ทำไม สตีเฟน ฮอว์คิง จึงเตือนไม่ให้เราติดต่อกับ อารยธรรมต่างดาว ?

ทำไม สตีเฟน ฮอว์คิง จึงเตือนไม่ให้เราติดต่อกับ อารยธรรมต่างดาว ?

ทำไม สตีเฟน ฮอว์คิง จึงเตือนไม่ให้เราติดต่อกับ อารยธรรมต่างดาว ?

อารยธรรมต่างดาว – ความคิดจากนักฟิสิกส์ชื่อดังแห่งยุคยังคงเป็นที่ถกเถียงในหมู่นักวิทยาสาสตร์ และเชื่อว่าบางเรื่องเขาอาจคิดผิดก็เป็นไปได้
.
สตีเฟน ฮอว์คิง (Stephen Hawking) ผู้ปฏิวัติวงการจักรวาลวิทยาที่หลาย ๆ เรื่องยังคงมีอิทธิพลอยู่แม้เวลาจะล่วงเลยมาถึงปัจจุบันมาแล้วก็ตาม ทว่า มีความคิดหนึ่งที่ฮอว์คิงทิ้งท้ายไว้ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต ซึ่งสร้างการถกเถียงมาอย่างยาวนานว่า ‘เราควรจะติดต่ออารยธรรมต่างดาวหรือไม่?’
.
“มนุษย์ต่างดาวที่ก้าวหน้าเช่นนี้ อาจกลายเป็นอารยธรรมพเนจร ที่มองหาทางพิชิตและตั้งอาณานิคมในทุกดาวเคราะห์ใดก็ตามที่พวกเขาเข้าถึง” ฮอว์คิง กล่าวในรายงาน ‘Into the Universe with Stephen Hawking’ เมื่อปี 2010
.
พร้อมเสริมว่า “ถ้าเป็นเช่นนั้น มันก็สมเหตุสมผลสำหรับพวกเขาที่จะใช้ประโยชน์จากดาวเคราะห์ดวงใหม่แต่ละดวง เพื่อหาวัสดุในการสร้างยานอวกาศเพิ่มเติม เพื่อที่พวกเขาจะได้เดินหน้าต่อไป และใครจะรู้ว่าขีดจำกัด (ของเอเลี่ยน) จะเป็นอย่างไร?”
.
ข้อความดังกล่าวแสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ฮอว์คิง มีความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับอารยธรรมต่างดาวที่มีความล้ำหน้ากว่ามนุษย์ แม้ในปัจจุบันเราจะยังไม่เห็นสัญญาณใด ๆ ที่อาจสื่อว่ามีอะไรอยู่ข้างนอกโลกนั้น ฮอว์คิง กล่าวว่า คงเป็นเรื่องที่ดีกว่า หากเราเลือกที่จะเงียบ
.
จักรวาลนั้นกว้างใหญ่ยิ่งกว่าที่สมองของเราจะจินตนาการได้ มันเต็มไปด้วยกาแล็กซีนับไม่ถ้วนทั้งใกล้และไกล อีกทั้งในแต่ละแห่งนั้นก็มีดาวฤกษ์อยู่จำนวนมาซึ่งมักมาพร้อมกับดาวเคราะห์อีกเป็นขโยงจนคาร์ล เซแกน (Carl Sagan) เคยกล่าวเอาไว้ว่าในจักรวาลนี้มีดาวเคราะห์มากยิ่งกว่าเม็ดทรายทุกเม็ดบนโลกรวมกัน
.
ด้วยปริมาณมหาศาลเช่นนั้น มันจึงมีโอกาสที่จะมีดาวเคราะห์สักดวงหนึ่งที่อยู่ในตำแหน่งเอื้อต่อการเกิดของชีวิต แม้เราจะลดตัวเลขนั้นเหลือ 0.1% ของดาวเคราะห์ทั้งหมดแค่ในกาแล็กซีทางช้างเผือกของเรา ก็ยังมีดาวเคราะห์นับร้อยนับพัน หรือบางคนอาจเชื่อว่าถึงแสนดวงที่สามารถมีชีวิตได้
.
เอนริโก เฟอร์มี (Enrico Fermi) เคยตั้งข้อสังเกตนี้เช่นเดียวกัน เขาตั้งคำถามในปี 1950 ว่า ‘แล้วทุกคนหายไปไหนกันหมด?’ คำถามของเขาได้ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า ‘ข้อขัดแย้งของเฟอร์มี’ (Fermi Paradox) ที่มีนักวิทยาศาสตร์เสนอแนวคิดมากมายขึ้นมาเพื่อตอบว่า ทำไมเรายังไม่เจออารยธรรมต่างดาวสักที
.
หลายคนหลายคำตอบ แต่มีหนึ่งในนั้นที่ค่อนข้างสอดคล้องกับความคิดของ ฮอว์คิง นั่นคือแนวคิด ‘ป่าที่มืดมิด’ หรือ The Dark Forest ซึ่งถูกเสนอไว้ครั้งแรกในนิยายประเภท ‘ไซ-ไฟ’ ของ หลิว ซีซิน (Liu Cixin) และตอนนี้ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ซีรีส์ที่ชื่อว่า ‘3 Body Problem’
.
“จักรวาลคือป่าที่มืดมิด ทุกอารยธรรมคือนักล่าติดอาวุธที่สะกดรอยตามต้นไม้ราวกับผี ค่อย ๆ ผลักกิ่งไม้ที่กีดขวางเส้นทางและพยายามเหยียบโดยไม่ส่งเสียง แม้แต่การหายใจก็ยังทำด้วยความใส่ใจ พรานต้องระวัง เพราะทุกที่ในป่าก็มีพรานลอบเร้นเหมือนเขา” คำเปรยในหนังสือของ ซีซิน บรรยาย
.
“ถ้าเขาพบชีวิตอื่น—นักล่าอื่น เทวดาหรือปีศาจ ทารกบอบบางหรือชายชราที่เดินโซเซ นางฟ้าหรือครึ่งเทพ สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือเข้าโจมตีและกำจัดพวกมัน” แนวคิดนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าบางทีอารยธรรมต่างดาวอาจเป็นอารยธรรมที่โหดเหี้ยม พวกเขามองหาโอกาสที่จะกำจัดอารยธรรมอื่นอยู่เสมอเพื่อคงความอยู่รอดของตนเองไว้
.
และหากเอเลี่ยนในจักรวาลของเราเป็นเช่นนั้นจริง ท้ายที่สุดแล้วจะเหลืออารยธรรมเพียงแค่ 2 แบบนั้นคือ อารยธรรมที่ตายแล้ว (ถูกกำจัดแล้ว) และอารยธรรมที่ซ่อนตัวอย่างเงียบเชียบ ฮอว์คิง เองก็ได้แสดงความคิดเห็นในประเด็นคล้าย ๆ กันในปี 2015
.
“เราไม่รู้เกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวมากนัก แต่เรารู้เรื่องมนุษย์” ฮอว์คิง บอก “หากคุณดูประวัติศาสตร์ การติดต่อระหว่างมนุษย์กับสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดน้อยกว่า มักจะเป็นหายนะจากมุมมองของพวกเขา และการเผชิญหน้าระหว่างอารยธรรมที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง ได้ส่งผลเสียต่อผู้ที่มีความก้าวหน้าน้อยกว่า”
.
และเสริมต่อว่า “อารยธรรมที่อ่านข้อความใดข้อความหนึ่งของเราอาจเป็น โลกข้างหน้าเราอีกหลายพันล้านปี หากเป็นเช่นนั้น พวกเขาจะมีพลังมหาศาล และอาจไม่เห็นคุณค่าของเรามากกว่าที่เราเห็นต่อแบคทีเรีย”
.
แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเห็นด้วย
.
นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์ มาร์ติน รีส์ (Martin Rees) ได้ตอบโต้ความกลัวของ ฮอว์คิง โดยบอกว่าจริง ๆ แล้วอารยธรรมที่ก้าวหน้าอาจรู้ว่าเราอยู่ตรงนี้แล้ว แต่พวกเขาก็ยังคงเฝ้ารอให้ถึงเวลาที่เหมาะสมในการติดต่ออย่างสันติก็เป็นไปได้
.
เช่นเดียวกัน แอน ดรูยาง (Ann Druyan) ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้บริหารของ ‘Cosmos Studios’ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ‘Breakthrough Listen’ ที่จะคอยฟังสัญญาณต่าง ๆ ในจักรวาลเพื่อตามหาเบาะแสหรือร่องรอยเล็ก ๆ น้อยของสิ่งมีชีวิตทรงปัญญาต่างดาว ดรูยาง มองโลกในแง่ดีอย่างยิ่งเกี่ยวกับธรรมชาติของเอเลี่ยนที่ก้าวหน้ากว่า และอนาคตของมนุษยชาติ
.
“เราอาจเข้าสู่ยุคในอนาคตที่เราเติบโตเร็วกว่าการวิวัฒนาการทางชีวภาพของเรา และพัฒนาให้มีความรุนแรงน้อยลง และมีทัศนวิสัยที่คับแคบน้อยลง” เขากล่าว “ความหวังของผมคือ อารยธรรมนอกโลกไม่เพียงแต่มีความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีมากกว่าที่เราเป็นเท่านั้น แต่ยังตระหนักถึงความหายาก และคุณค่าของชีวิตในจักรวาลอีกด้วย
.
หลายคนยังเน้นย้ำถึงความยากลำบากในการเดินทางผ่านอวกาศระหว่างดวงดาวที่ต้องใช้ทรัพยากรมหาศาลทั้งด้านพลังงานและเวลา ดาวฤกษ์ที่อยู่ใกล้ที่สุดที่มีดาวเคราะห์อยู่ในตำแหน่งเอื้อต่อการกำเนิดชีวิตนั้นห่างจากโลกราว 4 ปีแสง แต่ในทุกวันนี้เราก็ยังไม่เห็นสัญญาณของสิ่งมีชีวิตที่มีเทคโนโลยีอวกาศ
.
ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่า อารยธรมที่ล้ำหน้ากว่าเราจะไกลยิ่งกว่านั้น จึงทำให้การเดินทางยากยิ่งกว่าเดิม และความจริงที่ว่าสัญญาณวิทยุของมนุษย์เพิ่งจะรั่วไหลออกไปหลักร้อยปี แม้อาจจะดูยาวนานสำหรับมนุษย์โลก แต่เมื่อเทียบระยะทางแล้ว เรายังไม่ได้ไปไหนไกล และที่สำคัญสัญญาณเหล่านั้นจะพร่ามัวจนแทบฟังไม่รู้เรื่อง
.
“ในขณะที่ สตีเฟน ฮอว์คิง เตือนว่าชีวิตมนุษย์ต่างดาวอาจพยายามยึดครองหรือตั้งอาณานิคมบนโลก ด้วยความเคารพ แต่ฉันไม่เห็นด้วย” จิล ทาร์เตอร์ (Jill Tarter) อดีตผู้อำนวยการศูนย์ ‘เซติ’ (SETI) กล่าว “หากมนุษย์ต่างดาวมาที่นี่ ก็จะเป็นเพียงแค่การสำรวจ เมื่อพิจราณาถึงอายุของจักรวาล เราคงไม่ใช่การเผชิญหน้าครั้งแรกเช่นกัน”
.
อย่างไรก็ตาม ฮอว์คิง ได้กล่าวเอาไว้ว่าเขาเองก็ตื่นเต้นเช่นกันหากมนุษย์โลกได้รับการติดต่อจากอารยธรรมต่างดาว และมันจะเป็น “การค้นพบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเพียงครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ”
.
ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครบอกได้ว่ามนุษย์ต่างดาวจะมีรูปร่างหน้าตาเช่นไร หรือมีพฤติกรรมเช่นไร จนกว่าเราทั้งสองจะได้นั่งตรงหน้าและคุยกันอย่างตรงไปตรงมา เราถึงจะตอบคำถามเหล่านั้นได้

แต่ในตอนนี้ การได้เตรียมพร้อมไว้ก่อนก็ดูเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องทำ

สืบค้นและเรียบเรียง วิทิต บรมพิชัยชาติกุล

ที่มา

https://www.sciencealert.com/stephen-hawking-warns-that-we-might-not-want-to-reach-out-to-aliens

https://www.space.com/29999-stephen-hawking-intelligent-alien-life-danger.html

https://www.iflscience.com/why-stephen-hawking-warned-against-contacting-alien-civilizations-73728

https://www.nationalgeographic.com/science/article/stephen-hawking-controversial-physics-black-holes-bets-science

https://www.space.com/34184-stephen-hawking-afraid-alien-civilizations.html


อ่านเพิ่มเติม สิ่งมีชีวิตนอกโลก : มีใครอยู่ข้างนอกนั่นไหม

สิ่งมีชีวิตนอกโลก

Recommend