แมรี่ แม็กดาลีน คือใคร? สตรีที่ถูกอ้างเป็นภรรยาพระเยซู มีตัวตนจริงไหม?

แมรี่ แม็กดาลีน คือใคร? สตรีที่ถูกอ้างเป็นภรรยาพระเยซู มีตัวตนจริงไหม?

แมรี่ แม็กดาลีน หนึ่งในผู้หญิงที่ได้รับการกล่าวถึงมากที่สุดคนหนึ่งในพระคัมภีร์ไบเบิลพันธสัญญาใหม่ ซึ่งนักประวัติศาสตร์และนักวิชาการยังคงไม่เลิกสืบค้นความจริงเกี่ยวกับเธอ

ทั่วโลกให้ความสนใจชื่อของ แมรี่ แม็กดาลีน จากภาพยนตร์เรื่อง The Davinci Code ที่สร้างจากนวนิยายของ แดน บราวน์ เธอคือสตรีซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในเรื่อง แต่ในประวัติศาสตร์ แมรี่ แม็กดาลีนถูกบันทึกว่าเป็นทั้งผู้หญิงใจบาปที่ถูกผี 7 ตนเข้าสิงร่าง , โสเภณี และเป็นภรรยาของพระเยซู

เรื่องราวของแมรี่ แม็กดาลีน ได้รับการเล่าขานนับครั้งไม่ถ้วนในรอบ 2,000 ปีนับตั้งแต่เธอ หญิงสาวจากเมืองมักดาลาที่ตั้งอยู่ทางเหนือของแคว้นกาลิลี ตัดสินใจเข้ามาเป็นสาวกของพระเยซู ชาวนาซาเร็ธ ผู้ที่ต่อมากลายเป็นศาสดาของศาสนาคริสต์

แม้จะมีบันทึกเกี่ยวกับแมรี่ แม็กดาลีน มากมายในพระคัมภีร์ไบเบิล แต่เรื่องราวมากมายเกี่ยวกับเธอยังเต็มไปด้วยความลึกลับ อะไรคือความจริงเกี่ยวกับเธอ และนักวิชาการมีหลักฐานทางโบราณคดีอะไรบ้างเกี่ยวกับชีวิตของ แมรี่

แยกข้อเท็จจริงจากนิยาย

สำหรับหลักฐานต้นฉบับเกี่ยวกับ แมรี่ แม็กดาลีน ส่วนใหญ่มาจากบันทึกชีวิตของพระเยซู โดย มัทธิว มาระโก และ ลูกา ยอห์น พวกเขาระบุว่าเธอเป็นส่วนหนึ่งของสาวกพระเยซูและเป็นผู้ที่ไปที่หลุมศพของพระองค์เพื่อเจิมพระวรกายในเช้าวันอีสเตอร์ วันที่พระเยซูทรงพระชนม์อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม นักประวัติศาสตร์ไม่เห็นด้วยกับรายละเอียดเกี่ยวกับแมรี่ แม็กดาลีน ทั้งหมด เช่น ลูกา อ้างว่ามีปีศาจเข้าสิงเธอ และคนอื่นๆ อ้างว่า แมรี่ แม็กดาลีน ได้เห็นการตรึงกางเขนพระเยซู เป็นต้น

นอกจากนี้ บันทึกของ มัทธิว มาระโก และ ลูกา ยอห์น ไม่เป็นที่ยอมรับของคริสเตียนยุคแรก รวมถึงมีเรื่องราวที่แตกต่างกันเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของ แมรี่ แม็กดาลีน กับพระเยซู โดยเบาะแสของเรื่องดังกล่าวอาจโยงถึงข้อความที่ระบุว่า สาวกผู้ชายของพระเยซูรังเกียจ แมรี่ เพราะเธอเป็นสาวกผู้หญิง

ส่วนข้อมูลอื่นๆ มีนักวิชาการตั้งข้อสังเกตว่า แมรี่ แม็กดาลีน ไม่เคยถูกตั้งชื่อให้เกี่ยวข้องกับผู้ชายเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ในยุคนั้น แสดงว่า เธอป็นผู้หญิงที่มีความมั่นใจพอสมควร

ความไม่ชัดเจนของข้อมูลในพระคัมภีร์เกี่ยว แมรี่ แม็กดาลีน ทำให้เกิดตำนาน-เรื่องเล่าที่อาจชวนให้เข้าใจผิด เช่น การกล่าวหาว่าเธอเป็นโสเภณี ซึ่งเพิ่งเกิดขึ้นในปี 591 เมื่อสมเด็จพระสันตะปาปาเกรกอรีที่ 1 เข้าใจผิดว่าเธอ ถูกคุณ ลูกา ยอห์น ระบุว่าเป็น คนบาป โดยไม่มีหลักฐานใดอ้างดิงใดๆ แต่แนวคิดนี้กลับฝังรากลึกจนยากที่จะลบล้างได้

หลักฐานทางโบราณคดีเกี่ยวกับ แมรี่ แม็กดาลีน

จุดเริ่มต้นสืบค้นเรื่องราวของ แมรี่ แม็กดาลีน ควรเริ่มที่ เมืองมักดาลา ที่คาดการณ์ว่าตั้งอยู่ทางเหนือของแคว้นกาลิลี อยู่ทางฝั่งตะวันตกของทะเลกาลิลี ปัจจุบันเชื่อว่าคือพื้นที่หนึ่งในภาคเหนือของประเทศอิสราเอล

นักประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่าชื่อ มักดาลา หมายถึงสถานที่ประสูติของมารีย์ ด้วยเหตุนี้ผู้คนจึงเธอว่า มารีย์แห่งมักดาลา สาวกสตรีคนสำคัญ ที่ต่อมากลายเป็นหนึ่งในผู้ติดตามพระเยซูที่ได้รับการสรรเสริญสูงสุดคนหนึ่ง

มักดาลา ถูกบันทึกในช่วงศตวรรษที่ 6 ชวนคริสเตียนยุคแรกเริ่มเรียกสถานที่บางแห่งว่า มักดาลา ซึ่งก็คือซากปรักหักพังของเมืองโบราณที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของทะเลกาลิลี แต่ก็มีนักวิชาการบางส่วนแย้งว่า ยังไม่มีหลักฐานที่ยืนยันได้ว่า เมืองมักดาลาคือบ้างเกิดของแมรี่ แม็กดาลีน จริงๆ

ช่วงศตวรรษแรก สถานที่นี้เป็นที่รู้จักในชื่อกรีกคือ ทาริเคีย ไม่ได้เป็นที่รู้จักในชื่อมักดาลา จึงอาจถือเป็นความเข้าใจผิดครั้งใหญ่ที่จะเรียกแมรี่ แม็กดาลีน ว่า มารีย์แห่งมักดาลา เพราะไม่มีผู้เขียนบันทึกคนใดพูดถึงเรื่องบ้านเกิดของเธอ ดังนั้น มารีย์แห่งมักดาลา อาจเป็นการบ่งบอกถึงตำแหน่งแทนที่จะเป็นบ้านเกิดของแมรี่ แม็กดาลีน ก็ได้

หลักฐานทางโบราณคดีสามารถยุติคำถามเหล่านี้ได้ในทางทฤษฎี โดยการขุดค้นพื้นที่ที่ระบุว่าเป็นเมืองมักดาลาเผยให้เห็นข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของ แมรี่ แม็กดาลีน ในปี 2009 นักโบราณคดีได้ค้นพบโบสถ์ยิวโบราณพร้อมด้วยหินแกะสลัก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าชาวมักดาลาในศตวรรษแรกนับถือศาสนาได้อย่างไร

ขณะเดียวกันยังพบว่า มีการติดตั้งน้ำแบบขั้นบันไดในพื้นที่สาธารณะและส่วนตัว ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับพิธีกรรมชำระล้างในชุมชนชาวยิว แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานทางโบราณคดีเกี่ยวกับ แมรี่ แม็กดาลีน ด้านศพของเธอที่ถูกอ้างว่าพบที่ฝรั่งเศสหรือสุสานในศตวรรษแรก ณ กรุงเยรูซาเล็ม ก็ยังไม่มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือมากนัก โดยเฉพาะเรื่องที่บางคนอ้างว่า แมรี่ แม็กดาลีน เป็นภรรยาของพระเยซู แต่ไม่ได้มีหลักฐานมารองรับ

เติมเต็มช่องว่างในประวัติศาสตร์ของ แมรี่ แม็กดาลีน

นักวิชาการเปิดเผยเบาะแสเกี่ยวกับชีวิตของแมรี แม็กดาเลน จากตำราโบราณที่สูญหายไปนาน โดยเมื่อปลายปี 2023 มีการตีพิมพ์ชิ้นส่วนกระดาษปาปิรัสจากอียิปต์ที่อาจเปิดเผยข้อมูลสำคัญที่ยืนยันว่า แมรี แม็กดาเลน อาจเป็นสาวกที่ใกล้ชิดที่สุดคนหนึ่งของพระเยซู ซึ่งเศษกระดาษปาปิรุสชิ้นนี้สนับสนุนความเป็นไปได้ว่า พระเยซูทรงได้สอนผู้หญิงที่ชื่อ แมรี ถึงวิธีที่จมีชีวิตนิรันดร์ ทว่ากระดาษชิ้นนี้ไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่า สตรีผู้นี้คือ แมรี แม็กดาเลน

กระนั้น นักวิชาการ ได้ขยายความเพิ่มเติมว่า มีหลายสิ่งที่มนุษย์จะไม่มีวันรู้เกี่ยวกับแมรี แม็กดาเลน เราไม่สามารถแน่ใจได้ว่าเธอเกิดที่ไหน ครอบครัวของเธอเป็นใคร อายุของเธอ ณ เวลาถูกตรึงกางเขน หรือเกิดอะไรขึ้นกับเธอหลังจากเหตุการณ์ในเช้าอีสเตอร์

ว่าแต่ทำไมนักประวัติศาสตร์และนักวิชาการยังคงทุ่มเทเวลาสืบค้นประวัติของแมรี แม็กดาเลน ต่อไป เนื่องจากเรื่องราวของเธอเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของศาสนาคริสต์ และเธอถูกเข้าใจผิดมาเป็นเวลานาน การขาดแคลนหลักฐานเกี่ยวกับแมรี แม็กดาเลน ทำให้ตำนานต่างๆ ขยายออกไปเป็นเวลาหลายร้อยปี มีทั้งข้อมูลที่ตรงตามประวัติศาสตร์ และข้อมูลเท็จจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม ข้อดีอย่างหนึ่งคือแมรี แม็กดาเลน ถูกยกย่องเป็นนักบุญอุปถัมภ์ของผู้ที่ค้าบริการทางเพศและหญิงที่ถูกสังคมตราหน้าว่าเป็นคนบาปในหลายพื้นที่ทั่วโลกมายาวนานหลายศตวรรษ

นอกจากนั้น แมรี แม็กดาเลน ยังมีความเกี่ยวข้องกับการเป็นพระแม่ของกลุ่มคนที่เคยถูกกีดกันในอดีต อาทิ ผู้ป่วยโรคเรื้อน โรงพยาบาลโรคเรื้อนแบ่งแห่งใช้ชื่อของเธอ และหลายคนมองว่า เแมรี แม็กดาเลน เป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของกลุ่มคนที่ถูกสังคมละเลย ปฏิเสธ หรือ มองข้าม

แมรี แม็กดาเลน ถูกยกย่องและได้รับการนับถือในกลุ่มคนมากมายที่รู้สึกว่าเสียงและเรื่องราวของพวกเขาไม่ได้รับการรับฟังหรือเห็นคุณค่า การนำเรื่องราวของเธอมาเปิดเผย จึงอาจช่วยฟื้นแง่มุมที่สำคัญทางประวัติศาสตร์บางอย่างที่เคยถูกมองข้ามไป

 

แปลและเรียบเรียงโดย สิทธิโชติ สุภาวรรณ์

เรื่องโดย Parissa DJangi

 

ภาพจาก  BRIDGEMAN IMAGES

Nationalgeographic

อ่านเพิ่มเติม : เผยโฉมใบหน้าของแมรี แม็กดาลีน 

mary-magdalene

Recommend