จุดจบสาย ดูดวง ? วิจัยเสนอ จะราศีไหน ก็ไม่มีผลเรื่อง “ชีวิตที่ดี”

จุดจบสาย ดูดวง ? วิจัยเสนอ จะราศีไหน ก็ไม่มีผลเรื่อง “ชีวิตที่ดี”

จุดจบสาย ดูดวง ? วิจัยเผย จะราศีไหน ก็ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับ ‘ความเป็นอยู่ที่ดี’ ของเรา

กล่าวอีกนัย หากคุณมีเพื่อนที่ร้องไห้ฟูมฟายอย่างหนักในตอนที่อกหักจนสภาพจิตใจย่ำแย่ ไม่ได้เป็นเพราะ ‘คนนั้น’ เกิดในราศีที่อ่อนไหวง่าย งานวิจัยใหม่ยืนยันว่า การโคจรของดาวบนฟากฟ้า ไม่ได้มีอิทธิพลโดยตรงใด ๆ ต่อกิจกรรมของมนุษย์

.
โหราศาสตร์ (Astrology) เป็นศาสตร์ที่อยู่คู่กับมนุษย์มาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ที่มนุษย์เริ่มแหงนมองขึ้นไปบนท้องฟ้า และกล่าวว่าดวงดาวหรือวัตถุใด ๆ เหล่านั้นล้วนแต่ส่งผลต่อลักษณะบุคลิกภาพไปจนถึงผลลัพธ์ในชีวิต บทความดูดวงสามารถบอกได้ว่า ‘ราศึคุณจะมีเคราะห์ในช่วงไหน’ และ ‘ราศีของคุณจะปังในช่วงไหน’

.
แม้โหราศาสตร์จะ ‘ถูกตั้งข้อกังขา’ จากชุมชนวิทยาศาสตร์บ้าง แต่ก็ยังคงเป็นศาสตร์ที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ซึ่งไม่ใช่แค่คนไทยเท่านั้น แต่ความเชื่อนี้แพร่กระจายไปทั่วโลกแม้แต่ชาวอเมริกันเองก็ตาม ซึ่งร้อยละ 30 ของประชากรระบุว่าตนเองมีความเชื่อเรื่องอิทธิพลทางดาราศาสตร์

.
ขณะเดียวกัน นักวิทยาศาสตร์ก็พยายามอยู่หลายครั้งในการหักล้างความเชื่อดังกล่าว แต่ทว่าก็ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์กลับมาอยู่เสมอ เช่น ทำการศึกษาในกลุ่มตัวอย่างที่มีขนาดเล็ก หรือไม่ก็มีจุดอ่อนในด้านระเบียบและวิธีการต่าง ๆ ถึงอย่างนั้น นักวิจัยบางคนก็ยังไม่ยอมแพ้

.
ในการศึกษาใหม่ของ มอชเซน โจชานลู (Mohsen Joshanloo) จากมหาวิทยาลัยแคมยอง (Keimyung University) ในเกาหลีใต้ และจากศูนย์วิทยาศาสตร์ด้านความเป็นอยู่ที่ดีของมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น จึงได้ทำการทดสอบขึ้นมาอีกครั้ง โดยใช้กลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่ที่มีกว่า 12,791 คน พร้อมกับข้อมูลจากการสำรวจสังคมทั่วไป (GSS) ซึ่งเป็นการสำรวจผู้ใหญ่ชาวอเมริกันระดับประเทศ

.
แบบสำรวจนี้ได้มุ่งไปที่ตัวแปรหลัก 8 ประการที่เกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ที่ดีทั่วไปได้แก่ ความสุขโดยทั่วไป อาการซึมเศร้า ความทุกข์ทางจิตใจ ความพึงพอใจในการทำงาน ความพึงพอใจในด้านการเงิน ความน่าตื่นเต้นในชีวิตสุขภาพโดยทั่วไป และความสุขในชีวิตสมรส

.
ซึ่งได้สำรวจเป็นระยะ ๆ หลายครั้งตั้งแต่ปี 2016, 2018, 2021 และ 2022 โดยกลุ่มตัวอย่างค่อนข้างมีความหลากหลาย มีอายุเฉลี่ยประมาณ 50 ปี และเป็นผู้หญิงมากกว่าครึ่งเล็กน้อย (55%) เมื่อได้ข้อมูลทั้งหมดแล้ว โจชานลู ได้ใช้วิธีการทางสถิติวิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้น

.
ในที่นี้ เขาได้ใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวนร่วม (ANCOVA: การทดสอบความแตกต่างระหว่างกลุ่ม โดยควบคุมอิทธิพลของตัวแปรร่วมให้คงที่) และ การวิเคราะห์ความแปรปรวน (ANOVA) ว่ามีความแตกต่างทางสถิติระหว่างวิธีการของกลุ่มอิสระ 3 กลุ่มขึ้นไปหรือไม่ และผลที่ได้ก็เป็นไปตามคาด

.
“ขนาดของผลกระทบนั้นมีค่าเกือบเป็นศูนย์ในผลลัพธ์ด้านความเป็นอยู่ที่ดีทั้งหมดของผู้คนที่เราได้ทำการตรวจสอบ” นักวิจัยเขียน “ซึ่งบ่งชี้ว่า การรับรู้ราศีของใครบางคน ไม่สามารถให้ข้อมูลที่มีความหมายในการทำนายระดับความเป็นอยู่ที่ดีของพวกเขาได้”

.
กล่าวอย่างง่าย ๆ การที่รู้ว่าเราอยู่ในราศีใด ไม่ทำให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปใน 8 ตัวแปรหลัก

.
“ผลลัพธ์เหล่านี้สอดคล้องกับการวิจัยเชิงประจักษ์ในอดีต ซึ่งโดยทั่วไปแล้วล้มเหลวในการค้นหาหลักฐานที่สนับสนุนการกล่าวอ้างว่า ทางโหราศาสตร์มีความเกี่ยวข้องกับลักษณะบุคลิกภาพหรือผลลัพธ์การแต่งงาน” ทีมงานสรุป “ผลลัพธ์ที่ได้ยังขัดแย้งกับคำกล่าวอ้างทางโหราศาสตร์ที่ว่า ราศีเป็นตัวกำหนดแนวโน้มโชคชะตา และความอ่อนไหวต่อความรู้สึกด้านมีความสุขหรือความสำเร็จของแต่ละบุคคล”

.
ทีมวิจัยอธิบายเพิ่มเติมว่า ผลลัพธ์การทำนายของราศีนั้น ไม่สามารถแยกความแตกต่างทางสถิติได้ การที่ ‘คอลัมม์ดูดวง’ กล่าวว่า ‘ราศีนั้น’ มีเกณฑ์ที่จะพบกับอะไรบางอย่าง อาจจะเป็นเสียเงินก้อนใหญ่ สมหวังหรือผิดหวังในความรัก ไปจนถึงกระทั่ง จะมีเหตุการณ์ใหญ่ที่เป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตนั้น ไม่ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละราศีและในแต่ละคน กล่าวคือ เหตุการณ์ในคำทำนายเหล่านั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนไม่ว่าจะราศีไหน ซึ่งเกิดขึ้นแบบสุ่มมากกว่าเฉพาะเจาะจงกับคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

.
“การค้นพบนี้เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการเพิ่มความตระหนักรู้ของสาธารณชนเกี่ยวกับการขาดหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนความเชื่อด้านโหราศาสตร์ ผ่านโครงการด้านการศึกษาสาธารณะที่เข้มแข็ง” โจชานลู กล่าว

.
เขาเสริมว่า ความคิดและความเชื่อเหล่านี้ต่างมีผลกระทบกับทัศนคติ มุมมอง และการใช้เหตุผลของคนในชีวิตประจำวัน การให้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์จึงเป็นเหมือนกับการให้ผู้คนได้มีอุปกรณ์เครื่องมือชนิดใหม่ ๆ ในการตัดสินใจเกี่ยวสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างครบถ้วนรวมถึงการคิดอย่างมีวิจารณญาณ กล่าวอย่างง่าย ๆ คือเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้คน ‘งมงาย’

.
“นอกจากนี้ ควรพิจารณาถึงศักยภาพที่เกิดจากอันตรายในการเหมารวมของโหราศาสตร์ (เช่น ทุกคนในราศีนี้จะเป็นแบบนี้) ซึ่งส่งผลเสียต่อการรับรู้ของตนเองและผู้อื่น” โจชานลู กล่าวต่อ “ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียจากหลากหลายสาขาวิชา เช่น นักจิตวิทยา นักการศึกษา หรือผู้กำหนดนโยบาย จะต้องทำงานร่วมกันเพื่อให้ความรู้แก่สาธารณชนเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับแบบเหมารวมทางโหราศาสตร์”

.
“และเพื่อส่งเสริมความเข้าใจที่มีหลักฐานเชิงประจักษ์มากขึ้นเกี่ยวกับบุคลิกภาพและความเป็นอยู่ของมนุษย์”
.
ที่มา
.
https://onlinelibrary.wiley.com/doi/abs/10.1111/kykl.12395
.
https://www.psypost.org/zodiac-signs-irrelevant-to-psychological-well-being-research-confirms/
.
https://www.iflscience.com/your-star-sign-has-no-impact-on-your-well-being-debunking-yet-another-astrology-claim-74448
.
https://futurism.com/neoscope/researcher-astrology-nonsense


อ่านเพิ่มเติม ไขปริศนา ฮวงจุ้ย ศาสตร์จีนโบราณ 5,000 ปี ด้วยวิทยาศาสตร์

ฮวงจุ้ย

Recommend