สารประกอบในปลิงทะเล อาจเป็นกุญแจสำคัญในการยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง

สารประกอบในปลิงทะเล อาจเป็นกุญแจสำคัญในการยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง

“ปลิงทะเลอาจกลายเป็นสุดยอดอาวุธที่ใช้ต่อสู้กับมะเร็ง

ด้วยความสามารถพิเศษในการสร้างสารประกอบน้ำตาล

ตามธรรมชาติที่ไม่เหมือนใคร”

ปลิงทะเลถูกใช้เป็นส่วนผสมในยาแผนโบราณมานานหลายศตวรรษ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียเนื่องจากมันอุดมไปด้วยส่วนประกอบที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพและมีประโยชน์ทางการแพทย์ งานวิจัยก่อนหน้าในปี 2023 เผยให้เห็นว่ามันมีสารประกอบบางอย่างที่ช่วยชะลอการเกิดโรคเบาหวานประเภท 2 ได้อย่างน่าทึ่ง

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าปลิงทะเลจะไม่หยุดความพิเศษไว้เพียงแค่นั้น งานวิจัยใหม่ที่เผยแพร่บนวารสาร Glycobiology ซึ่งนำโดยมหาวิทยาลัยมิสซิสซิปปี้ (UM) พบว่าปลิงทะเลมีการผลิต ‘ฟิวโคซิเลตคอนโดรอิทินซัลเฟต’ ที่สามารถยับยั้งเอนไซม์ชนิดหนึ่งที่ทำให้เซลล์มะเร็งแพร่กระจายได้ 

“สิ่งมีชีวิตในทะเลผลิตสารประกอบที่มีโครงสร้างเฉพาะตัว ซึ่งมักพบได้ยากหรือแทบไม่พบเลยในสัตว์ที่มีกระดูกสันหลังบนบก” มาร์วา ฟาร์ราก (Marwa Farrag) นักศึกษาปริญญาเอกจากภาคชีวโมเลกุลของ UM กล่าว “ดังนั้นสารประกอบน้ำตาลในปลิงทะเลจึงมีความพิเศษที่ไม่พบในสิ่งมีชีวิตอื่นทั่วไป นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราจึงควรศึกษา” 

มะเร็งที่แพร่กระจาย

นักวิทยาศาสตร์รู้ดีกว่าทำไมมะเร็งถึงแพร่กระจายได้รวดเร็วเหลือเกิน เนื่องจากมันได้รับความช่วยเหลือจากเอนไซม์ชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า ‘เฮปาราน-6-O-เอนโดซัลฟาเตส 2’ (heparan-6-O-endosulfatase 2) หรือเรียกสั้น ๆ ได้ว่า ‘ซัลฟ์-2’ (Sulf-2) 

สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ เมื่อมะเร็งเกิดขึ้น เซลล์ร้ายเหล่านี้จะเข้าไปเปลี่ยนโครงสร้าง ‘ไกลแคน’ (glycans) ซึ่งเป็นโครงข่ายหนาแน่นของโมเลกุลคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่มีลักษณะคล้ายเส้นผม และปกคลุมอยู่ทั่วพื้นผิวของเซลล์มนุษย์เกือบทั้งหมด มันเป็นสิ่งที่มีความสำคัญในการสื่อสารระหว่างเซลล์และการตอบสนองต่อระบบภูมิคุ้มกัน 

การที่มะเร็งจัดการกับโครงสร้างดังกล่าวได้ด้วยการใช้เอนไซม์ซัลฟ์-2 ทำให้เซลล์ไม่สามารถสื่อสารออกไปได้ว่าพวกมันกำลังเจอกับภัยคุกคามอยู่ เซลล์ไม่สามารถโทรแจ้งตำรวจให้มาจัดการเหตุร้ายได้ อาชญากรรมของมะเร็งจึงลุกลามไปอย่างรวดเร็ว

“เซล์ต่าง ๆ ในร่างกายของเราถูกปกคลุมด้วยไปด้วย ‘ป่า’ ของไกลแคน’ วิเตอร์ โพมิน (Vitor Pomin) ผู้เขียนรายงานและรองศาสตราจารย์ด้านเภสัชวิทยาที่ UM กล่าว “และเอนไซม์จะเปลี่ยนหน้าที่ของป่านี้ โดยพื้นฐานแล้วก้คือการตัดใบของป่านั้น ในทางทฤษฎีแล้วหากเราสามารถยับยั้งเอนไซม์ได้ เราก็จะสามารถต่อสู้กับมะเร็งที่แพร่กระจายได้” 

ปลิงทะเลฮีโร่

งานวิจัยก่อนหน้าได้ระบุไว้ว่าโพลีแซ็กคาไรด์ (Polysaccharide; คาร์โบไฮเดตรที่เป็นโมเลกุลใหญ่) ที่ชื่อ ฟูโคซิเลตคอนโดรอิทินซัลเฟต (HfFucCS) ซึ่งพบในปลิงทะเลสายพันธุ์ Holothuria floridana นั้นมีความสามารถทางเภสัชวิทยาในหลาย ๆ ด้าน 

ดังนั้นนักวิทยาศาสตร์จึงสงสัยว่า มันสามารถจัดการกับมะเร็ง หรือพูดให้เจาะจงยิ่งขึ้นมันสามารถสร้างผลกระทบให้กับเอนไซม์ซัลฟ์-2 ได้หรือไม่ การสร้างแบบจำลองและการทดสอบในห้องปฏิบัติการยืนยันว่า HfFucCS สามารถยับยั้งซัลฟ์-2 ได้

“เราสามารถเปรียบเทียบสิ่งที่เราสร้างขึ้นจากการทดลองกับสิ่งที่การจำลองทำนายได้ และผลลัพธ์ก็สอดคล้องกัน” โรเบิร์ต เดิร์กเซน (Robert Doerksen) ศาสตราจารย์ด้านเคมีการแพทย์ ศาสตราจารย์วิจัยในสถาบันวิทยาศาสตร์เภสัชกรรมที่มหาวิทยาลัยฟลอริดา และผู้เขียนรายงานร่วม กล่าว “นั่นทำให้เรามั่นใจในผลลัพธ์มากขึ้น” 

สิ่งสำคัญก็คือ HfFucCS ไม่ได้รบกวนการแข็งตัวของเลือดซึ่งต่างจากยาบางตัวที่มีเป้าหมายเป็นซัลฟ์-2 ที่ทำให้เลือดแข็งตัวจนส่งผลให้มีโอกาสเกิดลิ่มเลือดในร่างกายมากขึ้นเล็กน้อย และไม่มีความเสี่ยงในการถ่ายโอนไวรัสหรือสารอันตรายอื่น ๆ 

ปัญหา 

ยังไงก็ตามปัญหาก็คือ ปลิงทะเลกำลังตกอยู่ในสถานะที่เปราะบางอย่างยิ่ง แม้จะมีอยู่มากกว่า 1,000 สายพันธุ์ที่อาศัยอยู่ตามพื้นทะเลทั่วโลก แต่สัตว์เหล่านี้ก็ถูกเก็บเกี่ยวอย่างหนักทั้งเพื่อใช้ในการทำอาหาร ไปจนถึงการสูญเสียที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 20 

“เราใช้ยามาเป็นเวลากว่า 100 ปีแล้ว แต่ตอนนี้เราก็ยังคงแยกยาออกจากหมูอยู่ เนื่องจากการสังเคราะห์ทางเคมีนั้นทำได้ยากและมีราคาแพงมาก” โจชัวร์ ชาร์ป (Joshua Sharp) รองศาสตราจารย์ด้านเภสัชวิทยาที่มหาวิทยาลัยฟลอริดา และผู้เขียนรายงานร่วมกล่าว 

ปลิงทะเลนั้นเป็นผู้เก็บกวาดของมหาสมุทร โดยทำความสะอาดพื้นทะเลผ่านการดูดแบคทีเรีย ซากสาหร่ายขนาดเล็ก และตะกอนต่าง ๆ ออกไป การสูญเสียปลิงทะเลจึงไม่ได้เป็นเพียงการเสียโอกาสทางเภสัชวิทยาเท่านั้น แต่ยังทำให้ระบบนิเวศทางทะเลอ่อนแอลงไปด้วย

“(ปลิงทะเล) มีประโยชน์มากและเป็นแหล่งทรัพยากรที่สะอาดกว่า” โพมิน กล่าว “สภาพแวดล้อมทางทะเลมีข้อดีหลายประการเมื่อเทียบกับแหล่งทรัพยากรแบบดั้งเดิม” 

ที่มา

https://academic.oup.com

https://www.sciencedaily.com


อ่านเพิ่มเติม : ทิม ฟรีด ชายผู้ยอมให้งูพิษกัดกว่า 200 ครั้ง

เพื่อหนทางสู่เซรุ่มต้านพิษงูครอบจักรวาล

 

Recommend