“Let Hope Bloom” นิทรรศการภาพถ่ายดอกไม้แห่งความหวังที่ผลิบานจากเซลล์มะเร็ง

“Let Hope Bloom” นิทรรศการภาพถ่ายดอกไม้แห่งความหวังที่ผลิบานจากเซลล์มะเร็ง

“เมื่อความทุกข์พัดผ่านมาเยือน

สิ่งเดียวที่ไม่ควรปล่อยให้ร่วงหล่น คือ ‘ความหวัง’

เพราะทุกเซลล์ของชีวิต ล้วนมีเรื่องราวของการต่อสู้

การเอาชีวิตรอด และความหวังซ่อนอยู่เสมอ”

“Let Hope Bloom” คือนิทรรศการศิลปะเชิงการแพทย์โดยโรงพยาบาลศิริราช ที่นำเสนอภาพดอกไม้หลากสีสัน ที่สร้างสรรค์จากภาพต้นแบบของเซลล์มะเร็งชนิดต่าง ๆ เพื่อนำเสนอเรื่องราวแห่ง “ความหวัง” และสะท้อนความก้าวหน้าทางการแพทย์ของศิริราชพยาบาล ที่ดำเนินการรักษาโรคมะเร็งอย่างครอบคลุม ทั้งการผ่าตัด เคมีบำบัด รังสีรักษา การให้ยามุ่งเป้า (Targeted Therapy) และภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) ตลอดจนการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการวินิจฉัย และการวิจัยด้านยีนบำบัดและเซลล์บำบัด เพื่อค้นหาหนทางใหม่ในการรักษาโรคที่ซับซ้อนที่สุดในยุคนี้

นิทรรศการแห่งความงามที่กำเนิดขึ้นจากความเจ็บปวด

ปัจจุบันโรคมะเร็งยังคงเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของคนไทย ในแต่ละปี มีผู้ป่วยรายใหม่กว่า 140,000 คน และเสียชีวิตมากกว่า 80,000 คน มะเร็งที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่ มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด มะเร็งตับและท่อน้ำดี รวมถึงมะเร็งลำไส้ใหญ่ ยิ่งน่ากังวลเมื่อแนวโน้มของผู้ป่วยอายุน้อยเริ่มเพิ่มขึ้น โรคร้ายนี้ไม่ได้ทำลายเพียงร่างกาย หากยังบั่นทอนจิตใจของผู้ป่วยและครอบครัวไปพร้อมกัน ท่ามกลางความจริงอันโหดร้ายเช่นนี้ สิ่งที่ศิริราชต้องการส่งต่อผ่านนิทรรศการนี้ คือ “ความหวัง” ที่ช่วยพยุงหัวใจผู้คนให้อยู่ต่อได้

ศ. นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณะบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิราราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวในพิธีเปิดนิทรรศการเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาว่า ในภาพการรับรู้ของคนทั่วไปมะเร็งคือสัญญลักษณ์ของความเจ็บปวดและความสูญเสีย แต่ในนิทรรศการนี้ ทีมแพทย์และศิลปินได้เปลี่ยนภาพเซลล์มะเร็งที่มีขนาดเล็กในหน่วยไมครอน ให้กลายเป็นภาพดอกไม้ที่มีความงามและเบิกบาน เพื่อสื่อถึงความรักและความหวัง 

“เพราะแม้แต่ในทะเลทรายที่แห้งแล้งที่สุด ดอกไม้ก็ยังบานได้  ในสถานการณ์ที่ดูมืดอับไม่เห็นทาง หากความหวังยังมั่นคงแข็งแรงอยู่ในชีวิต โอกาสที่ดอกไม้แห่งชีวิตจะผลิบานก็ยังมีอยู่เสมอ”

“และเพื่อให้ดอกไม้แห่งความหวังนั้นถือกำเนิดขึ้นจริง ทีมแพทย์และศิลปินจึงต้องร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด”

โดยทีมแพทย์จะใช้เทคนิคการย้อมสีด้วยสารเคมีเฉพาะในห้องปฏิบัติการ เพื่อให้เซลล์แต่ละชนิดสามารถเรืองแสงและแสดงสีแตกต่างกันได้อย่างชัดเจน จากนั้นศิลปินจะนำภาพเซลล์ต้นแบบไปรังสรรค์เป็นผลงานโดยใช้เทคนิค “photo stacking” หรือการซ้อนภาพหลายชั้นที่ถ่ายผ่านกล้องจุลทรรศน์ เพื่อให้ภาพออกมามีความลึกและมิติ

ซึ่งทุกภาพที่นำเสนอนั้น ศิลปินได้เลือกเก็บรายละเอียดของ “เซลล์มะเร็ง” และ “T-cell” ที่ปรากฏในภาพด้วยสีสันสดใส ในขณะที่ส่วนของเนื้อเยื่ออวัยวะรอบข้างถูกย้อมให้มีโทนสีดำ เพื่อให้เซลล์มะเร็งถูกแปลงร่างเป็นดอกไม้ดูโดดเด่นขึ้น ท่ามกลางความมืดมนของความเจ็บป่วยที่โอบล้อมอยู่รอบตัว

21 ภาพดอกไม้แห่งการต่อสู้

นิทรรศการ “Let Hope Bloom” ประกอบด้วย ผลงานศิลปะทั้งหมด 21 ชิ้น ซึ่งเป็นตัวแทนของ “เซลล์มะเร็ง” ชนิดต่าง ๆ ที่ถูกแปรเปลี่ยนให้กลายเป็น “ดอกไม้” ผ่านมุมมองทางศิลปะและเทคนิคทางการแพทย์ที่ละเอียดอ่อน โดยมีภาพ “ผลิบาน”  ที่ประกอบขึ้นจากภาพต่อเนื่องห้าชิ้น เป็นหัวใจของนิทรรศการนี้

ผลิบาน เป็นภาพขนาดพใหญ่ ที่เกิดจากผสานภาพของเซลล์มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม และมะเร็งลำไส้ใหญ่ ที่ถูกจัดเรียงให้ทอดตัวไปตามพื้นหลังสีดำที่ดูคล้ายรากไม้และผืนดิน เพื่อถ่ายทอดว่ากระบวนการของโรคกำลังขยายตัวออกไปอย่างช้า ๆ

แต่เมื่อพินิจในอีกมุมหนึ่ง เส้นสายสีชมพู ฟ้า และเหลืองที่ส่องประกายอยู่ในภาพกลับคล้ายกลีบดอกไม้ที่ค่อย ๆ เบ่งบานขึ้นจากความมืดมิด ภาพนี้จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้ระหว่างความทุกข์และความหวัง ที่สื่อสารเรื่องราวของการมีชีวิตอยู่ได้อย่างแยบยล

นอกจากภาพผลิบานแล้ว อีกหนึ่งในผลงานเด่นของนิทรรศการนี้คือภาพ “พวงสกาว” ซึ่งเป็นภาพของเซลล์มะเร็งปอด ของผู้ป่วยหญิงจากกรุงเทพมหานคร ที่นำเสนอเส้นสายสีดำที่ทอดตัวออกไปคล้ายช่อดอกไม้  แต่แท้จริงแล้ว นั่นคือเส้นเลือดฝอยที่เซลล์มะเร็งใช้ดูดสารอาหารและเลือดเพื่อเลี้ยงตัวเอง ขณะที่กลุ่มเซลล์สีฟ้าและม่วงเรืองแสงถูกตีความเป็นพวงดอกไม้ที่กำลังผลิบาน สื่อถึงความงามที่ถือกำเนิดขึ้นจากความเปราะบางและความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจากโรค

นิทรรศการ Let Hope Bloom เปิดให้ผู้ที่สนใจเข้าชมตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2568 ที่โถงชั้น L หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC) ผู้เข้าชมสามารถร่วมสมทบทุนในโครงการวิจัยทางการแพทย์ ด้วยการซื้อภาพถ่ายศิลปะหรือเสื้อยืดภายในงาน โดยรายได้ทั้งหมดจะมอบให้ศิริราชมูลนิธิ เพื่อสนับสนุนการดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็ง และเป็นทุนวิจัยเพื่อค้นหาหนทางรักษาใหม่ในอนาคต

“เพราะพันธกิจของศิริราช ไม่ได้จบแค่เพียงการรักษา แต่คือการรักษาความหวังของผู้ป่วยทุกคน”

Life is still beautiful whenever hope is there.

ภาพถ่ายโดย ฤทธิรงค์ จันทองสุข


อ่านเพิ่มเติม : ภาพถ่ายสีเก่าแก่ที่สุดในโลก ที่ยังคงอยู่ในกระบวนการล้างภาพ

Recommend