“มนุษย์ต่างดาว” มีหน้าตาแบบไหน เหมือนมนุษย์หรือไม่? บางทีเอเลี่ยนอาจแปลกกว่าที่เราคิด

“มนุษย์ต่างดาว” มีหน้าตาแบบไหน เหมือนมนุษย์หรือไม่? บางทีเอเลี่ยนอาจแปลกกว่าที่เราคิด

มนุษย์ต่างดาว จะมีรูปร่างหน้าตาแบบไหน? ในภาพยนต์และรายการโทรทรรศน์มักนำเสนอ เอเลี่ยน ในรูปลักษณ์แบบสองขา สองแขน สองตา และยืนหลังตรง ทว่านักวิทยาศาสตร์ให้ความเห็นที่ต่างออกไป ‘มันจะไม่เหมือนกับมนุษย์เลยสักนิดเดียว’ 

เอเลี่ยนหน้าตาเป็นอย่างไร? บางทีพวกเขาอาจเหมือน ‘ช้าง’ ไม่ก็ ‘หมีกยักษ์’ หรือ ‘หุ่นยนต์’ ก็เป็นไปได้เช่นกันตามกฏฟิสิกส์เดียวกันที่ผลักดันให้เกิดวิวัฒนาการทั่วจักรวาล

“พวกเขาตัวเล็ก สีเขียว และมีดวงตาที่โตมาก” คำให้การส่วนใหญ่ของผู้ที่อ้างว่าได้พบกับเอเลี่ยนที่แอบมาเยือนโลกแล้วลักพามนุษย์ไปทดลอง คำพูดเหล่านั้นอาจเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ผลิตภาพยนต์จำนวนมากนำเสนอสิ่งมีชีวิตต่างดาวในรูปแบบที่คล้าย ๆ กัน กล่าวอีกนัย พวกเขามีความคล้ายกับมนุษย์อย่างน่าประหลาดใจ 

และนั่นก็เป็นหนึ่งในคำถามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดทางวิทยาศาสตร์ว่าจริง ๆ แล้ว มนุษย์ต่างดาวนั้นมีรูปร่างแบบใดกันแน่ คำตอบนั้นเป็นไปได้มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้มองเห็นจำนวนสิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้นมาบนดาวเคราะห์สีน้ำเงินแห่งนี้

ความหลากหลายที่น่าทึ่ง

ลิง โลมา วาฬ นก หอยทาก แบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา ช้าง สาหร่าย ต้นไม้ และหมึกยักษ์ สิ่งมีชีวิตเหล่านี้เกิดขึ้นมบนโลกในประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน และนั่นทำให้โลกมีความหลากหลายทางชีวภาพมาก โดยแต่ละสิ่งมีชีวิตต่างทำหน้าที่แตกต่างกันไป มีความสามารถไม่เหมือนกัน และพวกมันต่างก็มีความสำคัญในระบบนิเวศ 

เมื่อพิจารณาจากความเป็นไปได้เหล่านี้ เราจะตระหนักได้ทันทีเลยว่า เอเลี่ยน นั้นไม่จำเป็นจะต้องเดินหลังตรงและมีสองขา ยิ่งไปกว่านั้น หากทั้งจักรวาลอยู่ในกฎฟิสิกส์เดียวกับที่เรารู้จักในปัจุบัน นั่นหมายความว่าโลกใบอื่นก็มีความเป็นไปได้ที่จะอยู่ภายใต้แรงกดดันทางวิวัฒนาการแบบเดียวกัน

“หากเราสามารถคำนวณเวลาการค้นหาตามหลักวิวัฒนาการของพื้นที่ย่อยในจีโนมสำหรับฟีโนไทป์ที่สอดคล้องกันได้ ดังนั้นเราคาดหวังว่าจะสามารถพบความเหมาะสมที่เหมาะที่สุดได้” ทอม แมคไลช์ (Tom McLeish) จากมหาวิทยาลัยเดอรัม กล่าว “หากมันมีอยู่ นี่จะเป็นพื้นฐานแนวคิดในการทำความเข้าใจการบรรจบกันในวิวัฒนาการ” 

กล่าวอย่างง่าย ๆ ชีวิตบนดาวเคราะห์อื่นจะถูกกำหนดโดยปัจจัยหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น แรงโน้มถ่วง ดาวฤกษ์ รังสี องค์ประกอบในชั้นบรรยากาศ และอื่น ๆ อีกมากมาย จากนั้นก็ได้รับการคัดเลือกมาและส่งต่อลักษณะความอยู่รอดนั้นต่อไปให้ลูกหลาน อาจจะเป็นทางดีเอ็นเอหรือพันธุกรรมแบบอื่นที่เราไม่รู้จัก

อดัม แฟรงก์ (Adam Frank) ศาสตราจารย์ด้านฟิสิกส์ดาราศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยโรเชสเตอร์เคยยกตัวอย่างไว้ว่า ในกรณีที่ดาวเคราะห์มีแรงโน้มถ่วงสูง เอเลี่ยน อาจพัฒนาตัวเองให้มีความแข็งแกร่ง ‘เหมือนช้าง’ 

หรือบางทีพวกเขาอาจจะวิวัฒนาการไปอยู่ใต้ดินตามที่ วาเลนตินา อีราสโทวา (Valentina Erastova) นักชีวเคมีจากมหาวิทยาลัยเอดินบะระ กล่าว เนื่องจากดาวเคราะห์บางดวงไม่ได้มี ‘ชั้นโอโซน’ แบบเดียวกับโลก การอยู่บนพื้นผิวจึงได้รับรังสีจากอวกาศในปริมาณสูงมาก 

เอเลี่ยนจึงลงไปใช้ชีวิตใต้ดิน เพื่อหลีกเลี่ยงอันตราย และเมื่อบนโลกเองก็มีสิ่งมีชีวิตประเภทนี้จำนวนมาก “แม้แต่บนโลก ก็ยังมีสิ่งมีชีวิตหลากหลายรูปแบบมากกว่าที่จะเดินอยู่บนนั้น(บนพื้นผิวโลก)” อีราสโทวา กล่าว 

เช่นเดียวกันเมื่อพิจารณาจากมุมมองของรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ระดับรุนแรง งานวิจัยที่เผยแพร่ในวารสาร Mothly Notices of the Royal Astronomical Society เมื่อปี 2019 ก็ได้เสนอไว้ว่า จริง ๆ แล้วมนุษย์ต่างดาวอาจเรืองแสงสีแดง สีน้ำเงิน หรือเขียวได้เพื่อป้องกันตัวเอง เช่นเดียวกับที่ปะการังบางชนิดเรืองแสงได้ ซึ่งสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นจะมีโปรตีนหรือเม็ดสีบางชนิดที่สามารถดูดซับพลังงานของแสงยูวีได้ ทำให้พวกเขาเก็บเกี่ยวพลังงานจากดาวฤกษ์ของพวกเขาได้ง่ายยิ่งขึ้น ทั้งหมดนี้ทำให้เอเลี่ยนอาจมีรูปร่างในแบบที่เราไม่เคยเห็นบนโลก 

คิดซะว่าเหมือนหมึกยักษ์ 

เมื่อเรานึกภาพสิ่งมีชีวิตต่างดาวที่ฉลาด เรามักจะติดภาพว่าต้องมีสมองขนาดใหญ่ ซึ่งทำให้คิดต่อไปว่าต้องมีศีรษะขนาดใหญ่เพื่อรองรับอวัยวะชนิดนี้ และศีรษะนั้นต้องอยู่ในที่ที่ไม่เป็นอันตราย นั่นก็คือ อยู่บนที่สูงไว้ก่อน ซึ่งเข้ากันพอดีกับมนุษย์ แต่สำหรับโลกแล้วสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดบางชนิดไม่จำเป็นต้องมีสมองขนาดใหญ่รวมตัวกันอยู่ในที่แห่งเดียว

“เมื่อลองพิจารณาหมึกยักษ์ซึ่งมีแผนผังร่างกายที่แตกต่างออกไป โดยมีเซลล์ประศาสตร์กระจายทั่วร่างกายรวมถึงหนวด และมีเพียงสมองเล็ก ๆ ในหัวเท่านั้น“ ดร. เดิร์ก ชูลซ์-มาคุช (Dirk Schulze-Makuch) นักธรณีศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-มิลวอกี กล่าว 

“โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่หมึกยักษ์เป็นสายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุดในรายการของเรา ซึ่งเป็นญาติที่ห่างไกลที่สุดในแง่วิวัฒนาการ แน่นอนว่ามนุษย์ต่างดาวจะไม่มีความเกี่ยวข้องกับเราเลย ดังนั้นเราควรคิดถึงหมึกยักษ์มากกว่าช้าง เมื่อจินตนาการว่ามนุษย์ต่างดาวจะปรากฏตัวอย่างไร” เขาเสริม

นอกจากปัจจัยด้านดาวเคราะห์แล้วยังมีปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมให้พิจารณาอีกจำนวนมาก บนโลกที่มีแสงสว่าง สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ได้วิวัฒนาการอวัยวะขึ้นมาเพื่อรับแสง และหากดาวเคราะห์ของเอเลี่ยนมีแสงน้อย บางทีพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องมีตา แต่ไปเน้นอวัยวะรับข้อมูลด้านอื่นแทน

หรือไม่บางทีพวกเขาอาจแหวกแนวไปเลยนั่นก็คือเป็นหุ่นยนต์ เมื่อเราพิจารณาว่าอารยธรรมต่างดาวมีเวลามากพอที่จะพัฒนาเทคโนโลยี ก็เป็นไปได้เช่นกันว่าพวกเขาจะ ‘ปรับเปลี่ยน’ ร่างกายของพวกเขาให้มีความทนทานและใช้งานได้ดียิ่งขึ้น แบบเดียวกับที่มนุษย์ปัจจุบันกำลังทำในด้านอวัยวะเทียม 

ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มปกติของสิ่งมีชีวิตที่ต้องการให้มีชีวิตรอดได้นานที่สุด “ผมคิดว่ามันเป็นลักษณะทั่วไปของมนุษยืต่างดาวที่จะกำจัดร่างกายอินทรีย์ออกไปให้ได้มากที่สุดและเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้” ดร. ชูลซ์-มาคุช กล่าว “ดังนั้นหากคุณถามผมว่าเอเลี่ยนมีหน้าตาเป็นอย่างไร ผมอยากจะบอกว่าในท้ายที่สุดแล้ว พวกที่ก้าวหน้าที่สุดก็จะมีกลไกเต็มรูปแบบ” 

และหากดาวดวงนั้นมีอุณหภูมิต่ำมากเช่น ไททัน ดวงจันทร์ดวงใหญ่ที่สุดของดาวเสาร์ที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์องศา จนน้ำกลายเป็นน้ำแข็ง และมีแต่ทะเลมีเทน สิ่งมีชีวิตบนนั้นก็จะมีระบบการเผาผลาญที่ช้ามาก ดังนั้นเอเลี่ยนก็อาจจะเชื่องช้าราวกับสลอธ 

จะเหมือนมนุษย์มากแค่ไหน?

แม้ว่ามนุษย์ต่างดาวในรูปแบบต่าง ๆ ที่กล่าวมาทั้งหมดจะเป็นไปได้และมีความน่าอศัจรรย์อย่างยิ่ง แต่ ซาราห์ รักไฮเมอร์ (Sarah Rugheimer) รองศาสตราจารย์ด้านดาราศาสตร์และฟิสิกส์ดาราศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยยอร์กในโตรอนโต กล่าวเอาไว้ว่าเราอาจจะไม่ได้เห็นเอเลี่ยนที่ซับซ้อนมากนัก

“มีแนวโน้มว่าชีวิตจะเป็นเซลล์เดียวมากกว่ามาก” เธอกล่าว “เวลาส่วนใหญ่บนโลก สิ่งมีชีวิตเดียวที่มีอยู่คือจุลินทรีย์ และแม้กระทั่งทุกวันนี้ชีวมณฑลส่วนใหญ่ก็เป็นจุลินทรีย์” 

ดูเหมือนว่าชีวิตในปัจจุบันนั้นเป็นเพียง ‘ความบังเอิญ’ ที่เกิดขึ้นมาจากชีวิตเซลล์เดียว และโอกาสที่ชีวิตต่างดาวจะพัฒนาไปสู่ชีวิตหลายเซลล์นั้น “ไม่น่าจะเป็นไปได้มาก” รักไฮเมอร์ กล่าว ที่จะดูเหมือนมนุษย์ทุกประการ เนื่องจากสรีรวิทยาบนโลกนั้นเป็นเอกลักษณ์ที่วิวัฒนาการมาจากสภาพแวดล้อมของโลกเอง

สิ่งมีชีวิตบนดาวเคราะห์ดวงอื่นอาจมีวิวัฒนาการในลักษณะที่แตกต่างออกไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง หรือแม้กระทั่งมีโครงสร้างองค์ประกอบที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง แทนที่จะมีคาร์บอนเป็นส่วนประกอบ แต่มนุษย์ต่างดาวอาจประกอบด้วยซิลิคอนแทน 

“คาร์บอนมีปริมาณมากกว่าซิลิคอน และก่อให้เกิดเคมีที่ซับซ้อนกว่า” เธอกล่าว “แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันคิดว่าเป็นจริงก้คือ เราไม่รู้ว่าพวกเขาจะหน้าตาเป็นอย่างไร” 

ขณะนี้ยังไม่มีใครตอบได้จริง ๆ ซึ่งต้องรอจนกว่ามนุษยชาติจะมีการติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวจริง ๆ ในตอนนี้เราทำได้เพียงจินตนาการถึงพวกเขาในแง่มุมที่เป็นไปได้ทั้งหมด ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นที่จะคิดว่าเอเลี่ยนมีหน้าต่างอย่างไรได้บ้าง?

สืบค้นและเรียบเรียง วิทิต บรมพิชัยชาติกุล

Image by AF ARCHIVE, ALAMY on What ‘Star Trek’ May Have Right—and Wrong—About Alien Life Nationalgeographic

ที่มา

livescience

cosmosmagazine

Scientificamerican

bigthink

www.ox.ac.uk


อ่านเพิ่มเติม : “เอเลี่ยน”คงช่อนตัวจากเรา? รู้จัก” ทฤษฎีป่ามืด “(Dark Forest Theory)

Recommend