โดนาเตลโล กับการพลิกโฉมศิลปะยุคเรอเนสซองส์ ศิลปินผู้บุกเบิกงานให้ ไมเคิลแองเจโล

โดนาเตลโล กับการพลิกโฉมศิลปะยุคเรอเนสซองส์ ศิลปินผู้บุกเบิกงานให้ ไมเคิลแองเจโล

โดนาเตลโล คือศิลปินที่บุกเบิกศิลปะยุคเรอเนสซองส์ แม้ว่าเขาจะไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ใน 4 ศิลปินเอกของประเทศอิตาลี อย่าง ลีโอนาร์โด ดาวินชี , ไมเคิลแองเจโล (มีเกลันเจโล)  , ซานโดร บอตติเชลลี และ ราฟาเอล แต่งานของโดนาเตลโลก็ได้ชื่อว่ามีอิทธิพลต่อศิลปินรุ่นหลังอย่างมาก

โดนาเตลโล หรือ โดนาโต ดี นิกโกเลาะ ดี เบตโต บาร์ดี เป็นชาวอิตาลี เกิดเมื่อประมาณปี ค.ศ. 1386  ที่เมืองฟลอเรนซ์ เขาโตครอบครัวชนชั้นกลาง นิกโกเลาะ ดี เบตโต บาร์ดี พ่อของเขามีอาชีพทำผ้าขนสัตว์ อยู่ในสมาชิกของสมาคมพ่อค้าขนแกะแห่งฟลอเรนซ์

ประวัติโดนาเตลโล

สำหรับ โดนาเตลโล เริ่มเรียนศิลปะกับช่างทองท้องถิ่น ราวปี 1403 โดยได้เข้าไปฝึกงานในสตูดิโอของ โลเรนโซ กีแบร์ตี ประติมากรฝีมือดีคนหนึ่งของเมืองฟลอเรนซ์ทำให้เขาได้เรียนรู้งานประติมากรรมในสไตล์โกธิคนานาชาติของ กีแบร์ตี ซึ่งประกอบด้วยเส้นโค้งที่สง่างามและนุ่มนวลเป็นจุดเด่น ผลงานในช่วงแรกของโดนาเตลโลจึงได้รับอิทธิพลอย่างมากจากผลงานของ กีแบร์ตี

ต่อมา โดนาเตลโล ได้ย้ายไปอยู่ที่กรุงโรม โดยร่ำเรียนและทำงานขุดค้นร่วมกับ ฟีลิปโป บรูเนลเลสกี ระหว่าง ค.ศ. 1404 ถึง ค.ศ. 1407 ซึ่งศิลปินสองคนนี้ได้ชื่อว่าเป็นนักล่าสมบัติ รวมทั้งมีรายได้ส่วนหนึ่งมาจากการทำงานกับร้านช่างทอง

เริ่มสร้างสรรค์ผลงาน

การย้ายมาทำงานในกรุงโรมเป็นจุดสำคัญของการเปลี่ยนแปลงของการวิวัฒนาการของศิลปะอิตาลีในคริสต์ศตวรรษที่ 15 เนื่องจากช่วงนี้ บรูเนลเลสกี ทำการวัดโดมของตึกแพนธีอันและสิ่งก่อสร้างโรมันอื่นๆ ในกรุงโรม สิ่งก่อสร้างของ บรูเนลเลสกี โดดเด่นในแขนงศิลปะโกธิค ส่วนงานประติมากรรมของ โดนาเตลโล มุ่งสร้างสรรค์งานแกะสลักและงานปั้น ทั้งสองถูกยกย่องว่าเป็นงานเอกในการแสดงออกถึงความก้าวหน้าทางสถาปัตยกรรมและประติมากรรมของยุคดังกล่าว

แน่นอนว่าผลงานของ โดนาเตลโล กับ บรูเนลเลสกี ต่างก็มีอิทธิพลต่อจิตรกรอื่น ๆ ของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาต่อมา โดยหลังจากย้ายกลับมาเมืองบ้านเกิด โดนาเตลโล กลับไปช่วยงาน กีแบร์ตี อีกครั้ง ก่อนจะเริ่มรับงานของตัวเอง ผลงานชิ้นแรกๆ ของ โดนาเตลโล คือรูปปั้นไม้แกะสลัก Santa Croce Crucifix ในปี 1408

ผลงานชิ้นเอก

โดนาเตลโล ที่ตอนนั้นเป็นประติมากรที่ตอนนั้นเริ่มโด่งดังได้รับมอบหมายงานสำคัญที่ต่อมาเขาสามารถนำมาต่อเยอดเป็นผลงานชิ้นเอกคือ งานแกะสลักหินอ่อนรูปเดวิด โดนาเตลโล แกะสลักเดวิดออกมาในสไตล์โกธิคที่กำลังได้รับความนิยมในยุคนั้น จุดเด่นของเดวิดตัวนี้อยู่ที่ท่าทางที่ดูแข็งแรง ละเอียดอ่อนประณีตตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นอิริยาบทหลังพิชิตยักษ์โกไลแอทไปแล้ว ถือเป็นผลงานชิ้นเยี่ยมของประติมากรหนุ่มในวัยยี่สิบต้นๆ

ต่อมา โดนาเตลโล  ได้รับงานใหญ่อีกชิ้นหนึ่งเป็นงานแกะสลักหินอ่อน St. John the Evangelist ที่เป็นรูปปั้นในท่านั่ง โดนาเตลโล ใช้เวลา 2 ปีเศษในการสร้างสรรค์งานชิ้นนี้ให้ออกมาวิจิตรงดงามจนกลายเป็นผลงานชิ้นเยี่ยมที่สร้างชื่อเสียงให้เขาอย่างมาก

เทคนิคของศิลปะคลาสสิกยุคโบราณที่เขาได้ศึกษาเรียนรู้จากการขุดค้นซากปรักหักพังเมื่อหลายปีก่อนมาปรับใช้ ปี 1411 – 1413 เขาสร้างรูปแกะสลักหินอ่อน Saint Mark กับรูปปั้น Saint George ในสไตล์ที่เป็นของตัวเอง ซึ่งเริ่มมีการสร้างผลงานแบบใหม่อย่างศิลปะยุคเรอเนสซองส์ หรือ ยุคสมัยฟื้นฟูศิลปะวิทยา ที่มุ่งเน้นมนุษยนิยม กายวิภาคที่งดงาม และดูเหนือจริง

โดนาเตลโล มีชื่อเสียงในฐานะศิลปินผู้มีเทคนิคใหม่ๆ และสร้างสรรค์ผลงานที่มีความโดดเด่นด้านการแสดงอารมณ์บนใบหน้า ท่าทางของร่างกายที่งดงาม กระนั้น ผลงานชิ้นโบว์แดงของเขากลับไม่ใช้งานปั้นหรือแกะสลัก แต่เป็นงานหล่ออย่าง รูปหล่อสำริดเดวิด ที่ทำออกมาอย่างสวยงามสมบูรณ์แบบ เป็นผลงานรูปหล่อท่ายืนแบบอิสระไม่มีการค้ำยันใดๆ ชิ้นแรกของยุคเรอเนสซองส์

เดวิด ของโดนาเตลโลแม้จะคงยึดอิริยาบทหลังพิชิตยักษ์โกไลแอท แต่แตกต่างจากตัวแรกและตัวอื่นๆ ของศิลปินดังทั้งหลายตรงที่ เดวิด ของเขามีร่างเล็ก ไม่มีมัดกล้ามใหญ่โต ถือดาบ สวมหมวก ใส่รองเท้าบูท ขณะที่ศิลปินคนอื่นๆ สร้างเดวิดในรูปแบบของชายเปลือยกล้ามโต โดย เดวิดรูปหล่อสำริดตัวนี้ ถูกชื่นชมว่า มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สง่างาม เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และแสดงอารมณ์ได้สมจริง โดยเฉพาะรอยยิ้มอันลึกลับบนใบหน้า จึงได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในผลงานศิลปะชิ้นเอกแห่งยุคเรอเนสซองส์

ว่ากันว่า ผลงานเดวิดทั้งสองชิ้นของ โดนาเตลโล เป็นต้นแบบของศิลปินรุ่นถัดๆ มา ไม่ว่าจะเป็น ไมเคิลแองเจโล ที่แกะสลักเดวิดสุดวิจิตรในทางที่ต่างออกไป ผลงานภาพวาดกายภาพของ ลีโอนาร์โด ดาวินชี และผลงานของศิลปินคนอื่นๆ ในยุคเรอเนสซองส์ซึ่งนำงานของ โดนาเตลโล มาผสมผสานกับสมัยนิยม จนได้ผลงานที่สวยงามหลายหลายมากที่สุดยุคหนึ่ง

โดนาเตลโลในป๊อปคัลเจอร์

โดนาเตลโล เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ. 1466 ในเมืองฟลอเรนซ์ ซึ่งเขาเป็นหนึ่งในศิลปินที่ถูกตั้งข้อสงสัยว่าเป็นพวกรักร่วมเพศ เช่นเดียวกับ ลีโอนาร์โด ดาวินชี และ ไมเคิลแองเจโล โดยสันนิษฐานว่าเพื่อนๆ ของเขารู้ความลับนี้ และยอมรับได้

ด้านศพของโดนาเตลโลถูกฝังในมหาวิหารซานลอเรนโซ และถือเป็นศิลปินชาวอิตาลีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและทรงอิทธิพลที่สุดในศตวรรษที่ 15 จะเรียกว่ายุครุ่งเรืองของศิลปะอิตาลีก็ได้ ซึ่งต่อมามีการสร้างรูปปั้นของเขาไว้ที่ Niches of the Uffizi Colonnade ในเมืองฟลอเรนซ์

อย่างไรก็ตาม ในวัฒนธรรมป๊อปคัลเจอร์ โดนาเตลโล ถูกนำไปตั้งชื่อเป็น 1 ใน 4 เต่านินจา ในการ์ตูนชื่อดัง Teenage Mutant Ninja Turtles โดยตัวละคร โดนาเตลโล คาดผ้าสีม่วง มีบุคลิกเป็นคนฉลาด ใช้กระบองเป็นอาวุธ ซึ่งตัวอื่นๆ ชื่อ ลีโอนาร์โด , ไมเคิลแองเจโล และ ราฟาเอล ทั้งหมดล้วนถูกตั้งตามชื่อจิตรกรเอกของอิตาลี

 

สืบค้นและเรียบเรียง สิทธิโชติ สุภาวรรณ์ 

ภาพจาก Barbara Noe

 

ข้อมูลอ้างอิง

en.wikipedia.org/wiki/Donatello


อ่านเพิ่มเติม : ราฟาเอล จิตรกรดาวเด่นแห่งยุคเรเนซองส์ ผู้ยกย่อง เลโอนาร์โด ดาวินชี เป็นศิลปินต้นแบบ

Recommend