ผูกมิตรกับไฟ การเผาขนาดเล็กที่ช่วยควบคุมไฟป่า และรักษาผืนดิน

ผูกมิตรกับไฟ การเผาขนาดเล็กที่ช่วยควบคุมไฟป่า และรักษาผืนดิน

เช่นเดียวกับหญิงชาวอะบอริจินก่อนหน้าเธอ เฌอวาน ซิงเกิลตัน ช่วยดูแลการเผาคุม ซึ่งเป็นการเผาขนาดเล็กที่ช่วยควบคุมไฟป่าและรักษาผืนดิน

ความทรงจำแรกสุดของฉันเกี่ยวกับ บิรีบิรี หรือไฟ เกิดขึ้นตอนฉันอายุหกขวบ ฉันนั่งอยู่บนโซฟาตัวเก่าในเรือนไม้เปิดโล่งมุงสังกะสี พลางฟังพี่เลี้ยงเล่านิทาน ฉันดูเธอหุงหาอาหารบนเตาไฟที่ต่อขึ้นจากเหล็กและท่อนซุงเหมือนบ้าน ที่เราอยู่ ท่อนซุงที่ฉันยังคงได้ยินเสียงมันส่งเสียงลั่นในทุกวันนี้

ในฐานะชนพื้นเมืองของแหล่งมรดกโลกป่าฝนเขตร้อนเว็ตทรอปิกส์ออฟควีนส์แลนด์บนชายฝั่งอันไพศาลทางตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรเลีย เรายังคงสืบทอดวัฒนธรรมการใช้ไฟชิงเผาเพื่อปกปักรักษาจิตวิญญาณ ผืนดินและพืชพรรณ นี่คือความรู้ที่มีชีวิต เป็นความสัมพันธ์ที่ผูกโยงเรากับผืนดินแห่งบรรพชน บิรีบิรีคือยารักษาโรคทั้งสำหรับ บลูมบา มาตุภูมิของเรา และกุลบุล ท้องทะเลของเรา มันช่วยชำระล้างจิตวิญญาณ เมื่อเราออกเดินและฝึกฝนการใช้ไฟเราพูดคุยกันถึงการจัดเรียงรูปแบบที่แตกต่างของพืชพรรณ หรือโครงสร้างต่างๆ จากชั้นใบไม้ไปจนถึงการเชื่อมโยงกับต้นหญ้าผ่านระบบราก ดิน และภูมิประเทศชนิดต่างๆ เราอ่านสัญญาณต่างๆ จากแผ่นดินเกิด และเรียนรู้ดัชนีชี้วัดต่างๆ จากผืนดินสู่ท้องฟ้า เพื่อบอกให้เรารู้ถึงช่วงเวลาที่เหมาะสม

กำแพงไม่อาจขวางกั้นเราจากบ้านเกิดเมืองนอน ในฐานะผู้หญิงชาวอิรูกันด์จีและผู้รักษาภูมิปัญสญา ความท้าทายต่างๆ ที่ฉันเผชิญหาได้มีเพียงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่ทำให้เราต้องรับมือกับสภาพการณ์ต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและเหตุการณ์สภาพอากาศสำคัญๆ แต่ยังรวมถึงความล่าช้าของรัฐบาลออสเตรเลียในอันที่จะยอมรับและตระหนักถึงสิทธิทางวัฒนธรรมและในดินแดนของเรา การเป็นผู้หญิงที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมการใช้ไฟชิงเผานำมาซึ่งความท้าทายรอบด้าน พวกผู้ชายในชุมชนของเราบอกฉันว่า ผู้หญิงไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับบิรีบิรี และว่าพวกเราไม่เคยมีธรรมเนียมปฏิบัติเรื่องการชิงเผา

ผู้พิทักษ์ป่าชนพื้นเมืองอะบอริจินเผ่าจาบูไก (จากซ้ายไปขวา) เดเมียน ฮันเตอร์, นิววาร์รี กิลเคอร์สัน, เลวี นิวเบอรี และแกวิน ดอนาฮิว อาศัยภูมิปัญญาท้องถิ่นในการชิงเผาเพื่อป้องกันไฟป่าในป่าเปิดของเว็ตทรอปิกส์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแหล่งมรดกโลก
ในผืนป่าที่อยู่ติดกับอุทยานแห่งชาติเคอแรนดาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนมาตุภูมิชนเผ่าจาบูไก การชิงเผาช่วยให้ป่าฝนเจริญงอกงาม และควบคุมพืชต่างถิ่นรุกราน เปิดพื้นที่ให้ชีวิตใหม่มีโอกาสเติบโต

 

ชนิดพันธุ์ต่างๆ ที่มีความสำคัญเชิงวัฒนธรรม ต่างปรับตัวจนมีส่วนช่วยกระจายเมล็ดพันธุ์และฟื้นฟูสภาพื้นป่าหลังการชิงเผา อาทิ นกแคสโซแวรี
งูหลามคาร์เพต
แมงมุมใยทอง
กบต้นไม้เคอแรนดา

เรามีบทบาทและความสัมพันธ์กับบิรีบิรีมาตลอด พวกผู้หญิงรอบรู้เรื่องพืช เรารู้ว่าจะเก็บมันได้เมื่อไรและอย่างไร เหมือนกับที่เรารู้ว่าจะสานมันเป็นตะกร้าเพื่อใช้เก็บอาหาร ตลอดหลายชั่วอายุคนมาแล้วที่บิรีบิรีเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรา ฉันจำได้ถึงวันคืนเก่าๆ ที่อยู่กับบรรดาป้าๆ เรานั่งกันอยู่ที่ชายหาดระหว่างรออาหารสุกบนบิรีบิรี หรือจะเป็นหลังจากใช้เวลาทั้งวันออกไปหาอาหาร เราล้อมวงรอบบิรีบิรีเพื่อความอบอุ่น ขณะที่สายลมโอบรอบตัวเรา

ทุกครั้งที่หวนคืนสู่บ้านเกิด เรามักพูดคุยสื่อสารกับบรรพชน บรรดาผู้เฒ่าผู้แก่สอนฉันให้รักษาภูมิปัญญาและความเชื่อมโยงกับโลกธรรมชาติเพื่อคนรุ่นหลัง และหากเราอยากรักษาภูมิปัญญาให้มีชีวิตอยู่ต่อไปในเผ่าพงศ์ของเรา เราจำเป็นต้องอดทน เช่นเดียวกับที่เราต้องอดทนเพื่อรักษาครรลองวัฒนธรรมของเราให้มีลมหายใจต่อไป จะว่าไปก็เหมือนเห็นพืชสักต้นเป็นครั้งแรก และเรียนรู้เกี่ยวกับมันมากเท่าที่เราทำได้  เพื่อเชื่อมโยงกับมัน รู้จักผิวสัมผัสและกลิ่นของมัน นี่คือสิ่งที่ฉันได้เรียนรู้จากผู้เฒ่าผู้แก่ และฉันจะสืบทอดมันต่อไป

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้พิทักษ์ป่าชาวอะบอริจินและการชิงเผาได้ที่ natgeo.com/culturalfire

เรื่อง: เฌอวาน ซิงเกิลทัน

ภาพถ่าย: คิลอิ ยู่หยาน


อ่านเพิ่มเติม : “ที่นี่คือแผ่นดินโคฟาน ของเรา ไม่ใช่ของคุณ” สะท้อนวิธีการที่สหายร่วมชาติพันธุ์ โคฟาน เมื่อเห็นภัยคุกคามต่อชีวิตและผืนแผ่นดินของพวกเขา

Recommend