จะเป็นอย่างไรหากโลกมีรูปทรง 4 เหลี่ยมแบบลูกบาศก์ ?
ต้องขอบคุณกฎฟิสิกส์ที่ทำให้เรามีโลกเป็นทรงกลม เพราะโลก 4 เหลี่ยมดูจะเป็นสถานที่ที่ไม่ใช่บ้านอันอบอุ่นเท่าไหร่นัก
อย่างที่เราทราบกันดี วัตถุระดับดาวเคราะห์หรือดาวฤกษ์ทั้งหมดในจักรวาล รวมถึงโลกของเราต่างมีรูปร่างเป็นทรงกลม เนื่องจากพวกมันถูกสิ่งที่เรียกว่า ‘แรงดึงดูด’ (Gravity) ดึงทุกอย่างเข้าสู่จุดศูนย์กลาง และลักษณะทรงกลมก็เป็นรูปร่างที่แรงดึดดูดกระจายเท่ากันหรืออย่างน้อยก็ในระดับเดียวกัน
สิ่งนี้ทำให้มนุษย์ทั่วทุกแห่งบนโลกที่เป็นทรงกลมมีความสูงใกล้เคียงกัน ภูเขา ภูมิประเทศ หรือระดับน้ำทะเลก็อยู่ในช่วงเดียวกัน ถึงแม้ว่าโลกที่เป็นทรงลูกบาศก์จะไม่มีอยู่จริง แต่เราสามารถลองจินตนาการดูได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างหากโลกเป็น 4 เหลี่ยม
แรงโน้มถ่วงไม่เท่ากัน
หากโลกเป็นลูกบาศก์ ตอนนี้โลกจะมี 4 หน้า บวกกับอีก 2 หน้าบน-ล่าง รวมกันแล้วเป็น 6 ด้าน สิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างแรกสุดคือการกระจายของแรงโน้มถ่วงที่ไม่เท่ากันในแต่ละพื้นที่ของแต่ละด้าน โดยจะรุนแรงและแข็งแกร่งสุดที่จุดศูนย์กลางของแต่ละหน้า เนื่องจากอยู่ใกล้กับจุดศูนย์กลางของโลกมากที่สุด
แรงนี้จะสามารถดึงน้ำทั้งหมดในแต่ละหน้าให้มารวมตัวกันที่จุดศูนย์กลาง กลายเป็นมวลน้ำขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง ขณะเดียวกันภูมิประเทศตามขอบจะค่อย ๆ แห้งแล้งออกไปเรื่อย ๆ ไม่เพียงเท่านั้นด้วยความที่สิ่งมีชีวิตต้องพึ่งพาน้ำ ทำให้เกิดเป็นระบบนิเวศกระจุกอยู่เฉพาะตรงกลาง
อีกสิ่งหนึ่งก็คือ หากมนุษย์ (สมมติว่ามี) เดินทางจากจุดกลางไปยังขอบ เขาคนนั้นจะรู้สึกว่าเหมือนกำลังเดินขึ้นภูเขาสูง เนื่องจากแรงดึงดูดจะดึงเข้าสู่จุดศูนย์กลางเสมอ ขาของมนุษย์คนนั้นจะรู้สึกหนักขึ้น การเดินไปยังที่ขอบของโลก 4 เหลี่ยมจึงเหมือนการปีนขึ้นไปยังจุดสูงสุดของโลกทรงกลม
คุณอาจต้องการชุดอวกาศ
แม้โลกจะเป็นลูกบาศก์ แต่สนามแม่เหล็กโลกหรือแม้แต่ชั้นบรรยากาศจะยังคงเป็นทรงกลมอยู่ นั่นทำให้มุมสุดของโลก 4 เหลี่ยมถูกยื่นออกนอกชั้นบรรยากาศ เนื่องจากอากาศก็จะถูกแรงดึงดูดเข้ามายักจุดศูนย์กลางเช่นเดียวกับน้ำ
ในรายการพอดแคสต์ Dead Planets Society ของวารสาร NewScientist เคยกล่าวเอาไว้ว่ามนุษย์จะอยู่หายใจอยู่ได้ภายในพื้นที่เล็ก ๆ เท่านั้น
“จะมีโดมเล็ก ๆ 6 โดมบนหน้าของโลก 6 หน้า และแต่ละโดมจะล้อมรอบทะเลเล็ก ๆ และหากคุณดูที่ขนาดของบรรยากาศ ปริมาณน้ำ และก๊าซบนโลกนี้ (โลกทรงกลม) เรากำลังพูดถึงมนุษยชาติทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในรัศมี 10 กิโลเมตรรอบ ๆ ทะเลแต่ละแห่ง” มิก้า แมคคินนอน (Mika McKinnon) นักธรณีฟิสิกส์ กล่าวในรายการ
ภูมิภาคขอบนอกของโลกเหลี่ยมจะกลายเป็นพื้นที่ที่ไม่เอื้อต่อการอยู่อาศัย พื้นที่เหล่านี้ไม่ถูกปกป้องโดยสนามแม่เหล็กและชั้นบรรยากาศ หากเราก้าวออกไปโดยไม่ได้สวมชุดอวกาศ รังสีอันตรายในจักรวาลจะพุ่งเข้าใส่และทำร้ายเราอย่างไม่ปราณี ไม่มีอะไรจะอยู่รอดได้ในโดมเล็ก ๆ นั้น
สภาพอากาศที่รุนแรง
ด้วยความเป็นลูกบาศก์ ด้านที่อยู่ในแนวแกน Y แต่ละด้านจะโดนแสงเต็ม ๆ เมื่อหันเข้าหาดวงอาทิตย์ ทำให้ด้านนั้นมีสภาพอากาศแบบเส้นศูนย์สูตรอยู่ตลอดเวลา เหมือนกับแสงอาทิตย์ส่องตอนเที่ยงวันตลอดเวลา และเนื่องจากเวลา 1 วันของแต่ละด้านจะไม่ใช่ 24 ชั่วโมงอีกต่อไป ทำให้อุณหภูมิแตกต่างกันสุดขั้ว
จนสร้างสภาพอากาศที่รุนแรงยิ่งกว่าบนโลกทรงกลม ขณะที่ด้านบนและล่างจะมีสภาพเหมือนขั้วโลกนิ่ง ๆ และบางทีพวกมันอาจเป็นน้ำแข็งอยู่ตลอดเวลา
โดยสรุปแล้ว
เราสามารถจินตนาการดูถึงโลกที่เป็นลูกบาศก์ดูได้อย่างสนุกสนาน แต่มันก็จะไม่ใช้สถานที่ที่น่าอยู่มากนักสำหรับสิ่งมีชีวิตในปัจจุบันที่อยู่ในโลกทรงกลม แต่ในความเป็นจริงแล้วแรงโน้มถ่วงไม่อนุญาตให้มีดาวเคราะห์ 4 เหลี่ยม นั่นทำให้เราเห็นโลกกลมอยู่เสมอ
สืบค้นและเรียบเรียง วิทิต บรมพิชัยชาติกุล
ที่มา
https://geekswipe.net/science/astronomy/life-on-earth-if-it-was-a-cube/
https://www.scienceabc.com/nature/universe/what-if-the-earth-were-a-cube.html
https://www.geologyin.com/2015/05/what-if-earth-were-cube.html
https://whatifshow.com/what-if-the-earth-was-cube-shaped/