สนุกกับการเรียนรู้เรื่องพลังงานแห่งอนาคต ไปกับเอ็กโก กรุ๊ป และศูนย์เรียนรู้โรงไฟฟ้าขนอม ณ งาน “มหกรรมวิทย์ฯ แห่งชาติ ปี 66” ผ่านบูธนิทรรศการจำลอง “โรงไฟฟ้าเรือลอยน้ำ” สร้างแรงบันดาลใจด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแก่เยาวชน สู่การสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตและสนับสนุนการมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน
ณ งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ที่จัดขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปี เป็นช่วงเวลาที่เด็ก ๆ ต่างตื่นเต้นกับการออกมาเปิดโลกกว้างแห่งการเรียนรู้และสัมผัสประสบการณ์ตรง “ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี” นอกห้องเรียน ความรู้ที่อัดแน่นภายในงานเกิดจากการวิจัย พัฒนา และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอให้ยาขมกลายเป็นของหวาน เพื่อให้เด็ก ๆ ที่กำลังอยู่ในวัยสนุกสนานและอยากรู้อยากลอง ได้รับแรงบันดาลใจในการพัฒนาและประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ตลอดจนต่อเติมความฝันสู่การเป็นบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์รุ่นต่อไปในอนาคต
บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป และศูนย์เรียนรู้โรงไฟฟ้าขนอม อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งก่อตั้งและดำเนินงานโดยเอ็กโก กรุ๊ป เป็นอีกหนึ่งองค์กรที่ได้เข้าร่วมมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2566 ด้วยการจัดบูธนิทรรศการที่ชื่อว่า “นวัตกรรมวิทย์ พลิกโลก ตอน Discovery Journey: Future Energy for Life ท่องโลกพลังงานแห่งอนาคตกับโรงไฟฟ้าเรือลอยน้ำ”
ไฮไลท์ของนิทรรศการนี้ คือ การจำลอง “โรงไฟฟ้าเรือลอยน้ำ” แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย มาจัดแสดงผสมผสานการนำเสนอเรื่องราวแบบ Immersive Theater ที่ฉายภาพการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานจากอดีต ปัจจุบัน ไปสู่อนาคตที่มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
- รายละเอียดบูธนิทรรการทั้ง 3 โซน
โซนที่ 1 Cleaner, Smarter and Stronger to Drive Sustainable Growth
ณ ด้านหน้า โซนที่ 1 ในบูธนิทรรศการนี้จะต้อนรับทุกคนด้วยภาพลายเส้นการ์ตูนน่ารักๆ ของศูนย์เรียนรู้โรงไฟฟ้าขนอม ที่ยกขบวนมาจากโรงไฟฟ้าเรือลอยน้ำแห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศไทยที่ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช พร้อมวิสัยทัศน์ของเอ็กโก กรุ๊ป ที่ดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้าและพลังงานอย่างยั่งยืนด้วยแนวคิด “Cleaner, Smarter and Stronger to Drive Sustainable Growth” และการมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ด้วยเป้าหมายบรรลุการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593 (ค.ศ.2050)
ในโซนนี้ เด็กๆ และผู้มาเยือนยังจะได้พบนายช่างโรงไฟฟ้าขนอมและชุมชนชาวขนอมที่มาต้อนรับทุกคนเข้าสู่บูธนิทรรศการ พร้อมแนะนำให้รู้จักกับแนวคิดเรื่องความมั่นคงและความสมดุลทางพลังงานในการขับเคลื่อนสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ความสำคัญของไฟฟ้า นวัตกรรมพลังงาน และสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยบรรเทาปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก
โซนที่ 2 Discover the Journey of Future Energy for Life
จากโซนที่ 1 เดินเข้ามากันต่อในโซนที่ 2 ซึ่งเอ็กโก กรุ๊ป ได้เตรียมนิทรรศการที่น่าตื่นตาตื่นใจ โดยการพาผู้เข้าชม “ขึ้นเรือ” โรงไฟฟ้าเรือลอยน้ำ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ไปพร้อมกับนายช่างโรงไฟฟ้า ผ่านโรงหนังในรูปแบบ Immersive Theater 270 องศา ที่เล่าเรื่องราวการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของประเทศไทย ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ที่มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
โซนนี้ ผู้เข้าชมจะใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที เพื่อเรียนรู้ประวัติศาสตร์การใช้พลังงานของประเทศไทย ที่เริ่มจากการนำเข้าและใช้พลังงานฟอสซิลซึ่งสั่งสมบนโลกมาเป็นเวลาหลายล้านปี แต่ใช้แล้วหมดไป มาสู่การเกิดวิกฤตด้านพลังงาน จนมาถึงการค้นหาพลังงานทางเลือกใหม่ ๆ ให้กับประเทศ โดยเอ็กโก กรุ๊ป เป็นหนึ่งในองค์กรที่ร่วมสร้างความมั่นคงและสมดุลด้านพลังงาน รวมถึงประยุกต์ใช้พลังงานสะอาดในประเทศไทย และเมื่อจบนิทรรศการในโซนนี้แล้ว เด็ก ๆ สามารถพูดคุยกับนายช่างโรงไฟฟ้าตัวจริง พร้อมร่วมกิจกรรมและรับของที่ระลึกได้อีกด้วย
โซนที่ 3 Energy Transition for Better World
ในนิทรรศการนี้ เอ็กโก กรุ๊ป จะพาน้อง ๆ ไปรู้จักกับนวัตกรรมพลังงานสะอาดที่มีความสำคัญต่อการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานไปสู่โลกอนาคตอย่าง “พลังงานหมุนเวียน” และ “ไฮโดรเจน” โดยเฉพาะไฮโดรเจนที่เป็นพลังานทางเลือกใหม่ ซึ่งสามารถผลิตพลังงานสะอาดได้อย่างมีเสถียรภาพและเริ่มได้รับความนิยมทั่วโลก ผู้ชมจะได้เรียนรู้เรื่องพลังงานไฮโดรเจนหลากหลายประเภทที่มีกระบวนการผลิตและสร้างพลังงานแตกต่างกัน รวมไปถึงความสำคัญของไฮโดรเจนในฐานะ “พลังงานสะอาดแห่งอนาคต”
นอกจากนี้ ยังมีการสาธิตรถยนต์ประดิษฐ์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฮโดรเจน (Hydrogen fuel cell vehicles) ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยแนวคิด “มาสนุกกับการทดลองรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนกัน” ซึ่งจะให้น้อง ๆ ได้ลองนำพลังงานไฮโดรเจนที่สกัดมาจากน้ำ ไปใช้ขับเคลื่อนรถยนต์คันเล็ก ๆ ทำให้เห็นภาพการทำงานของพลังงานไฮโดรเจนและสัมผัสถึงแนวโน้มที่พลังงานไฮโดรเจนจะมาอยู่ใกล้ตัวเรามากขึ้น
สำหรับผู้สนใจ บูธนิทรรศการ “นวัตกรรมวิทย์ พลิกโลก ตอน Discovery Journey: Future Energy for Life ท่องโลกพลังงานแห่งอนาคตกับโรงไฟฟ้าเรือลอยน้ำ” จะถูกจัดขึ้นใน 2 ครั้งได้แก่
- ในงานมหกรรมวิทย์ฯ แห่งชาติ ประจำปี 2566 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี อาคาร 9-11 ระหว่างวันที่ 11-20 สิงหาคม 2566 เวลา 00-19.00 น.
- ภายหลังจบงานมหกรรมวิทย์ฯ แห่งชาติแล้ว บูธนิทรรศการ “นวัตกรรมวิทย์ พลิกโลกฯ” จะถูกนำไปจัดแสดงต่อเนื่องที่ศูนย์เรียนรู้โรงไฟฟ้าขนอม อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ในวันที่ 4-13 กันยายน 2566 เพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจด้านการผลิตไฟฟ้า นวัตกรรมพลังงานแห่งอนาคต และการดูแลสิ่งแวดล้อมให้เยาวชนสายวิทย์และเทคโนโลยีในพื้นที่ภาคใต้ต่อไป
เปิดประสบการณ์เด็ก ๆ และผู้เข้าชมงาน
นับตั้งแต่พิธีเปิดมหกรรมวิทย์ฯ แห่งชาติ ประจำปี 2566 บูธนิทรรศการ “นวัตกรรมวิทย์ พลิกโลกฯ” ก็มีเด็กๆ และคุณครู ตลอดจนผู้ปกครอง เข้ามาเยี่ยมชมอย่างต่อเนื่อง ไม่ขาดสาย
National Geographic ฉบับภาษาไทย มีโอกาสพูดคุยกับนักเรียนที่เข้ามาเยี่ยมชมและทั้งหมดต่างตื่นตาตื่นใจกับทั้งเนื้อหาและวิธีการนำเสนอ ที่ฉายภาพความเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน และต่อเนื่องไปในอนาคต
ยศพล นาคแก้ว นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนวัดห้วยจรเข้วิทยาคม จ.นครปฐม ให้สัมภาษณ์ว่า การเล่าเรื่องของนิทรรศการ โดยการใช้ภาพจำลองของโรงไฟฟ้าเรือลอยน้ำ ที่มีทั้งภาพและเสียง ทำให้ได้เห็นการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานอย่างเข้าใจง่าย เข้าใจถึงประวัติความเป็นมา โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งโรงไฟฟ้าเรือลอยน้ำลำนี้ได้ตอบสนองความต้องการไฟฟ้าของคนในชุมชนเป็นอย่างดี
“เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นอะไรแบบนี้ มันทั้งสนุกและยังให้สาระ นอกจากประวัติด้านพลังงานที่เล่าผ่านโรงไฟฟ้าเรือลอยน้ำแล้ว ผมยังได้ความรู้ใหม่ คือการชมการทดลองเรื่องไฮโดรเจนที่เป็นพลังงานให้รถยนต์ โดยการทดลองนี้ทำให้เห็นว่า เมื่อพลังงานไฮโดรเจนไปผสมกับออกซิเจน ส่วนผสมนี้จะทำให้เกิดปฏิกิริยาไฟฟ้าเคมีผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อป้อนให้กับมอเตอร์ไฟฟ้า และนำไปใช้ในการขับเคลื่อนตัวรถ ซึ่งผมเพิ่งเห็นที่นี่เป็นที่แรก การมามหกรรมวิทย์ฯ และบูธนิทรรการครั้งนี้ช่วยเปิดประสบการณ์ให้ผมมาก ได้ความรู้ใหม่ เห็นเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน”
ด้าน จารุวรรณ ทวีรัตน์ ครูโรงเรียนเจริญวิทยศึกษา กรุงเทพฯ กล่าวว่า บูธนิทรรศการนี้มีความน่าสนใจมาก ทั้งการออกแบบความรู้ในรูปแบบนิทรรศการ การใช้เทคโนโลยีแบบ Immersive ซึ่งจำลองสถานการณ์ที่เหมือนจริง ดึงความสนใจเด็กได้ดี และมองว่าการพานักเรียนมาในครั้งนี้ ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเรียนในเรื่องพลังงาน โดยเฉพาะพลังงานสะอาดที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม สร้างความตระหนักเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศซึ่งเกี่ยวข้องกับการใช้พลังงาน อีกทั้งได้เห็นแบบจำลองพลังงานไฮโดรเจน ที่สร้างความแปลกใหม่ที่ไม่เคยเห็นแบบจำลองเช่นนี้ในนิทรรศการอื่นมาก่อน
“จากการสอบถามเด็ก ๆ ก็พบว่าเขาชอบมาก และแน่นอนว่ามันต่างจากการเรียนในห้องที่เน้นการฟัง แต่วันนี้เขาได้เห็นได้ยินเสียง ได้รับรู้ผ่านสื่อต่าง ๆ และการเปลี่ยนผ่านการผลิตพลังงานในแต่ละยุคสมัย ก็ยังเชื่อมโยงกับสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลกด้วย”