การ ปวดประจำเดือน ผิดปกติ ที่รุนแรงในแต่ละเดือนของผู้หญิง ส่งผลให้เรียนได้แย่ลงจนกระทบกับ ‘เกรด’ และชี้ให้เห็นว่า ปัญหาดังกล่าวนั้นเป็นเรื่องใหญ่กว่าที่คิด
อาการ ปวดประจำเดือน ผิดปกติ หรือมากกว่าปกติ ส่งผลกระทบต่อชีวิตของใครหลายคนในหลาย ๆ ด้าน ทั้งการใช้ชีวิตประจำวัน การเดินทาง การกิน การพักผ่อน และที่สำคัญ มันส่งผลกระทบต่อการเรียนในกลุ่มวัยรุ่น รวมถึงสุขภาพของแต่ละคน
.
ที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์ได้ตรวจสอบปัญหานี้กับความสามารถในการไปโรงเรียน พวกเขาพบว่า ประจำเดือนที่ผิดปกตินั้นสร้างผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ
.
โดยได้ศึกษาในกลุ่มคนที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี พบว่า ร้อยละ 12 ของนักเรียน/นักศึกษาในประเทศรายได้สูง และร้อยละ 26 ของนักเรียนที่อยู่ในประเทศรายได้ต่ำ ไม่สามารถไปสถานศึกษาได้เนื่องจากประจำเดือนที่ผิดปกติ
.
อีกทั้งยังมีรายงานว่า อาการดังกล่าวรบกวนความสามารถและสมาธิในการเรียนอย่างน่าตกใจ โดยกว่าร้อยละ 41 ของกลุ่มตัวอย่างที่ได้รับการศึกษานั้นระบุว่าอาการประจำเดือนส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพด้านการเรียนของพวกเขา ซึ่งนำไปสู่การพักและการขาดเรียนในที่สุด
.
ด้วยเหตุนี้ เจมมา ซอว์เยอร์ (Gemma Sawyer) จากมหาวิทยาลัยบริสตอลและเพื่อนร่วมงานจึงสงสัยว่า ปัญหาทั้งหมดนั้นส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์ท้ายสุดของการเรียนหรือไม่ ซึ่งก็คือผลการสอบ พวกเขาจึงทำการศึกษาเด็กผู้หญิงกว่า 2,698 คนที่มีอายุระหว่าง 13 ถึง 16 ปีโดยไม่มีชายข้ามเพศ หรือเด็กผู้ชายเข้าร่วม
.
จากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด ร้อยละ 36 ระบุว่าตนเองมีอาการประจำเดือนมากมายและเป็นเวลานาน ขณะที่อีก 56 เปอร์เซ็นบอกว่าตนเองมีอาการปวดประจำเดือนอย่างรุนแรง ทีมงานได้วิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติระบุว่า ผู้ที่มีประจำเดือนผิดปกติจะทำให้ขาดเรียนเพิ่มเติมอย่างน้อย 7 วันต่อปี และมีโอกาสเกือบครึ่ง (48%) ที่จะขาดเรียนต่อเรื่อง
.
จากนั้น ทีมงานก็ได้เปรียบเทียบข้อมูลการขาดเรียนและผลการสอบแบบ ‘GCSE’ ซึ่งเป็นการสอบในระดับชั้นภาคบังคับของอังกฤษ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ โดยทำการควบคุมปัจจัยต่าง ๆ เช่น ดัชนีมวลกาย หรือเชื้อชาติ ซึ่งก็เป็นไปตามคาด
.
ทีมงานพบว่า เด็กหญิงที่มีประจำเดือนผิดปกติทำคะแนนสอบได้น้อยลงเฉลี่ย 5.7 คะแนน ซึ่งหลายครั้งเมื่อตีผลคะแนนที่ได้ ก็ส่งผลทำให้ ‘เกรดตก’ ไปอีกระดับได้เลย เช่น จากเกรด 4 ไปเกรด 3 ไม่เพียงเท่านั้นทีมงานพวกมันมีโอกาส 27% ที่ทำให้ผู้เข้าสอบอาจได้คะแนนต่ำกว่าความเป็นจริง
.
“การศึกษานี้แสดงให้เห็นหลักฐานว่า ประจำเดือนที่ผิดปกติหรือเป็นเวลานาน รวมถึงอาการปวดรุนแรงนั้นสัมพันธ์กับการขาดเรียนที่มากขึ้นและทำให้ผลการเรียนลดลง” ซอว์เยอร์ กล่าว “การค้นพบของเราสอดคล้องกับงานวิจัยก่อนหน้าที่รายงานความสัมพันธ์ระหว่างประจำเดือนผิดปกติกับประสิทธิภาพการทำงาน”
.
สิ่งที่น่าตกใจก็คือเด็กผู้หญิงที่มีอาการปวดประจำเดือน ‘ระดับปานกลาง’ ก็สามารถส่งผลต่อการเรียนได้แล้ว โดยมีแนวโน้มที่จะขาดเรียนเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 1.2 วันต่อปีเมื่อเทียบกับคนที่ปวดเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย อีกทั้งยังทำคะแนนได้น้อยลง 3.14 คะแนน และมีโอกาสผ่านคะแนนมาตราฐานน้อยลง 16%
.
ทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นว่า ปัญหาการมีประจำเดือนส่งผลมากกว่าที่คิด และมันอาจส่งผลต่อความสำเร็จด้านการศึกษารวมถึงอนาคตของนักเรียน/นักศึกษาบางคนก็เป็นไปได้
.
“การศึกษาครั้งนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่คุณอาจกำลังประสบ กับแพทย์ของคุณ” นออร์ ซเวนย์ (Noor Zwayne) จากมหาวิทยาลัยเท็กซัสในออสตินกล่าว
.
เธอเสริมว่า ผลกระทบของผู้หญิงด้านการเป็นประจำเดือนนั้นไม่ได้รับความใส่ใจทางวิทยาศาสตร์มานานแล้ว และสถานการณ์นั้นก็ยิ่งเลวร้ายขึ้นไปอีกในกลุ่มวัยรุ่น
.
อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ระบุว่างานวิจัยยังมีข้อจำกัดในด้านการติดตามข้อมูล เนื่องจากการมีประจำเดือน ‘ผิดปกติ’ อาจเข้าใจแตกต่างกันไปในแต่ละคน รวมถึงข้อจำกัดด้านความรู้ของการมีประจำเดือนทั้งในตัวเองและคนรอบตัวก็แตกต่างกัน แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้ลบความจริงที่ว่า ประจำเดือนผิดปกติ ส่งผลต่อการเรียนจริง ๆ
.
“โดยสรุปแล้ว การศึกษาของเราชี้ให้เห็นว่าประจำเดือนผิดปกติ มาเป็นเวลานาน และการปวดประจำเดือนนั้นมีความเกี่ยวข้องกับการเข้าเรียนที่ต่ำกว่า และผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา” ซอว์เยอร์ ระบุ “ทั้งนี้ จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม เพื่อทำความเข้าใจกลไกลที่อยู่เบื้องหลังความสัมพันธ์เหล่านี้
.
“และเพื่อพัฒนากลยุทธ์ในการจัดการกับความไม่เท่าเทียมซึ่งเกี่ยวข้องกับการมีประจำเดือน เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านลบของประจำเดือนในการศึกษา”
สืบค้นและเรียบเรียง วิทิต บรมพิชัยชาติกุล
ที่มา
.
https://www.medrxiv.org/content/10.1101/2024.04.24.24306294v1.full-text
.
https://www.newscientist.com/article/2430388-heavy-or-painful-menstrual-periods-are-linked-to-worse-exam-results/