อมรินทร์ฯ จัดงาน AMARIN EXPO 2023 แถลงผลกำไรโต 44.4% ประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัทอมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ชูกลยุทธ์ Omni Media – Omni Channel ตอกย้ำความหลากหลายสื่อครบวงจร พร้อมเปิดตัว โครงการ “หนึ่งหัวใจ สู่ชีวิตใหม่” และ “อ่านพลิกชีวิต 2 โครงการ “อมรินทร์อาสา” เพื่อสังคม ตามปรัชญา “เราทำงานเพื่อความสุขและความรุ่งโรจน์ของสังคม”
บ้านและสวน, แพรว, ชีวจิต, Room, สำนักพิมพ์อมรินทร์, National Geographic ภาษาไทย, ร้านหนังสือนายอินทร์ และอีก ฯลฯ คือผลงานที่บริษัทอมรินทร์ พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) ซึ่งปัจจุบันประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัทอมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน) สร้างสรรค์มามากกว่า 40 ปี
.
เมื่อวันที่ 24-28 พฤษภาคม ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เครืออมรินทร์ฯ จัดงาน AMARIN EXPO 2023 ซึ่งเสมือนเป็นการเปิดบ้านแสดงผลงาน ตอกย้ำความหลากหลายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นออนไลน์ อีเวนต์ ธุรกิจด้านดิจิทัล พร้อมตั้งเป้าพร้อมขยายโอกาสสู่กิจการด้านอื่นในอนาคต
ระริน อุทกะพันธุ์ ปัญจรุ่งโรจน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทอมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวตอนหนึ่งในงานแถลงข่าวว่า โมเดลธุรกิจที่อมรินทร์วางเป็นกลยุทธ์หลักในการทำธุรกิจคือ Omni Media – Omni Channel ซึ่งผนึกรวมทุกภาคส่วนในเครือ ทั้ง On Print, Online, On Ground, On Air และ On Shop เพื่อผสานรวมกันเพื่อให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยความครอบคลุมนี้ถือเป็นจุดแข็งและกลยุทธ์สำคัญในการเดินหน้าทำธุรกิจของอมรินทร์กรุ๊ป ซึ่งแบ่งธุรกิจออกเป็น 5 กลุ่มธุรกิจหลัก และ 2 ธุรกิจร่วมทุน ประกอบด้วย
1. ธุรกิจมีเดียแอนด์อีเวนต์ โดยมีสื่อ นิตยสาร สื่อออนไลน์ ไปจนถึงธุรกิจจัดงานแฟร์และอีเวนต์
2. ธุรกิจสำนักพิมพ์ ซึ่งมีเป้าหมายเพิ่มจำนวนการผลิตหนังสือเล่มประมาณ 500 ปก และหนังสือดิจิทัลประมาณ 770 เรื่องต่อปี สามารถเลือกรูปแบบการอ่านได้มากมายทั้งการอ่านหนังสือ อ่านแบบดิจิทัล หรือจะออดิโอ Multi-platform
3. ธุรกิจสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ ธุรกิจการพิมพ์ที่ให้บริการได้ตั้งแต่การพิมพ์หนังสือเล่มเดียวไปจนถึงหลัก ล้านเล่ม ธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมภายใต้สัญลักษณ์ AM GREEN
4. ธุรกิจจัดจำหน่ายสื่อสิ่งพิมพ์ และ Digital Content โดยบริษัทอมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ จำกัด ที่มีเครือข่ายร้านพันธมิตรมากกว่า 700 แห่งทั่วประเทศ และธุรกิจค้าปลีกอย่างร้านนายอินทร์ และแพลตฟอร์มดิจิทัล ปัจจุบันมีลูกค้ากว่า 26 ล้านรายต่อปี และมีแพลตฟอร์มใหม่อย่าง Mareads ที่สามารถอ่านนิยายเป็นตอนๆ มาให้บริการ
5. ธุรกิจทีวีดิจิทัล โดยบริษัทอมรินทร์เทเลวิชั่น จำกัด ช่อง AMARIN TV 34HD
นอกจากนี้ อมรินทร์ยังถือหุ้นร่วม คือ บริษัทคาโดคาวะ อมรินทร์ จำกัด เป็นผู้นำในเรื่องของ Light NOVEL และ MANGA และบริษัทเด็กดี อินเตอร์ แอคทีฟ จำกัด ผู้นำตลาดนิยายและ Education Platformทั้งนี้ผลประกอบการในปี 2565 ของบริษัทอมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย มีรายได้รวม 4,274.45 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีก่อนเป็นจำนวนเงิน 1,313.84 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นถึง 44.4 %
“นับตั้งแต่นิตยสารบ้านและสวนก่อตั้งขึ้นเมื่อ 47 ปี ก่อน เรามีความเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และจุดสำคัญทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ การจัดงานบ้านและสวนที่เป็นงานแฟร์แห่งแรกในประเทศ ที่ทำให้ผู้อ่านได้สัมผัสประสบการณ์ได้ การร่วมทุนของกลุ่มวัฒนภักดี และแม้กระทั่ง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเราเผชิญกับโควิด-19 แต่กลุ่มอมรินทร์ฯ ยังรักษาการเติบโตนี้ไว้และทำผลกำไรในระดับที่ดี และที่ผ่านมามีการปันผลให้กับผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง”
เจรมัย พิทักษ์วงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจ Media & Event กล่าวเสริมว่า อมรินทร์ฯเลือกใช้กลยุทธ์ Omni Media – Omni Channel ที่หมายความว่าแต่ละสื่อ แต่ละแพลตฟอร์มเชื่อมโยงหากัน สร้างเนื้อหาและตอบสนองเป้าหมายของลูกค้าได้ดีที่สุด ไม่ใช่ Multimedia ที่เน้นความหลากหลายของสื่อเพียงอย่างเดียว สิ่งเหล่านี้ทำให้อมรินทร์พร้อมเป็นพาร์ทเนอร์ให้กับในหลายธุรกิจ และไม่ว่าผู้ติดตามชมหรือลูกค้าต้องการ Content หรือแคมเปญการสื่อสารใด เรามีทีมงานที่มีความชำนาญในการร่วมสร้างสรรค์งาน ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ทั้งภาครัฐและเอกชน ในการให้จัดแคมเปญ วางแผนการตลาด
“Media & Event เป็นผู้จัดงานที่เข้าถึงผู้บริโภคมากที่สุด และเป็นสื่อออนไลน์ที่ทำได้มากกว่าการเข้าถึง Reach แต่สามารถให้คำตอบ และทางเลือกที่ดี รวมถึงสร้างความมั่นใจ และสร้างโอกาสให้ธุรกิจต่าง ๆ ให้ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
“เรามีข้อมูลเพื่อทำความรู้จักคนมาเดินงานของเรา รู้จักลูกค้าของเรา ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีประโยชน์อย่างมากที่จะช่วยลูกค้าสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเราไม่หยุดที่จะพัฒนาการสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ เรามีแผนเตรียมจะขยายงานแฟร์ใหม่ๆไปตามภูมิภาค เช่น เชียงใหม่ ขอนแก่น หาดใหญ่, งานบ้านและสวน Pets Fair, งาน บ้านและสวน Garden & Farm Festival, งานกินดี อยู่ดี และจากการร่วมทุนกับ Dek-D ก็จะมีการขยายงาน T-CAS ของ Dek-D ร่วมกับ National Geographic Thailand เพื่อให้รองรับผู้มาร่วมงานมากยิ่งขึ้น”
สำหรับงาน AMARIN EXPO 2023 ที่กำลังจัดอยู่ เป็นงานแฟร์ล่าสุดที่ตั้งใจรวบรวมเนื้อหา กิจกรรม และสินค้าหลากหลายแบรนด์จากทั้งเครืออมรินทร์ รวมความสุขให้แก่ทุกครอบครัว สร้างประสบการณ์ใหม่กับ 5 โซน ช็อปสนุกกว่า 1,100 บูธ ได้แก่ บ้านและสวน, Amarin Baby&Kids, กินดีอยู่ดี, Explorers และร้านนายอินทร์ พร้อมกิจกรรมสุดพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น Mini Concert จากศิลปินชื่อดัง, Meet & Greet ศิลปินดารา, พิธีกร และผู้ประกาศข่าวจาก Amarin TV รวมถึงกิจกรรมเสวนาที่น่าสนใจ พร้อม Workshop อีกมากมาย โดยเราจะใช้ข้อมูลเชิงพฤติกรรมของผู้อ่านจากสื่อออนไลน์ และผู้ชมงาน อีเวนต์ที่จัดในแต่ละปี มาวิเคราะห์อย่างมืออาชีพ และถูกต้องตามหลักการเป็นฐานข้อมูลอ้างอิง เพื่อพัฒนาธุรกิจ
ศิริ บุญพิทักษ์เกศ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทอมรินทร์ เทเลวิชั่น จำกัด กล่าวว่า Amarin TV 34HD เป็นสื่อที่จะช่วยเชื่อมโยงในทุกภาคส่วนเพื่อสร้างสังคม (Community) แห่งการแบ่งปัน และมอบสิ่งดีๆ กลับคืนสู่สังคม เหมือนที่เราได้ทำมาตลอดโดยเฉพาะในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ด้วยการเป็นสื่อกลางช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด – 19 การระดมทุนจากผู้ชมของเราที่มีจิตศรัทธาเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย การนำเสนอคอนเทนต์ที่มีส่วนช่วยคนในสังคมและชุมชน เพื่อที่เราจะเติบโตไปด้วยกัน บนเส้นทางหรือสังคมที่ยั่งยืน ภายใต้สโลแกนและทิศทางการทำงานของเรา “Sustainable Route” เติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนไปกับรายการต่างๆ ของช่องในแบบ “Real Life Entertainment สนุก เข้มข้น บนความจริง” ซึ่งเป็นแนวคิดและจุดยืนหลักของช่อง (Concept & Positioning) และเป็นเอกลักษณ์ของ Amarin TV 34HD นั่นเอง
• เปิดตัวโปรเจค อมรินทร์อาสาฯ คืนโอกาสสังคม
ในการแถลงข่าว AMARIN EXPO 2023 อมรินทร์ฯ ยังเปิดตัว 2 โครงการเพื่อสังคม ซึ่งเครืออมรินทร์ทำควบคู่มาตลอดเกือบครึ่งศตวรรษ ภายใต้พันธกิจหลัก “เราทำงานเพื่อความสุข และความรุ่งโรจน์ของสังคม” ภายในงาน AMARIN EXPO 2023 จะมีการเปิดตัวโครงการ “อมรินทร์ อาสา” 2 โครงการสำคัญในปีนี้ คือ โครงการ “หนึ่งหัวใจ สู่ชีวิตใหม่” ซึ่งเป็นความร่วมมือกับมูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก โดยสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี, บริษัท ซีเจเวิร์ค จำกัด (CJ WORK) และค่ายเพลง WHAT THE DUCK ในโครงการ “หนึ่งหัวใจ สู่ชีวิตใหม่” ระดมทุน 50 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเด็กที่ป่วยด้วยโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดขั้นวิกฤต ผ่านรูปแบบมิวสิคแคมเปญ และโครงการ “อ่านพลิกชีวิต” ร่วมบริจาคหนังสือจำนวน 150,000 เล่ม ให้ห้องสมุดโรงเรียนกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ