ครัสเตเชียนตัวจิ๋ว เกื้อหนุนชีวิตในมหาสมุทรใต้ได้อย่างไร

ครัสเตเชียนตัวจิ๋ว เกื้อหนุนชีวิตในมหาสมุทรใต้ได้อย่างไร

รายงานจากภาคสนาม เมื่อนักวิจัยมุ่งหาคำตอบว่าครัสเตเชียนตัวจิ๋ว เกื้อหนุนชีวิตในมหาสมุทรใต้ได้อย่างไร

คืนหนึ่งเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา นักสำรวจเนชั่นแนล จีโอกราฟิก คิม เบอร์นาร์ด กำลังชงชาบนดาดฟ้าเรือวิจัยนอกชายฝั่งแอนตาร์กติกา เพื่อเตรียมตัวสำหรับค่ำคืนอันยาวนานในการเฝ้าดูยานควบคุมจากระยะไกลหรืออาร์โอวี (remotely operated vehicle: ROV) ขณะสำรวจก้นทะเล เมื่อนักนิเวศวิทยาทางทะเลผู้นี้มองจอภาพที่แสดงภาพวิดีโอส่งตรงมาจากยานที่ระดับความลึกกว่า 1,000 เมตรในน้ำขุ่นคลั่กของมหาสมุทรใต้ อะไรบางอย่างดึงดูดความสนใจจากเธอ “ฉันเห็นสัตว์ตัวจิ๋วเข้ามาทางด้านขวาของจอภาพ แล้วพุ่งออกไป” เธอบอก

สำหรับนักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ บนเรือ สิ่งนี้อาจดูเหมือนเศษซากอินทรีย์ที่ล่องลอยอยู่ในทะเล แต่เบอร์นาร์ดวัย 46 ปี ศึกษาคริลล์มานาน 15 ปี และรู้ว่า ครัสเตเชียนคล้ายกุ้งชนิดนี้เคลื่อนที่ในน้ำอย่างไร และพุ่งตัวไปข้างหลังเมื่อตกใจความเคลื่อนไหวที่คุ้นเคยนั้นทำให้เธอต้องวิ่งลงบันไดสองชั้นมายังห้องควบคุมบนเรือ

เมื่อมาถึงเธอเห็นกิจกรรมบนก้นทะเลกำลังถูกถ่ายทอดบนจอภาพหลายจอ และเธอสังเกตเห็นคริลล์จำนวนหนึ่งกระจายตัวอยู่รอบๆ ปล่องน้ำร้อนใต้สมุทร หรือรอยแยกบนเปลือกโลกใต้มหาสมุทรที่ซึ่งแมกมาร้อนเจอกับน้ำทะเล   เกิดเป็นสภาพแวดล้อมอุดมด้วยแร่ธาตุที่ดึงดูดสิ่งมีชีวิตมากมาย สำหรับเบอร์นาร์ด ศาสตราจารย์ด้านสมุทรศาสตร์ชีวภาพ ที่มหาวิทยาลัยออริกอนสเตต การพบคริลล์ที่นี่ถือเป็นการค้นพบสำคัญ “ทำเอาฉันสติแทบหลุดเลยค่ะ” เธอเท้าความหลัง นี่เป็นครั้งแรกที่มีการสังเกตพบสัตว์ชนิดนี้บริเวณปล่องน้ำร้อน

บนเรือสำรวจและวิจัย เบอร์นาร์ดใช้เครื่องมือ เช่น กล้องวิดีโอ และยานควบคุมจากระยะไกลหรืออาร์โอวี เพื่อสังเกตการณ์ คริลล์ในมหาสมุทรใต้

คริลล์แอนตาร์กติกเป็นสิ่งมีชีวิตหลัก (keystone species) ที่เกื้อหนุนสิ่งมีชีวิตอื่นทุกชนิดในมหาสมุทรใต้  ถ้าเบอร์นาร์ดสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับถิ่นอาศัยของคริลล์ที่ก้นทะเลได้มากขึ้น งานวิจัยของเธอก็ช่วยให้เราเข้าใจสัตว์ผู้ล่าแทบทุกชนิดในทวีปที่เข้าถึงได้ยากนี้ ตั้งแต่เพนกวินจักรพรรดิจนถึงวาฬสีน้ำเงิน พฤติกรรมใหม่ๆ จากสัตว์พื้นฐานเช่นนั้นมีโอกาสที่จะส่งผลกระทบต่อสัตว์ทุกชนิดเหนือมันขึ้นไปในห่วงโซ่อาหาร

คืนนั้นในห้องควบคุมบนเรือวิจัยจากสถาบันมหาสมุทรชมิดท์ ไม่นานนักเบอร์นาร์ดก็ตระหนักว่า คริลล์ทุกตัวเป็นเพศเมียที่กำลังมีไข่     

ตามปกติแล้วคริลล์ชนิดนี้วางไข่สูงขึ้นไปในห้วงน้ำ อะไรทำให้มันยอมเสี่ยงเดินทางไกลเช่นนั้นทั้งๆ ที่อยู่ในระยะสืบพันธุ์ พวกมันกินแบคทีเรียที่อยู่ตามปล่องน้ำร้อนอย่างนั้นหรือ เธอขอให้ผู้บังคับยานอาร์โอวีใช้แขนกลที่ติดตั้งเครื่องดูดเก็บตัวอย่างคริลล์มาจำนวนหนึ่ง นี่ก็เป็นครั้งแรกเช่นกัน หลังจากนั้นเธอส่งกระเพาะอาหารและตัวอย่างเนื้อเยื่อคริลล์ไปวิเคราะห์

คิม เบอร์นาร์ดเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคริลล์แอนตาร์กติก สัตว์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความอุดมสมบูรณ์ของ ห่วงโซ่อาหารในแอนตาร์กติกา เธอได้ราเชล แคปแลน ผู้ร่วมวิจัยจากมหาวิทยาลัยออริกอนสเตตมาสมทบ เพื่อสำรวจไปกับ เรือวิจัย อาร์.วี. ฟอล์กเกอร์ (ทู) ของสถาบันมหาสมุทรชมิดท์

งานของเบอร์นาร์ดในการสำรวจครั้งนี้ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากโครงการสำรวจเพื่อโลกที่ยั่งยืนของเนชั่นแนลจีโอกราฟิกและโรเล็กซ์ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการอันทะเยอทะยานที่หวังจะส่งนักวิทยาศาสตร์เกือบ 24 คนไปสำรวจมหาสมุทรทั้งห้าของโลก ความพยายามในการแสวงหาความรู้ความเข้าใจใหม่ๆ ของพวกเขา เช่น การค้นพบคริลล์ในสถานที่ที่ไม่เคย  มีการสำรวจมาก่อน จะเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหาในสารคดีชุดของ เนชั่นแนล จีโอกราฟิก ต่อไป

ในแอนตาร์กติกา สัตว์ชนิดนี้เป็นมากกว่าส่วนสำคัญในห่วงโซ่อาหาร คริลล์ยังเป็นแหล่งเก็บกักคาร์บอน พวกมัน       กินแพลงก์ตอนพืชที่ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ จากนั้นขับถ่ายมูลลงสู่ก้นทะเล ซึ่งกว่าคาร์บอนที่ถูกดูดซับไว้จะกลับขึ้นมาบนผิวน้ำต้องใช้เวลาหลายพันปี อย่างไรก็ตาม คริลล์เหล่านี้กำลังเผชิญแรงกดดันใหม่ๆ จากมนุษย์และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ คริลล์ถูกจับมาทำอาหารสัตว์มากขึ้นเรื่อยๆ และน้ำมันคริลล์ก็เป็นที่ต้องการอย่างมากเพื่อนำมาทำผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

ยานอาร์โอวีสามารถเก็บตัวอย่างคริลล์จากก้นทะเล ซึ่งต่อมาถูกทำให้แห้งเพื่อเตรียมส่งไปวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ

ในเวลาเดียวกัน ขณะน้ำแข็งทะเลยังคงละลายต่อไป ตัวอ่อนคริลล์กำลังสูญเสียถิ่นอาศัยสำคัญที่ซึ่งพวกมันสามารถ ซ่อนตัวจากสัตว์ผู้ล่า หาอาหาร และพัฒนาเป็นตัวเต็มวัย เบอร์นาร์ดหวังว่า งานวิจัยที่ยังคงดำเนินอยู่และความรู้ความเข้าใจในอนาคตจากการค้นพบนี้จะปกป้องสัตว์ตัวจิ๋วเหล่านี้ “ข้างล่างนั่นมีสิ่งมีชีวิตมากมายเลยค่ะ” เธอบอกก่อนจะทิ้งท้ายว่า “ทั้งหมดล้วนต้องพึ่งพาคริลล์ทั้งนั้น”

การรายงานในสารคดีเรื่องนี้นำเสนอโดยสมาคมเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก โดยความร่วมมือกับโรเล็กซ์ ภายใต้โครงการสำรวจมหาสมุทรเพื่อโลกที่ยั่งยืนของเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิกและโรเล็กซ์  


อ่านเพิ่มเติม : ฟูลานี: ชนเร่ร่อนเลี้ยงสัตว์ที่กำลัง ปรับตัวรับมือกับโลกที่เปลี่ยนไป

Recommend