สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา น่านน้ำอาถรรพ์ แต่ทำไมเราถึงไม่ได้ยินเรื่องราวของมันอีกแล้วในปัจจุบัน?

สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา น่านน้ำอาถรรพ์ แต่ทำไมเราถึงไม่ได้ยินเรื่องราวของมันอีกแล้วในปัจจุบัน?

สำหรับคนรุ่นใหม่ที่เกิดหลังปี 2000 อาจแทบไม่ได้เคยได้ยินชื่อ สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา อันลึกลับเลย แต่หากใครที่เกิดก่อนหน้านั้นโดยเฉพาะช่วงก่อนยุค 90 จะต้องเห็นชื่อสถานที่นี้บ่อยครั้งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เราคงต้องขออนุญาตเล่าย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นกันสักนิดหนึ่ง

สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา คือพื้นที่มหาสมุทรระหว่าง 3 สถานที่คือ รัฐฟลอริดา สหรัฐฯ, เปอร์โตริโก และเบอร์บิวดา ซึ่งครอบคลุมหลายแสนตารางกิโลเมตร มันเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ที่มีการจราจรทั้งทางน้ำและทางอากาศอย่างคับคั่ง จนกระทั่งเมื่อช่วงปี 1964 ได้มีบทความเผยแพร่ความลึกลับของมัน

ผู้เขียนอ้างถึงเหตุการณ์ในปี 1918 ที่เรื่องเสบียงของกองทัพเรือสหรัฐฯ ที่ชื่อ USS Cyclops หายไปในพื้นที่นั้น และเครื่องทิ้งระเบิด 1 ลำที่สูญหายไประหว่างการฝึกในปี 1945 รวมถึงเครื่องบินค้นหาและกู้ภัยที่หายตามหลังจากถูกส่งไปตามหา

ข้อความการสื่อสารทางวิทยุระบุว่านักบินไม่มั่นใจเกี่ยวกับตำแหน่งของตนเอง และดูเหมือนว่าเข็มทิศของเขาทำงานผิดปกติ หลังจากนั้นไม่นาน เครื่องก็ขาดการติดต่อแล้วไม่มีใครได้ข่าวอีกเลย จากนั้นความลึกลับของมันกระพือลุกลามราวกับไฟลามทุ่ง

หลายคนเชื่อมโยงเหตุผลมาอธิบายมากมาย บางแนวคิดก็น่าสนใจและดูสมเหตสมผล ขณะที่บางแนวคิดก็ดูจะเหนือจินตนาการไปมากพอสมควร และอย่างที่เราทราบ ยุคนั้นเป็นยุคที่ผู้คนสนใจเรื่องรอบตัวและค่อนข้างเชื่อเรื่องราวเกี่ยวกับความลึกลับได้ง่าย

สาเหลี่ยมเบอร์มิวดาจึงกลายเป็นหัวข้อที่ได้รับความสนใจเช่นเดียวกันมนุษย์ต่างดาว แต่เมื่อเวลาผ่านไป เรามีเทคโนโลยีที่ดีขึ้นและวิทยาศาสตร์ก็ก้าวหน้า แม้แต่องค์กรรัฐบาลก็อยากจะค้นหาความจริงในเรื่องลึกลับต่าง ๆ เช่นเดียวกับองค์การบริหารชั้นบรรยากาศและมหาสมุทรศาสตร์ สหรัฐฯ (NOAA)

คาร์ล ครูซเซลนิคกิ (Karl Kruszelnicki) นักวิทยาศาสตร์ชาวออสเตรเลียที่ร่วมงานกับ NOAA กล่าวอย่างมั่นใจว่า ไม่มีความลึกลับหรือเรื่องเหนือธรรมชาติในสาเหลี่ยมเบอร์มิวดา การหายไปของเครื่องบินและเรือคือข้อเท็จจริงของความน่าจะเป็นเท่านั้น

“ไม่มีหลักฐานว่าการหายตัวไปอย่างลึกลับที่เกิดขึ้นในสามเหลี่ยมเบอร์มิวดามีความถี่มากกว่าพื้นที่ขนาดใหญ่อื่น ๆ ที่มีการเดินเรือในมหาสมุทร” ครูซเซลนิคกิ ระบุ “จำนวน (ของเรือและเครื่องบิน) ที่หายไปในสามเหลี่ยมเบอร์มิวดานั้นเท่ากับทุกที่ในโลกโดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์”

กล่าวอย่างง่าย ๆ คือ ทุกที่ในมหาสมุทรก็สามารถทำให้เรือหายไปได้เท่า ๆ กับที่สามเหลี่ยมเบอร์มิวดาทำ ดังนั้น พื้นที่แห่งนี้จึงไม่มีความลึกลับหรือความโดดเด่นใดๆ ในทางสถิติเลย สภาพอากาศกลางมหาสมุทรที่คาดเดาไม่ได้ทำให้เรือหรือเครื่องบินหายไปได้หมดทุกที่

ครูซเซลนิคกิยืนยันแนวคิดของเขาครั้งแรกในปี 2017 จนถึงปัจจุบัน 2023 ว่าตัวเลขไม่เคยโกหก และมีข้อมูลการสำรวจมากมาย รวมถึงปัจจุบันเครื่องบินยังบินผ่านพื้นที่สามเหลี่ยมเบอร์มิวดาอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นมันจึงไม่มีความลับใด ๆ อีกต่อไป เพราะทุกคนรู้แล้วว่าข้อเท็จจริงคืออะไร

ด้วยเหตุนี้เราจึงไม่ได้ยินความลึกลับของมันอีกต่อไปแล้ว

สืบค้นและเรียบเรียง วิทิต บรมพิชัยชาติกุล

ที่มา

https://www.nationalgeographic.com/premium/article/bermuda-triangle-mystery-disappearance

https://www.iflscience.com/the-mystery-of-the-bermuda-triangle-has-been-solved-yet-again-49085

https://www.iflscience.com/why-do-you-never-hear-about-the-bermuda-triangle-anymore-65683

https://www.discovermagazine.com/planet-earth/the-bermuda-triangle-what-science-can-tell-us-about-the-mysterious-ocean

https://www.popularmechanics.com/science/a43827267/bermuda-triangle-mystery-solved-says-scientist

อ่านเพิ่มเติม สัมภาษณ์พิเศษทีมช่วยลูกเรือชมซาก ไททานิค จมหายใต้ทะเล

Recommend