รถไฟแห่งอนาคตของเม็กซิโก จะทำลายอดีตจริงหรือ

รถไฟแห่งอนาคตของเม็กซิโก จะทำลายอดีตจริงหรือ

การรถไฟสายเตรนมายาสร้างขึ้นเพื่อรวมประเทศเป็นหนึ่งเดียวและเชิดชูแหล่งโบราณคดีมายาต่างๆ ทว่าปัจจุบัน เกิดคำถามมากมายว่าอะไรที่สูญหายไประหว่างทาง

โรเบร์โต โรโฮ อยู่ในถ้ำตอนที่เพดานปริแตกและเครื่องขุดเจาะขนาดใหญ่หมุนดังส่งเสียงกึกก้องลงมา หินย้อยสั่นสะเทือนร่วงหล่น โรโฮยอบตัวลงหาที่กำบังพลางยื่นโทรศัพท์ออกไป นักชีววิทยาและนักสำรวจถ้ำปากกล้าผู้นี้จับภาพวินาทีที่คูหาหินปูนอันตระการตาในคาบสมุทรยูกาตันทางตะวันออกเฉียงใต้ของเม็กซิโกถูกทำลายเอาไว้ได้

จากนั้น เสาเหล็กขึ้นสนิมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.2 เมตรและสูง 25 เมตร ก็ถูกตอกตามลงไปในหลุม ที่เครื่องขุดเจาะอุตสาหกรรมทะลวงนำจากพื้นผิวด้านบน ก่อนที่เสากลวงๆนั้นจะถูกอัดปูนซีเมนต์ลงไปจนเต็มปูนบางส่วนกระฉอกลงสู่น้ำใสสะอาดที่อยู่ในหลุมยุบ (cenote) หรือระบบถ้ำใต้ดินที่มีแหล่งกักเก็บน้ำ ละอองสนิมจากเสาเหล็กผสมกับเศษปูนที่ร่วงหล่นลงมาละลายกลายเป็นปื้นสีเข้มแผ่ไปทั่วพื้นน้ำ

ตอนเปิดให้บริการเมื่อปลายปีที่แล้ว เตรนมายาวิ่งไปตามเส้นทาง 1,554 กิโลเมตรที่วนผ่านห้ารัฐในคาบสมุทร ยูกาตัน ขณะที่ระบบรถไฟดังกล่าวให้ความหวังว่าจะเพิ่มการจ้างงานและส่งเสริมการท่องเที่ยว ผู้ไม่เห็นด้วยออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า รถไฟสายนี้ทำลายป่าไม้ รบกวนถิ่นอาศัยของสัตว์ และเป็นไปได้ที่จะส่งผลให้หลุมยุบซึ่งเป็น แหล่งกักเก็บน้ำใต้ดินสำคัญ ปนเปื้อนมลพิษ (ภาพถ่าย: ร็อบบี โชน)
ความสำเร็จทางสถาปัตยกรรมหรือหายนะทางสิ่งแวดล้อมกันแน่ เส้นทางรถไฟความยาว 1,554 กิโลเมตรที่วนรอบคาบสมุทรยูกาตันและตัดผ่านป่าทึบ ก่อให้เกิดความตึงเครียดระหว่างความก้าวหน้ากับการอนุรักษ์ในยุคใหม่ (ภาพถ่าย: มาร์ติน เซตีนา, AP PHOTO)

ตอนนี้เฉพาะหลุมยุบนี้แห่งเดียวมีเสา 40 ต้นปักเป็นแถว แถวละสี่ต้น จากที่โรโฮนับ เสากว่า 15,000 ต้น ได้ตอกลงบนดินบางๆ ของยูกาตัน นี่คือการเจาะทะลวงที่อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ได้ คาบสมุทรยูกาตันประกอบด้วยหินปูนที่เป็นรูพรุน พื้นที่ส่วนใหญ่ในภูมิภาคนี้จึงไม่มีแม่น้ำหรือทะเลสาบ หลุมยุบที่กระจายอยู่เหล่านี้คือแหล่งน้ำจืดสำคัญ ช่วยหล่อเลี้ยงสิ่งมีชีวิตหลายร้อยชนิด ตั้งแต่เสือจากัวร์ไปจนถึงสมเสร็จ ตลอดจนพลเมืองชาวเม็กซิโกนับล้านและนักท่องเที่ยวทั้งหมด ชาวมายานำสิ่งของที่ใช้ประกอบพิธีกรรมใส่ไว้ในหลุมยุบมากว่าหนึ่งพันปีแล้ว

ที่สำคัญที่สุด หลุมยุบจำนวนมากเชื่อมถึงกัน โรโฮบอกว่า หากน้ำบางส่วนปนเปื้อน ก็มีความเสี่ยงที่น้ำทั้งหมดจะปนเปื้อน และน้ำยังไหลลงทะเลด้วย สิ่งปนเปื้อนเหล่านั้นจึงส่งผลกระทบต่อแนวประการังในเมโสอเมริกา หาดต่างๆในแคนคูน และป่าชายเลนที่ปกป้องชายฝั่ง รวมถึงป่าและสัตว์ป่า ในมุมมองของโรโฮ ทุกอย่างอาจสูญเสียไปหมด  เขาบอกว่านี่คือการทำลายล้างระบบนิเวศ และทั้งหมดก็เพื่อสังเวยให้โครงการก่อสร้างทางรถไฟ

ขบวนรถไฟเตรนมายาเคลื่อนเข้าสู่สถานี เครื่องปรับอากาศทำงานเย็นฉ่ำ ภายในรถไฟสะอาดสะอ้าน สถานีปลายทางแคนคูน ทั้งผนังโค้งมันวาวและกระถางที่เต็มไปด้วยพืชพรรณ อธิบายได้ว่าทำไมโครงสร้างพื้นฐานนี้จึงเป็นโครงการแพงที่สุดโครงการหนึ่งในประวัติศาสตร์เม็กซิโกสมัยใหม่ ระบบรถไฟนี้เปิดบริการเต็มรูปแบบเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2024 โดยใช้งบประมาณไปร่วม 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และสร้างเส้นทางวนอ้อมใหญ่โตรอบคาบสมุทรยูกาตัน นั่นคือทางรถไฟยาว 1,554 กิโลเมตร มี 34 สถานี และรถไฟกว่าสามสิบขบวนที่วิ่งขึ้นล่องด้วยความเร็วสูงถึง 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รางรถไฟบางส่วนอยู่บนสะพานยกระดับที่รองรับด้วยเสาเหล็กอัดปูนซีเมนต์ทาสีขาวไม่ให้สะดุดตา

“รถไฟนี่ประสบความสำเร็จอย่างเหลือเชื่อครับ” นักนิเวศวิทยาและนักสำรวจถ้ำ เฮร์มัน ยาเญซ บอก เขาเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่รักการสำรวจหลุมยุบมากพอๆ กับโรเบร์โต โรโฮ สองคนนี้เคยสนิทกันแบบที่โรโฮใช้คำว่า “เพื่อนรัก” และเริ่มก่อตั้งชมรมสำรวจถ้ำมาด้วยกัน ตอนนี้ทั้งคู่แทบไม่พูดกันเพราะเตรนมายาทำให้แตกแยก เหมือนที่เกิดขึ้นกับมิตรภาพมากมายและครอบครัวทั่วเม็กซิโก

สำหรับผู้โดยสารหลายคน โดยเฉพาะทางตะวันออกเฉียงใต้ของเม็กซิโก สถานีรถไฟล้ำสมัยของเตรนมายา และ การออกแบบตัวรถที่ดูโฉบเฉี่ยว คือสัญลักษณ์แห่งชัยชนะของพลเมือง (ภาพถ่าย: ร็อบบี โชน)
น้ำในหลุมยุบแห่งนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายถ้ำลักษณะคล้ายรวงผึ้งตั้งอยู่ทางใต้ของเมืองปลายาเดลการ์เมน ควรจะใสสะอาด แต่นักชีววิทยา โรเบร์โต โรโฮ กลับต้องลุยผ่านน้ำเสียขุ่นคลั่กที่เกิดจากเสาเหล็กที่ตอกทะลุเพดานถ้ำลงมา ทำให้ชั้นหินอุ้มน้ำเกิดการปนเปื้อน (ภาพถ่าย: ร็อบบี โชน)

เหตุใดรถไฟสายหนึ่งที่ดูไม่มีพิษภัยจึงเป็นชนวนของวิวาทะเลวร้าย และมีแนวโน้มทำให้ผู้คนในสังคมแบ่งขั้วมีการปะทะระหว่างผู้เห็นความจำเป็นระยะยาวในการปกปักรักษาพื้นที่ธรรมชาติอันพิสุทธิ์แห่งท้ายๆเอาไว้ กับผู้มองว่าผลกระทบจากมนุษย์ ซึ่งไม่มีทางหยุดยั้งได้นับตั้งแต่เผ่าพันธุ์เราถือกำเนิด ควรได้รับการชื่นชมยินดี เมื่อเรารู้สึกว่ามันพัฒนาไปในทางที่เหมาะที่ควร ด้วยเหตุนี้ เตรนมายาจึงเป็นโครงการที่ผ่านการพินิจพิเคราะห์ทั้งสองมุมมอง

ตอนที่การก่อสร้างเริ่มขึ้นเมื่อปี 2020 ทั้งยาเญซและโรโฮต่างถูกดึงดูดไปยังหลุมยุบใต้เส้นทางรถไฟ แต่ขณะที่โรโฮเข้าไปบันทึกความเสียหาย ยาเญซกลับช่วยหาของล้ำค่า ยาเญซรับงานจากรัฐบาลเม็กซิโกเป็นเวลาสองปีโดยทำงานใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่ของสถาบันมานุษยวิทยาและประวัติศาสตร์แห่งชาติ หน่วยงานภาคสนามของทางสถาบันประเมินผลกระทบทางโบราณคดีของโครงการสาธารณะต่างๆ และสำหรับเตรนมายา มีการรวมทีมงานราว 2,000 ชีวิตแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน รวมถึงนักวิทยาศาสตร์และทีมงานสนับสนุน ซึ่งไล่ปูพรมตรวจผืนป่าตลอดแนวเส้นทางรถไฟที่วางแผนไว้

“นี่คืองานในฝันของผมครับ” ยาเญซบอก เขาทำงานในแผนกแผนที่ใต้น้ำและมีส่วนช่วยค้นหาโบราณวัตถุ หลายสิบชิ้น รวมถึงเรือแคนูของชาวมายาสภาพสมบูรณ์ลำแรกที่พบในภูมิภาค ซึ่งเชื่อกันว่ามีอายุอยู่ในราว ค.ศ. 900 และเป็นไปได้ว่าจะนำไปจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ใหม่หนึ่งในเก้าแห่งที่กำลังก่อสร้างเพื่อจัดแสดงข้าวของสำคัญต่างๆ ที่ค้นพบระหว่างการก่อสร้างรถไฟสายเตรนมายา

ยาเญซไม่เหมือนโรโฮ เขาลงพื้นที่ทำงานทุกวันโดยสวมเครื่องแบบและเป็นส่วนหนึ่งของทีมงานจริงๆ ยาเญซ บอกว่า เขารับรู้ได้ถึงการอุทิศตนและความภาคภูมิใจในชาติ หรือความเชื่อมั่นว่างานนี้มีความสำคัญ ในตัวคนงานวางรางรถไฟไปจนถึงนักโบราณคดี นอกจากบริเวณที่เป็นจุดท่องเที่ยว คาบสมุทรยูกาตันถูกละเลยมานานแล้วโดยมีพื้นที่ยากจนสุดขั้วหลายแห่ง เตรนมายามีพลังที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้น

นอกจากรับส่งผู้โดยสาร อีกไม่นาน รถไฟสายนี้จะบรรทุกสินค้าปริมาณมหาศาล ซึ่งควรทำให้สินค้าต่างๆ ตั้งแต่เนื้อสัตว์ไปจนถึงเบียร์ในพื้นที่ที่เคยห่างไกลมีราคาถูกลง และเอื้อให้เกษตรกรขนส่งผลผลิตทางการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักท่องเที่ยว รวมถึงเม็ดเงินที่พวกเขาจับจ่าย จะกระจายไปทั่วคาบสมุทรอย่างเท่าเทียมมากขึ้น ราคาตั๋วสำหรับคนท้องถิ่นส่งผลให้รถไฟถูกกว่ารถทัวร์ การศึกษาขององค์การสหประชาชาติคาดประมาณว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจของเตรนมายาจะสร้างงานใหม่กว่า 900,000 ตำแหน่งและทำให้คนกว่า 1.1 ล้านคนพ้นจากความยากจนภายในปี 2030

การเชื่อมโยงถึงกันของระบบน้ำจืดใต้ดินในคาบสมุทรยูกาตันหมายความว่า หลุมยุบที่ปนเปื้อนเช่นที่เห็น ในปลายาเดลการ์เมน ซึ่งถูกใช้เป็นที่ทิ้งขยะแห่งนี้ อาจก่อความเสียหายที่ส่งผลกระเพื่อมไปทั่วภูมิภาคได้ (ภาพถ่าย: ร็อบบี โชน)

รถไฟวนทางใต้ออกจากแคนคูนจะแล่นผ่านป่าทึบ ทางรถไฟระดับพื้นดินช่วงนี้ตัดเฉือนหนึ่งในสถานที่แห่งท้ายๆ ในเม็กซิโกที่มีผืนป่ากว้างใหญ่และสุขภาพดี ออตโต ฟอน เบร์ตรับ นักข่าวชาวเม็กซิโกและเจ้าของกิจการนำเที่ยวแห่งหนึ่ง ใช้เวลาหลายปีศึกษาโครงการเตรนมายาและบอกว่า ใครก็ตามที่สนับสนุนรถไฟสายนี้ล้วนถูกแผนโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลล้างสมอง

ครอบครัวฟอน เบร์ตรับ ซึ่งก็เหมือนคนอื่นๆอีกมาก กำลังพยายามรักษาสายสัมพันธ์อันดีไว้ท่ามกลางความขัดแย้งทั้งทางการเมืองและสังคมวิทยา รวมถึงคุณค่าความหมายของการเป็นชาวเม็กซิโก เอเตียนน์ ฟอน เบร์ตรับ ลูกพี่ลูกน้องของออตโต เป็นนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนและศึกษาเตรนมายา อย่างเข้มข้นเช่นกัน เขาเชื่อว่า คนจำนวนมากที่คัดค้านเตรนมายาตามืดบอดจากความไม่พอใจในรัฐบาลหัวก้าวหน้าของเม็กซิโก

เตรนมายาคือโครงการสุดรักของอดีตประธานาธิบดี อันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ หรือที่รู้จักกันในชื่อย่อว่า อัมโล ผู้นำแนวคิดก้าวหน้ามาสู่รัฐบาลเม็กซิโกเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี หลังได้รับเลือกตั้งเมื่อปี 2018 ในแนวทางที่มุ่งเน้นการลดความยากจน อัมโลเอ่ยถึงรถไฟในสุนทรพจน์เข้ารับตำแหน่งของตนและเริ่มการก่อสร้างอย่างรวดเร็ว โครงการแล้วเสร็จไม่นานหลังเกลาเดีย เชนบอม ที่อัมโลเลือกให้เป็นผู้สืบทอด เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อปี 2024

ออตโต ฟอน เบร์ตรับ เชื่อว่าอัมโลโกหกหน้าตาเฉยเพื่อให้โครงการเดินหน้าต่อไป ประธานาธิบดีพูดหลายครั้งว่า “จะไม่ตัดต้นไม้เลยสักต้น” เพราะรถไฟจะสร้างทับทางรถไฟสายเก่า แต่ในความเป็นจริง มีการตัดต้นไม้หลายล้านต้น และเส้นทางส่วนใหญ่ก็อยู่ห่างจากทางรถไฟสายเก่า เพื่อปกป้องสัตว์ป่าในจุดที่รางรถไฟไม่ได้ยกระดับ รัฐบาลรับปากจะติดตั้งทางข้ามสำหรับสัตว์ แต่ยังไม่มีสักแห่งที่ถูกสร้างขึ้น

ออตโตเขียนรายงานการหลอกลวงดังกล่าวลงหนังสือพิมพ์ ลาฮอร์นาดามายา ในยูกาตัน เขาร่วมมือกับโรโฮ           และนักเคลื่อนไหวต่อต้านรถไฟคนอื่นๆ นักวิทยาศาสตร์และนักวิชาการชาวเม็กซิโกหลายสิบคนลงนามในจดหมาย    เปิดผนึกเรียกร้องให้ระงับการก่อสร้าง การประท้วงจัดขึ้นในจุดที่ต้นไม้เพิ่งถูกตัดหมาดๆ สื่อทั่วโลกพากันรายงานข่าว

ปฏิกิริยาของรัฐบาล ซึ่งนำเสนอผ่านสุนทรพจน์ของอัมโลที่แพร่ภาพทางโทรทัศน์และโพสต์ในสื่อสังคม บอกเป็นนัยว่า ผู้คัดค้านการสร้างรถไฟสายนี้คือคนทรยศ ศัตรูความก้าวหน้าของเม็กซิโก “นั่นคือตอนที่ผมได้รับโทรศัพท์ขู่ครั้งแรกครับ” ออตโตบอก เขาได้รับคำเตือนว่าเขาอาจ “หายตัวไป” อันเป็นเรื่องน่าสะพรึงในเม็กซิโกที่ผู้ประท้วงในประเด็นสิ่งแวดล้อมถูกฆาตกรรมปีละกว่าสิบคน สูงกว่าที่อื่นใดในโลกยกเว้นโคลอมเบีย ตามข้อมูลขององค์กรไม่แสวงกำไรอย่างโกลบอลวิตเนส

เชื่อกันว่า ชาวมายาโบราณประกอบพิธีกรรมในแม่น้ำรีโอเซเกรโต (แม่น้ำเร้นลับ) ของปลายาเดลการ์เมน ซึ่งยังค่อนข้างพิสุทธิ์ถึงแม้จะได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ที่นี่ นักวิทยาศาสตร์อย่างโรโฮลุยน้ำใน ถ้ำที่มีแสงไฟส่องสว่าง ใต้เพดานที่เป็นรูพรุน และผ่านแท่งแคลไซต์แหลมๆ เพื่อทำความเข้าใจผลกระทบ ทางนิเวศวิทยาของเตรนมายาอย่างชัดเจนขึ้น (ภาพถ่าย: ร็อบบี โชน)

ออตโตจำใจวางมือจากเรื่องนี้เพราะรักชีวิต “ผมเขียนต่อไม่ได้แล้วครับ มันอันตรายเกินไป” การตอบโต้ของอัมโลเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2021 คือการประกาศว่า รถไฟสายนี้เป็นเรื่อง “ความมั่นคงของชาติ” ยิ่งไปกว่านั้น อัมโลยังสั่งให้ทหารเม็กซิโกเข้าควบคุมการก่อสร้างและการดำเนินงานของโครงการ และด้วยการใช้กลยุทธ์ที่ออตโตมองว่าเน้นความรุนแรงเหล่านี้ ประธานาธิบดีจึงเพิกเฉยต่อความจำเป็นของการประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม

เมื่อลมที่มีความแรงระดับพายุเฮอร์ริเคนพัดเข้ามา หลุมที่เจาะเข้าไปในหน้าผาของเตมโปลเดลดิโอสเดลบิเอนโต (วิหารแห่งวายุเทพ) ก็กระจายเสียงพายุให้ดังอื้ออึงไปทั่วตูลุม ประดุจสัญญาณเตือนภัยพิบัติของชาวมายา จุดชมวิวนี้อยู่ไม่ไกลจากจุดจอดรถบนเส้นทางรถไฟสายใหม่ ซึ่งบางคนมองว่าน่าทึ่งไม่ต่างกัน (ภาพถ่าย: แอนจี สมิท)

กระทั่งสถาบันมานุษยวิทยาและประวัติศาสตร์แห่งชาติอันทรงเกียรติก็ตกเป็นข่าวอื้อฉาวอย่างโจ่งแจ้ง ฮวน มานูเอล ซันโดวัล นักโบราณคดีในทีมเตรนมายา ตีพิมพ์รายงานเผ็ดร้อน 75 หน้า สาธยายรายละเอียดของเหตุการณ์ต่างๆที่มีการทำลายศิลปวัตถุโดยเจตนาเพื่อให้คนงานรถไฟทำงานต่อไปได้โดยไม่ต้องเสียเวลา วอชิงตันโพสต์ รายงานว่ามีโบราณสถานและศิลปวัตถุกว่า 25,000 รายการ รวมถึงวิหารมายาหลายแห่ง ถูกทำลาย

สมาชิกชุมชนพื้นเมือง (ประชากรในคาบสมุทรราวครึ่งหนึ่งระบุว่าตนเป็นชนพื้นเมือง สูงกว่าค่าเฉลี่ยระดับประเทศกว่าเท่าตัว) ประสานเสียงประท้วง หลายคนบอกว่า ชื่อโครงการเตรนมายาเองนั้นลดทอนคุณค่าของชนพื้นเมืองให้กลายเป็นเพียงคำขวัญทางการตลาด

แต่รถไฟก็สร้างเสร็จ ออตโตบอกว่า ผลลัพธ์ของความวุ่นวายทั้งหมด คือหายนะทางวัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ หลายสถานีอยู่ไกลออกไปจากใจกลางเมือง เข้าถึงยาก จำนวนผู้ใช้งานช่วงแรกๆมีเพียงหนึ่งในห้าจากที่รัฐบาลคาดประมาณไว้ การบำรุงรักษารถไฟไฮเทคในสภาพอากาศที่ร้อนและมีความเค็มหมายถึงค่าใช้จ่ายที่จะไม่มีวันจบสิ้น เขามั่นใจว่า ในอีกไม่กี่ปีจากนี้ เตรนมายาจะถูกทิ้งให้ผุพัง ขึ้นสนิมและปกคลุมด้วยแมกไม้รกเรื้อ

เรื่อง ไมเคิล ฟิงเกิล

ภาพถ่าย ร็อบบี โชน และ แอนจี สมิท

แปล ศรรวริศา เมฆไพบูลย์


อ่านเพิ่มเติม : รู้จักกับไรเดอร์กล้าตาย ผู้ช่วยขับเคลื่อนเลกอสให้วิ่งฉิว

Recommend