นาซา (NASA) ได้เปิดเผยตัวอย่างที่เก็บมาจาก ‘ดาวเคราะห์น้อยเบนนู’ ซึ่งมีอายุใกล้เคียงกับการกำเนิดระบบสุริยะที่ 4.5 พันล้านปี ถือเป็นตัวอย่างจากดาวเคราะห์น้อยที่มากที่สุด โดยมีปริมาณถึง 250 กรัม จากที่คาดว่าจะเก็บได้เพียง 60 กรัมเท่านั้น
โดยการวิเคราะห์เบื้องต้น พบน้ำและคาร์บอนจำนวนมาก ซึ่งคาร์บอนนั้นมากถึงเกือบร้อยละ 5 ของน้ำหนักทั้งหมด ทำให้กลายเป็นหนึ่งในตัวอย่างจากดาวเคราะห์น้อยที่มีคาร์บอนเข้มข้นที่สุดด้วยเช่นกัน นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าจะช่วยให้เห็นภาพการกำเนิดชีวิตบนโลกได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
“โมเลกุลของคาร์บอนและน้ำเป็นสสารประเภทเดียวกับที่เราต้องการค้นหา พวกมันเป็นองค์ประกอบสำคัญในการก่อตัวของดาวเคราะห์ของเราเอง และพวกมันจะช่วยเราระบุต้นกำเนิดขององค์ประกอบที่อาจนำไปสู่การมีชีวิต” บิล เนลสัน (Bill Nelson) ผู้บริหารของนาซากล่าว
ทีมนักวิจัยได้วิเคราะห์หินและฝุ่นบางส่วนด้วยการใช้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราด ทำการวัดด้วยอินฟราเรด ใช้รังสีเอ็กซ์เพื่อสร้างแบบจำลอง 3 มิติ และดำเนินการวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมี ซึ่งเผยให้เห็น ‘สมบัติทางวิทยาศาสตร์’ นั่นก็คือปริมาณของน้ำและคาร์บอน
“การวิเคราะห์ครั้งแรกแสดงตัวอย่างที่มีน้ำปริมาณมากในรูปแบบของแร่ดินเหนียวและมีคาร์บอนเป็นทั้งแร่ธาตุและโมเลกุลอินทรีย์” เนลสัน ระบุ สิ่งนี้ทำให้นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าน้ำบนโลกไม่ว่าจะเป็นมหาสมุทร ทะเลสาบ แม่น้ำ และฝน เกิดขึ้นได้เพราะแร่ธาตุดินเหนียวเหล่านี้ตกลงมาบนโลกเมื่อ 4 พันล้านปีก่อน
“นั่นเป็นวิธีที่เราคิดว่าน้ำมายังโลก” เดนเต้ ลอเรตตา ศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์จากมหาวิทยาลัยแอริโซนากล่าว
การวิเคราะห์ยังเผยให้เห็นว่าเบนนูมีธาตุซัลเฟอร์ด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของชีวิต รวมถึงธาตุอื่นเช่นธาตุเหล็กออกไซด์ที่เรียกว่าแมกนีไทต์ซึ่งทำปฎิกิริยากับสนามแม่เหล็ก ก็อาจมีส่วนสำคัญสำหรับวิวัฒนาการของสารอินทรีย์ด้วย
แต่นี่เพิ่งเป็นการเริ่มต้นวิเคราะห์เท่านั้น ดร. แดเนียล กลาวิน (Daniel Glavin) นักวิทยาศาสตร์ผู้วิเคราะห์ตัวอย่างจากเบนนูของนาซา หวังว่าจะมีอะไรน่าตื่นเต้นให้ได้ค้นพบอีกมาก บางที เบนนูอาจเก็บซ่อนเปปไทด์หรือสายโซ่ของกรดอะมิโนที่สามารถพัฒนาเป็นโปรตีนต่อไปไว้ก็ได้
“ถึงเราจะเพิ่งเริ่มต้น แต่เราเลือกดาวเคราะห์น้อยดวงที่ถูกต้อง และไม่เพียงแค่นั้น เรายังนำตัวอย่างที่ถูกต้องกลับมาด้วย” กลาวินระบุ “สิ่งนี้เป็นความฝันของนักดาราศาสตร์”
ฝุ่นและหินเหล่านี้ไม่เพียงจะให้เบาะแสกับการกำเนิดชีวิตบนโลกเท่านั้น แต่ยังสามารถเปิดเผยประวัติความเป็นมาของดาวเคราะห์น้อยว่าพวกมันก่อตัวและพัฒนาไปตามกาลเวลาอย่างไรได้ด้วยเช่นกัน
ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์รู้จักองค์ประกอบของหินอวกาศ ซึ่งสามารถปรับใช้กับการเบี่ยงเบนดาวเคราะห์น้อยที่จะพุ่งชนโลกในอนาคตได้
นาซา ระบุว่าจะเก็บตัวอย่างไว้ราวร้อยละ 70 ส่วนที่เหลือจะแบ่งให้ประเทศพันธมิตรเช่น องค์การอวกาศแคนาดา สำนักงานสำรวจอวกาศญี่ปุ่น และอื่น ๆ เพื่อร่วมกันศึกษาตัวอย่างนี้
รวมถึงเก็บไว้เพื่อให้คนรุ่นต่อไปที่มีเทคโนโลยีดีกว่าสามารถย้อนกลับมาวิเคราะห์สิ่งต่าง ๆ ที่เครื่องมือในปัจจุบันอาจมองข้ามไป
“ความลึกลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เรากำลังเผชิญอยู่ตอนนี้คือ คุณจะเปลี่ยนจากก้อนโคลนไปสู่สิ่งมีชีวิตได้อย่างไร? การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่?” ลอเรตตากล่าว “ความปราถนาขั้นสูงสุดก็คือเราจะก้าวไปข้างหน้าเพื่อพยายามคิดว่าเหตุใดเราจึงมาอยู่ที่นี่ในจักรวาล”
สืบค้นและเรียบเรียง วิทิต บรมพิชัยชาติกุล
Photo: NASA/Erika Blumenfeld & Joseph Aebersold
ที่มา
https://www.livescience.com/space/nasa-finally-reveals-1st-sample-from-potentially-hazardous-asteroid-bennu-and-it-may-contain-the-seeds-of-life
https://www.sciencealert.com/first-look-at-pristine-asteroid-dust-reveals-abundance-of-water-and-carbon
https://edition.cnn.com/2023/10/11/world/osiris-rex-bennu-asteroid-sample-reveal-scn/index.html
https://www.nasa.gov/news-release/ nasas-bennu-asteroid-sample-contains-carbon-water/