พบ เรือดำน้ำ สหรัฐฯ ที่สูญหายไปแบบไร้ชะตากรรมในสมัย สงครามโลกครั้งที่ 2 ณ นอกชายฝั่งประเทศญี่ปุ่นอีกครั้งหลังจากผ่านไปกว่า 70 ปี

พบ เรือดำน้ำ สหรัฐฯ ที่สูญหายไปแบบไร้ชะตากรรมในสมัย สงครามโลกครั้งที่ 2 ณ นอกชายฝั่งประเทศญี่ปุ่นอีกครั้งหลังจากผ่านไปกว่า 70 ปี

เรือดำน้ำ ลำนี้ชื่อว่า ‘ยูเอสเอส อัลบาคอร์’ (USS Albacore) เป็นหนึ่งใน 52 ลำที่สูญหายไประหว่าง สงครามโลกครั้งที่ 2 ตามบันทึกของกองทัพเรือเชื่อว่าเรือดำน้ำลำนี้ถูกทุ่นระเบิดใต้น้ำ โดยกองเรือลาดตระเวนญี่ปุ่นระบุว่าได้เห็นเรือลำนี้ระเบิดตรงจุดนอกชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะฮอกไกโด เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ปี 1944 จากนั้นก็ได้สูญหายไป

ก่อนหน้านี้ ทางกองทัพเรือสหรัฐฯ ได้ระบุสถานะเรือว่าเป็น ‘ยังคงลาดตระเวนอยู่’ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าคือ ‘การลาดตระเวนชั่วนิรันดร์’ หรือได้จมลงไปแล้ว อย่างไรก็ตาม แม้จะผ่านไปกว่า 70 ปี ก็ยังมีผู้ต้องการระบุตำแหน่งและค้นหาเรือดำน้ำที่จมลงนี้ให้ได้

ทีมที่ว่าคือทีมของ ดร. ทามากิ ยูระ (Tamaki Ura) จากมหาวิทยาลัยโตเกียวที่พยายามสืบหาตำแหน่งของอัลบาคอร์โดยใช้บันทึกทางประวัติศาสตร์ และใช้ยาพาหนะควบคุมระยะลงไปสำรวจในพื้นที่ ในเดือนพฤษภาคม 2022 พวกเขาก็ถ่ายภาพซากเรือดำน้ำลำหนึ่งได้

ก่อนที่จะพบลักษณะที่ถูกดัดแปลงเฉพาะซึ่งมีอยู่ในเรืออัลบาคอร์ก่อนออกลาดตระเวนครั้งสุดท้าย เช่น จานและเสาเรดาร์ แนวช่องระบายอากาศที่ด้านบนของโครงสร้าง และการไม่มีแผ่นเหล็กตามขอบด้านบน เพิ่มด้วยการวิเคราะห์และสำรวจเพิ่มเติมเพื่อยืนยันนานหลายเดือน ทีมงานก็ประกาศอย่างเป็นทางการว่าพวกเขาพบ ‘ยูเอสเอส อัลบาคอร์’ แล้ว

“ผมรู้ว่าเขาหลงทางที่ไหนสักแห่งนอกชายฝั่งของญี่ปุ่น” โบเวอร์ (Bower) วัย 78 ปีซึ่งเป็นลูกชายของวิศวกรในเรือดำน้ำอัลบาคอร์กล่าวกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น (CNN) “แต่การได้รู้ว่าซากเรือดำน้ำอยู่ตรงจุดไหนนั้นมีความหมายมากกว่านั้นมาก สำหรับผมแล้วนั่นเป็นก้าวสำคัญในการปิดฉากชีวิตของเขาให้ดีขึ้น”

อัลบาคอร์เข้าประจำการวันที่ 1 มิถุนายน ปี 1942 มีการบันทึกว่าเรือดำน้ำลำนี้จมเรือข้าศึกไป 10 ลำ ทำให้เป็นหนึ่งในเรือดำน้ำที่มีผลงานโดดเด่นในสงครามโลกครั้งที่ 2 จากนั้นเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 1944 เรือลำนี้ รวมถึงลูกเรือ ได้ออกจากเพิร์ล ฮาร์เบอร์ และนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้พบเห็น

“ในฐานะที่เป็นสถานที่พำนักแห่งสุดท้ายของลูกเรือผู้สละชีวิตเพื่อปกป้องประเทศของเรา เราขอขอบคุณและขอแสดงความยินดีกับ ดร. ยูระ และทีมของเขาอย่างจริงใจสำหรับความพยายามในการค้นหาซากเรืออัลบาคอร์” ซามูเอล เจ. ค็อกซ์ (Samuel J. Cox) ผู้อำนวยการ Naval History and Heritage Command (NHHC) กล่าว

ตอนนี้ซากเรือดำน้ำจะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายของสหรัฐอเมริกา โดยกิจกรรมที่ล่วงล้ำเขตจะถูกห้าม ขณะที่การสแกนหรือการตรวจสอบระยะไกลสามารถทำได้

“ซากเรือนี้เป็นตัวแทนสถานที่พำนักแห่งสุดท้ายของลูกเรือที่สละชีวิตเพื่อปกป้องประเทศ และควรได้รับการเคารพจากทุกฝ่ายในฐานะหลุมฝังศพในสงคราม” NHHC กล่าวในรายงาน

สืบค้นและเรียบเรียง วิทิต บรมพิชัยชาติกุล

ที่มา

https://edition.cnn.com/2023/02/18/us/albacore-world-war-two-submarine-japan-coast/index.html

https://interestingengineering.com/innovation/uss-alabacore-has-been-discovered

https://www.navy.mil/Press-Office/News-Stories/Article/3300302/wreck-site-identified-as-world-war-ii-submarine-uss-albacore-ss-218/

https://www.iflscience.com/lost-wwii-submarine-uss-albacore-found-over-70-years-after-sinking-67624

Recommend