บันทึกจากแอนตาร์กติกา : การเดินทางของภูเขาน้ำแข็ง A23a

บันทึกจากแอนตาร์กติกา : การเดินทางของภูเขาน้ำแข็ง A23a

เคยได้ยินชื่อภูเขาน้ำแข็ง A23a ไหม?

ครั้งหนึ่งมันเคยถูกบันทึกว่าเป็นภูเขาน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยพื้นที่ประมาณ 3,900 ตารางกิโลเมตร ใหญ่กว่ากรุงเทพมหานครถึงสองเท่า

มันไม่ใช่เพียงภูเขาน้ำแข็งธรรมดา ที่ล่องลอยไปตามกระแสน้ำ แต่คือยักษ์ใหญ่แห่งทะเลเวดเดลล์ (Weddell sea) ที่หยุดนิ่งนานนับสิบปี ก่อนจะเริ่มขยับเขยื้อนอย่างช้า ๆ และพาตัวเองเข้าสู่เส้นทางที่ไม่มีใครคาดเดาได้

กำเนิดยักษ์น้ำแข็ง

ในปี 1986 มวลน้ำแข็งขนาดมหึมาหนักกว่าหนึ่งล้านล้านตัน แยกตัวออกจากหิ้งน้ำแข็งฟิลช์เนอร์–รอนเน (Filchner–Ronne Ice Shelf) บริเวณชายฝั่งตะวันตกของทวีปแอนตาร์กติกา กลายเป็นภูเขาน้ำแข็งอิสระ ที่ลอยอยู่กลางทะเลเวดเดลล์ ก่อนจะได้รับชื่อว่า A23a จาก U.S. National Ice Center (NIC) ซึ่งใช้ตัวอักษร A ระบุพื้นที่กำเนิดในทะเลเวดเดลล์ และหมายเลขตามลำดับการค้นพบ

การแยกตัวของมันในครั้งนั้น ไม่ได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับใคร เพราะในแวดวงวิทยาศาสตร์ เหตุการณ์เช่นนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรธรรมชาติ เมื่อแผ่นน้ำแข็งสะสมแรงดันมานานพอ และไหลไปจนถึงขอบหิ้ง น้ำแข็งส่วนปลายที่เปราะบางก็จะแตกตัวออกมา กลายเป็นภูเขาน้ำแข็งลอยน้ำ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนในบริเวณนี้

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นต่างหาก ที่ทำให้ A23a กลายเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ เพราะแทนที่มันจะลอยออกสู่ทะเลเปิดแบบเหมือนภูเขาน้ำแข็งส่วนใหญ่ มันกลับเกยตื้นอยู่กับพื้นมหาสมุทรในทะเลเวดเดลล์ (Weddell Sea) และไม่ขยับเขยื้อนเลยตลอด 34 ปีเต็ม

เส้นทางการเดินทางของภูเขาน้ำแข็ง A23a ที่จัดทำโดยอิงจากข้อมูลของ U.S. National Ice Center (NIC) แสดงให้เห็นว่าก่อนปี 2020 แม้จะมีลมและกระแสน้ำไหลผ่านแรงขนาดไหน แต่ A23a ก็ไม่เคยเคลื่อนออกไปไกลจากจุดกำเนิดของมัน

ออกเดินทางอีกครั้ง

ในปี 2020 นักวิทยาศาสตร์สังเกตว่า A23a หลุดออกจากจุดที่ติดอยู่และเริ่มเคลื่อนตัวอีกครั้ง โดยมีทิศทางมุ่งหน้าออกจากทะเลเวดเดล ตามกระแสน้ำไปทางทิศเหนือของมหาสมุทรใต้ (Southern Ocean) ผ่านไปเพียง 4 ปี ภูเขาน้ำแข็งยักษ์นี้ ก็ต้องหยุดนิ่งอีกครั้ง ใกล้กับหมู่เกาะเซาท์ออร์กนีย์ (South Orkney Islands) หลังเผชิญกับแรงต้านประหลาด ที่นักวิทยาศาสตร์เรียกว่า ปรากฏการณ์เสาเทย์เลอร์ (Taylor Column) ซึ่งเกิดจากน้ำในมหาสมุทรไหลผ่านสิ่งกีดขวางขนาดใหญ่(ภูเขาน้ำแข็ง) แล้วแตกกลายเป็นกระแสน้ำสองสายพานที่ไหลทวนกัน เป็นกระแสน้ำวนที่แกนบนและล่าง จน A23a หมุนวนเป็นลูกข่าง

ภาพถ่ายดาวเทียมวันที่ 9 มีนาคม 2024 แสดงจุดที่ภูเขาน้ำแข็ง A23a หมุนแบบทวนเข็มนาฬิกา 15 องศาต่อวัน ซึ่งถือว่าแปลกมากที่ ปรากฏการณ์นี้เกิดกับภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่อย่าง A23a ภาพถ่ายดาวเทียมโดย NASA Earth observatory

มุ่งหน้าสู่เกาะเซาท์จอร์เจีย

ปลายปี 2024 ในที่สุด A23a ก็หลุดพ้นจากกับดักเสาเทย์เลอร์ และเคลื่อนตัวมุ่งหน้าต่อไปทางเหนืออีกครั้ง นักวิทยาศาสตร์จากหน่วยสำรวจแอนตาร์กติกาของสหราชอาณาจักร (British Antarctic Survey : BAS) คาดการณ์ว่า A23a จะถูกกระแสน้ำในมหาสมุทรแอนตาร์กติก พาไปยังเขตละติจูดต่ำ และอาจพุ่งชนเกาะเซาท์จอร์เจีย (South Geogia) ดินแดนโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักร ทางทิศตะวันออกของมหาสมุทรใต้

ท่ามกลางความกังวลนั้น นักวิทยาศาสตร์ก็สังเกตว่า A23a ได้หยุดนิ่งอีกครั้ง ในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2025 โดยไปเกยตื้นอยู่บนสันใต้น้ำ ห่างจากเกาะเซาท์จอร์เจียประมาณ 80 กิโลเมตร แทนที่จะแล่นเข้าชนฝั่งโดยตรง ทำให้ความกังวลเรื่องผลกระทบต่อระบบนิเวศบนเกาะเซาท์จอร์เจียลดลงไปได้ระดับหนึ่ง แม้ภูเขาน้ำแข็งจะกีดขวางเส้นทางน้ำบางส่วน แต่ก็ยังมีช่องทางกว้างพอที่แมวน้ำและเพนกวินจะว่ายอ้อมออกไปหาอาหารได้ตามปกติ

อ่าวเซนต์แอนดรูว์ เกาะเซาท์จอร์เจีย เป็นอาณานิคมของคิงเพนกวิน ที่ใหญ่ที่สุดในโลกนอกจากนี้ยังมีสิงโตทะเลและแมวน้ำ ที่มาจับคู่อยู่บนเกาะนี้ มากกว่า 1.5 ล้านคู่ ภาพถ่ายโดย Frans Lanting, Nat Geo Image Collection

นอกจากนี้นักวิทยาศาสตร์ยังตั้งข้อสังเกตว่า การที่ภูเขาน้ำแข็งยักษือย่าง A23a มาเกยตื้นเช่นนี้ อาจก่อประโยชน์ต่อระบบนิเวศท้องถิ่นด้วยซ้ำไป จากธาตุอาหารที่ถูกกวนขึ้นมาจากพื้นทะเล เมื่อภูเขาน้ำแข็งครูดผ่าน และการละลายของน้ำจืดที่จะไปกระตุ้นการเติบโตของแพลงก์ตอนและสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก ซึ่งเป็นอาหารพื้นฐานของห่วงโซ่อาหารบริเวณนี้ 

ซึ่งนักสมุทรศาสตร์ของ NASA ชี้ว่า การที่ A23a สามารถเดินทางมาได้ถึงละติจูดขนาดนี้ อีกไม่นานมันจะเผชิญกับทั้งน้ำทะเลอุ่นและกระแสน้ำที่เชี่ยวกราด และท้ายที่สุด ‘เมกะเบิร์ก’ ลูกนี้ ก็คงไม่พ้นชะตากรรมที่จะถูกย่อยสลายไปตามธรมชาติ เหลือทิ้งไว้เพียงน้ำจืดปริมาณมหาศาลที่เติมลงสู่มหาสมุทรเปิด

ภาพถ่ายดาวเทียมวันที่ 17 มีนาคม 2025 แสดงตำแหน่งสุดท้ายของ A23a ที่เกยตื้นอยู่นอกชายฝั่งเกาะเซาท์จอร์เจีย ภาพถ่ายดาวเทียมโดย NASA Earth observatory

สืบค้นและเรียบเรียง 

อรณิชา เปลี่ยนภักดี

ที่มา

https://www.nationalgeographic.com

https://www.bbc.com

https://www.smithsonianmag.com

https://www.bas.ac.uk

https://www.space.com

https://www.usgs.gov


อ่านเพิ่มเติม : ไขปริศนาเบื้องหลังภูเขาน้ำแข็งรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าน่าอัศจรรย์

Recommend