวัฒนธรรมหลอมรวมกันอย่างแนบแน่น ผู้คนยังคงใช้ชีวิตเรียบง่าย ผูกพันกับป่าไม้ งานฝีมือ และภูมิปัญญาที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น

เทศกาล “แพร่บ้านบ้าน” ถ่ายทอดความเรียบง่ายของวิถีชีวิตคนแพร่ ซึ่งหยั่งรากลึกอยู่ร่วมกับ “ป่า” อันเป็นแหล่งกำเนิดของวัฒนธรรม ภูมิปัญญา และแรงบันดาลใจที่หล่อหลอมผู้คนมาช้านาน นำเสนอผ่าน 7 สิ่งมหัศจรรย์จากป่าเมืองแพร่ ได้แก่ อาหาร, เครื่องดื่ม, งานผ้า, งานไม้, สายมู, งานคราฟต์ และชนเผ่า ที่อยู่ร่วมกับผืนป่าอย่างลึกซึ้ง 

“แพร่บ้านบ้าน” จึงเป็นโมเดลการพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่ต่อยอดทุนทางธรรมชาติและวัฒนธรรมไปสู่สินค้า บริการ และการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ เพื่อกระจายรายได้กลับสู่ชุมชน พร้อมส่งเสริมคุณค่าท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ “ป่า” เป็นภาษากลางของมนุษยชาติ เทศกาลนี้จึงเป็นเหมือนคำชวนจากบ้านหลังเล็กกลางป่าใหญ่สู่ผู้คนทั่วโลก ให้กลับมาค้นหาต้นกำเนิดของตัวเอง ผ่านวิถีชีวิตที่เรียบง่าย อ่อนโยน และกลมกลืนกับธรรมชาติอย่างแท้จริง

  • เลย

“LOEI MASK FEST เทศกาลหน้ากากเลย” จากตำนานสู่งานสร้างสรรค์ “เทศกาลหน้ากาก 3 ผี อวดสี อวดศิลป์”

“LOEI MASK FEST เทศกาลหน้ากากเลย” เป็นเทศกาลที่นำเสนอเอกลักษณ์ของหน้ากาก 3 ผี ในจังหวัดเลย ได้แก่ ผีตาโขน ผีขนน้ำ และผีบุ้งเต้า ซึ่งเป็นสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมของจังหวัด และการนำเสนอ Soft Power ที่รวมเอารากเหง้าทางวัฒนธรรม ความคิดสร้างสรรค์ และศิลปะ มาไว้ในการจัดงาน เทศกาลนี้จึงกลายมาเป็นเทศกาลที่เต็มไปด้วยสีสีน และการแสดงออกทางศิลปะวัฒนธรรมอย่างสร้างสรรค์ 

LOEI MASK FEST จะได้รับการพัฒนาต่อยอดให้กลายเป็นแบรนด์ของเมือง (City Branding) และยกระดับให้เป็นเทศกาลหน้ากากอาเซียน (ASEAN MASK FESTIVAL) ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร โดยจังหวัดเลยจะสามารถผลักดันศักยภาพของเมืองในการรองรับการท่องเที่ยว และการลงทุนจากทั้งในและต่างประเทศ ผ่านการจัดเทศกาลนี้

  • ศรีสะเกษ

Sound of Sisaket: ซาวสีเกด “มากกว่าเทศกาลดนตรี เพราะที่นี่ทุกท่วงทำนองคือพลัง”

Sound Of Siaket คือเทศกาลที่ไม่ได้มีแค่เสียงดนตรี แต่เป็นเทศกาลประจำเมืองศรีสะเกษที่รวบรวมความหลากหลายของท่วงทำนอง ทั้งแบบดั้งเดิม และร่วมสมัยเอาไว้อย่างน่าทึ่ง 

เทศกาลจัดขึ้นครั้งแรกในปี 2565 ไฮไลต์อยู่ที่ไอเดียการเปลี่ยนย่านเมืองเก่าให้กลายเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นเวทีร้อง เต้น เล่นดนตรี สนามประลองความยิ่งใหญ่ของวงโยธวาทิตระดับโลก กับหมุดหมายในการเข้าสู่เครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ด้านดนตรีของยูเนสโก  

นอกจากความยิ่งใหญ่ของทุกแขนงของเสียงดนตรี ทุกตรอก ซอก ซอย บ้านเก่า หรือแม้แต่ธุรกิจคาเฟ่ และร้านอาหารในย่าน ยังกลายเป็นสตูดิโอมีชีวิต อัดแน่นด้วยกิจกรรม อาทิ เวิร์กช็อป เสวนา พื้นที่แสดงผลงานของคนในพื้นที่

  • สุโขทัย

“Sukh Festa: Sukhothai Happiness Festival”  เทศกาลขับเคลื่อนเมืองยั่งยืนด้วยสีสันความสุขแบบฉบับสุโขทัย

สุโขทัย เมืองมรดกโลกที่เปล่งประกายความสุขทั่วทุกมุมเมือง ราชธานีแห่งแรกของสยามที่ยังคงวัฒนธรรมอันเรืองรอง และยกระดับสู่เมืองสร้างสรรค์ด้านหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน สะท้อนถึงความร่วมมือร่วมใจของชุมชนที่ขับเคลื่อนเมืองให้เป็น “รุ่งอรุณแห่งความสุข” อันเป็นความหมายของชื่อจังหวัด สุโขทัย

 Sukh Festa: Sukhothai Happiness Festival ใช้ความสุขในการร่วมรังสรรค์งานเทศกาลของเมือง และขับเคลื่อนเมืองด้วยระบบนิเวศของการพึ่งพาตนเองเพื่อความยั่งยืน ด้วยแนวคิดหลักของการจัดงานที่ว่า ให้การเฉลิมฉลองความสุขแผ่กระจายไปทั่วเมืองสุโขทัยเพื่อชาวสุโขทัย ผู้มาเยือน และเพื่อนๆของเรา

เน้นการนำเสนอความสุขตามวิถีของสุโขทัย ทั้งงานศิลปหัตถกรรม ศิลปะพื้นบ้าน อาหารการกิน รวมถึงงานประเพณีวิถีพุทธที่เป็นอัตลักษณ์ของจังหวัด อาทิ  “สุขใจคราฟท์” โดย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด , “เวียนเทียนตะคัน” โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุโขทัย กำแพงเพชร อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย, “บ้านบ้านเฟส” โดย ภาคีเครือข่ายภาคประชาชน  ได้แก่  กลุ่มสุโขทัยอาสาพัฒนาเมือง, “สุขซุกศิลป์ Art from Agriculture” โดย เครือข่ายเกษตรอินทรีย์ตลาดมีเขียว, “ฟาร์มสุข” โดย โรงแรมสุโขทัยเทรเชอร์ รีสอร์ต แอนด์ สปา, “เฮือนพวนชวนคราฟท์” โดย พิพิธภัณฑ์บ้านไทยพวน

  • อุบลราชธานี

“Life City Candle ฅน เมือง เทียน”  จากประเพณีแห่เทียนพรรษา สู่เทศกาลสร้างสรรค์ร่วมสมัย

ในทุกๆ ปี ชาวอุบลราชธานีหลากสายอาชีพ หลากหลายช่วงวัย จะช่วยกันเตรียมงานแห่เทียนเป็นระยะเวลาร่วมเดือน จังหวะชีวิตที่สอดประสานกับการทำเทียนสร้างบรรยากาศทั้งเมืองให้เปี่ยมเสน่ห์ ที่เมื่อใครได้สัมผัสก็ยากจะลืมเลือน และในอนาคตข้างหน้า คนจะไม่ได้รู้จัก ”เทียน” จากในแง่ของความศรัทธาและขบวนแห่สวยงามเท่านั้น แต่จะรู้จักจากเมืองอุบลราชธานีทั้งเมือง เป็นผู้เล่าเรื่องราววัฒนธรรมที่พวกเขารักด้วยตัวเอง ผ่านไอเดียอวดเมือง “Life City Candle”

“Life City Candle (LCC) ฅน เมือง เทียน” จะขยายช่วงเวลาของเทศกาลเทียนให้กว้างขึ้น จากขบวนแห่ 2 วัน สู่ 120 วันแห่งเทศกาลเทียน ที่จะพาคุณไปสัมผัสเสน่ห์เมืองทั้งในมิติด้านประเพณี ภูมิปัญญา และการใช้ชีวิต ผ่านกิจกรรมตลอด 4 เดือนที่สร้างสรรค์โดยชาวอุบลราชธานี เพื่อยกระดับภูมิปัญญาการทำเทียนพรรษาให้เป็นงานหัตถศิลป์ระดับสากล โดยการต่อยอดองค์ความรู้ให้เติบโตต่อได้ในระยะยาว…ไม่ใช่ในระดับเมืองหรือประเทศ แต่ไปไกลได้ถึงระดับโลก เพื่อกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ดึงดูดผู้คนกลับคืนสู่บ้าน และยังออกแบบระบบเครือข่ายผู้ประกอบการ พัฒนาแพลตฟอร์มเมือง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวและชาวอุบลราชธานี

แต่ละเมืองอาจต่างกันที่ขนาด จำนวนของผู้คน แต่ที่ทุกเมืองมีเหมือนกันคือเรื่องเล่าที่รอจะถูกฟัง และวันนี้เสียงของคนท้องถิ่นกำลังถูกขยายไปไกลกว่าที่เคยคิด

พร้อมแล้วหรือยังกับการอวดเมืองของคุณให้โลกรู้  ร่วมเชียร์ ร่วมโหวต แสดงพลังเชียร์ให้กับ  12 จังหวัดผู้ชนะ การคัดเลือกรอบสุดท้ายโครงการ “อวดเมือง The Pitching 2568” ให้กับจังหวัดที่คุณรักได้เฉิดฉายสู่ความภาคภูมิใจไปด้วยกัน


อ่านเพิ่มเติม : เมืองโบราณศรีเทพ “สิริแห่งพระเป็นเจ้า”

Recommend