ผจญภัยรอบโลกใน 24 ชั่วโมง สัมผัสสถานที่ท่องเที่ยวในช่วงเวลาที่สวยงามที่สุด เริ่มจากชมพระอาทิตย์รุ่งสางที่ฮาวาย จบวันด้วยการแหงนมองเพดานดวงดาวที่ไอร์แลนด์
05:00 น. ณ ฮาวาย – ไม่ว่าจะเป็นวันที่ดวงอาทิตย์ส่องแสงหรือวันที่ดวงอาทิตย์กำลังจะลาลับ ภาพถ่ายยามรุ่งอรุณในอุทยานแห่งชาติ Hawai’i Volcanoes เป็นเวลาที่จะมองโลกในมุมใหม่ รุ่งอรุณคือเวลาที่โลกอยู่ในสภาวะที่ดีที่สุด เป็นสถานที่ที่ดีและเป็นส่วนตัว อาหารเช้าและหลังจากนั้นค่อยเอาไว้ที่หลังเถอะ
เขียนโดย P.F. Kluge รูปภาพโดย Andrew Richard Hara.
06:00 น. ณ ปารีส – วันนี้เป็นวันที่สดใสในเมืองหลวงของฝรั่งเศส เนื่องจากตลาด Marché Bastille เต็มไปด้วยพ่อค้าแม่ค้าที่กำลังจัดสินค้าก่อนที่จะเปิดตลาดอย่างเป็นทางการเวลา 7.00 น. สองครั้งต่อสัปดาห์ (วันพฤหัสบดีและวันอาทิตย์) แผงขายอาหารเรียงยาวไปตามถนน Boulevard Richard Lenoir ซึ่งเต็มไปด้วยลังผลไม้และผักตามฤดูกาล ตะกร้าไข่ กองชีส ชามมะกอก โหลโยเกิร์ต และดอกไม้มากมาย
เพียงไม่นาน กลิ่นหอมน่ารับประทานก็จะอบอวลไปทั่วตลาด ตั้งแต่เครปอาหารเช้าแสนหวาน ปาเอญ่า (ข้าวผัดสเปน) ไปจนถึงกะหล่ำปลีดองกับไส้กรอกและเนื้อสัตว์เค็ม (Alsatian choucroute garnie) คุณจะค้นพบว่าตัวเองกำลังรอให้พ่อค้าแม่ค้าหยุดเตรียมอาหาร เงยหน้าขึ้นมา และถามสักทีว่าคุณต้องการชิมอะไร
เขียนโดย Jill K. Robinson. รูปถ่ายโดย David Briard.
07:00 น. ณ ซานฟรานซิสโก – ลองหยุดจากการเข้ายิมเล็กๆ ในโรงแรมมาเปิดประสบการณ์กับการขึ้นบันไดมากกว่า 670 ขั้นของซาน ฟรานซิสโกแทนดูสิ ไม่ว่าเป้าหมายในการออกกำลังกายของคุณจะเป็นไปเพื่อผลาญไขมันหรือเพียงแค่ต้องการทัศนียภาพอันงดงามและอากาศบริสุทธิ์ ลองเลือกทางเดินขั้นบันได Adah Bakalinsky’s ในซานฟรานซิสโกดู
บันได Lyon Street ที่กว้างขวางและได้รับการดูแลอย่างดี ดึงดูดผู้คลั่งไคล้การออกกำลังกายให้มารวมตัวกัน บันไดที่ปูกระเบื้องของ 16th Avenue เป็นผลงานศิลปะ ส่วน Baker Street กล่าวว่าเป็นบันไดที่ยาวที่สุดในบริเวณใกล้เคียงในทางด้านทิศเหนือ และผู้ที่ชอบความท้าทายได้ออกค้นหาย่าน Bernal Heights ซึ่งมีบันไดมากที่สุดในเมืองที่เป็นเนินเขา (ถนนที่มีบันไดมากกว่า 50 ช่วงตึก)
เขียนโดย Jill K. Robinson รูปถ่ายโดย Jayms Ramirez.
08:00 น. ณ อาบู ดาบี – ก่อนที่ตึกระฟ้าอันตระการตาหรือแม้แต่น้ำมันของอาบูดาบี (และส่วนที่เหลือของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) ขึ้นชื่อในเรื่องของไข่มุกธรรมชาติ ลองใช้เวลาตอนเช้าเพื่อสัมผัสประวัติศาสตร์ด้วยการดำน้ำหาไข่มุกแบบดั้งเดิมกับศูนย์ดำน้ำ Al Mahara
คุณจะได้เดินทางสู่น่านน้ำนอกเกาะ Sir Bani Yas และคุณจะได้เรียนรู้การหาไข่มุกด้วยตนเองในบริเวณน้ำตื้นพร้อมกับตะกร้าเก็บแบบดั้งเดิม คุณอาจโชคดีที่จะได้ไข่มุกแบบ Dana (ชนิดที่ล้ำค่าที่สุด) อย่างไรก็ตาม ไข่มุกที่คุณได้จะไม่เหมือนใครแน่นอนใน เอมิเรตส์
เขียนโดย Jill K. Robinson. รูปถ่ายโดย Outdoor-Archiv, Alamy Stock Photo.
09:00 น. ณ เมลเบิร์น – กาแฟที่ดีที่สุดในโลกส่วนหนึ่งสามารถพบได้ในเมลเบิร์น คำว่า “เมืองรอง” ของออสเตรเลีย อันที่จริงไม่มีอะไรที่เป็นรองเลย นอกจากสตรีทอาร์ตที่โดดเด่นสุดขั้ว กิจกรรมกลางแจ้ง และฉากอาหารสุดสร้างสรรค์ของเมืองแล้ว ยังมีค็อกคาทู สุนัขจิ้งจอกหัวสีเทา (เป็นสัตว์บินได้รูปร่างคล้ายค้าวคาวแต่ตัวใหญ่กว่ามาก) และนกเพนกวินก็เรียกที่นี่ว่าบ้านเช่นกัน
เขียนโดย Robert Reid. รูปถ่ายโดย Doug Gimesy.
10:00 น. ณ แทนซาเนีย – หลังพบประสบการณ์อันน่าประทับใจ บริเวณปล่องภูเขาไฟ Ngorongoro กับสิ่งมีชีวิตกว่า 30,000 ตัว (รวมถึงสิงโต ช้าง และม้าลาย) ให้กลับไปที่แคมป์และผจญภัยไปยังหมู่บ้านชนเผ่ามาไซที่อยู่ใกล้เคียง คุณสามารถมีส่วนร่วมในชีวิตประจำวันที่นั่น ไม่ว่าจะไปโรงเรียน พูดคุยกับผู้ใหญ่เกี่ยวกับวัฒนธรรมมาไซ ช่วยเหลืองานในทุ่งหญ้า ทำอาหารเที่ยง ตักน้ำ หรือสอนเกมใหม่ให้กับเด็กๆ
หรือคุณสามารถสวมรองเท้าเดินป่าและเข้าร่วมกับไกด์ชาวมาไซเพื่อสำรวจที่ราบสูง Ngorongoro เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยของสัตว์
เขียนโดย Jill K. Robinson รูปถ่ายโดย Michael Nichols, National Geographic Creative.
11:00 น. ณ อาร์เจนตินา – ในทุ่งน้ำแข็งเซาท์เทิร์นปาตาโกเนียน ชื่อที่คุณต้องรู้คือเปรีโตโมเรโน ธารน้ำแข็งนี้ครอบคลุมพื้นที่กว่า 96 ตารางไมล์ และเป็นแหล่งน้ำจืดสำรองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก
ด้วยทัวร์ Big Ice ของ Hielo & Aventura คุณจะได้ชมธารน้ำแข็งซึ่งสูงเกือบ 200 ฟุตเหนือผิวน้ำ จุดเด่นของการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงกลางวันคือการเดินบนที่ราบสูงที่เย็นยะเยือกและรับประทานอาหารกลางวันขณะชมรอยแยก ถ้ำ และเมืองมูแลงที่มีน้ำแข็งละลาย
เขียนโดย Jill K. Robinson. รูปถ่ายโดย Ed Norton, Lonely Planet Images/Getty Images.
12:00 น. ณ นามิเบีย – ต้นคาเมลธอร์นผุดขึ้นจากดินเหนียวแห้งในอุทยานแห่งชาติ Namib-Naukluft โดยมีเนินทรายสีส้มส่องแสงในตอนกลางวันเป็นฉากหลัง Namib-Naukluft หนึ่งในอุทยานแห่งชาติและเขตสงวนอย่างเป็นทางการหนึ่งใน 16 แห่งในนามิเบียเป็นที่รู้จักจากเนินทรายที่สูงตระหง่าน ภูเขาที่ขรุขระ เมืองที่ขนานนามว่า ‘เมืองผี’ ริมชายฝั่ง และสัตว์ป่าดัดแปลงพันธุกรรม
เขียนโดย Jayne Wise. รูปถ่ายโดย Frans Lanting, National Geographic Creative.
13:00 น. ณ ชาร์ลสตัน – ในขณะที่ชาร์ลสตัน เสน่ห์ของเซาท์แคโรไลนาได้ดึงดูดผู้มาเยือนมาหลายต่อหลายศตวรรษแล้ว การเดินทางขึ้นเหนือบนทางหลวงหมายเลข 17 ไปยังเกาะพาวลีย์ เผยให้เห็นแนวชายฝั่งที่กว้างใหญ่ไพศาล ซึ่งรวมถึง Waccamaw Neck หรือเรียกย่อๆ ว่า the Neck ซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากประเพณีกัลป์ลาห์
ชาร์ลสตันเปรียบเสมือนเป็นสำนักงานใหญ่ทางประวัติศาสตร์ของ Low Country เป็นทั้งจิตวิญญาณและเป็นแหล่งวัฒนธรรมที่คาดไม่ถึง ตั้งแต่ช่างทำตะกร้าและช่างแกะสลักไม้ ไปจนถึงพ่อครัวและชาวประมง มัคคุเทศก์พิพิธภัณฑ์ และผู้เชี่ยวชาญด้านมรดกที่มีชีวิต และตอนนี้ต้องขอบคุณสะพานที่กว้างขึ้น ถนนที่ได้รับการปรับปรุง และการเปิดโรงแรมแห่งที่สองบนเกาะพาวลีย์ เป็นสถานที่ที่พร้อมสำหรับวันหยุดยาว
เขียนโดย Jessica Mischner. รูปถ่ายโดย Alex Kotlik.
14:00 น. ณ พอร์ตแลนด์ – เมืองที่แปลกและแตกต่าง ปรากฏให้เห็นความแหวกแนวของเมืองโอเรกอนที่ย้อนกลับไปนานก่อนมีร้าน Voodoo Donut และเทศกาลปั่นจักรยานเปลือย แผนท่องเที่ยวเมืองใต้ดินพอร์ตแลนด์โดยทัวร์เดินชมพอร์ตแลนด์จะนำผู้เข้าชมไปยังย่านเมืองเก่าและไชน่าทาวน์
จากนั้นลงใต้ดินไปยัง “อุโมงค์พอร์ตแลนด์เซี่ยงไฮ้” ในตำนานที่อยู่ด้านล่างโรงแรม Merchant Hotel อันเก่าแก่ มัคคุเทศก์ที่ร่วมกับสมาคมประวัติศาสตร์เมืองโอเรกอนมีการสำรวจประวัติศาสตร์ของเมืองที่เคยมีความชั่วร้ายและการทุจริต ช่วยให้คุณมองเห็นจิตวิญญาณที่แหวกแนวของพอร์ตแลนด์ได้ดียิ่งขึ้น มากกว่าแค่การเดินเล่นในยามบ่ายและมองไปตามถนนอัลเบอร์ตา
เขียนโดย Jill K. Robinson. รูปถ่ายโดย NashCO
15:00 น. ณ นิวซีแลนด์ – ที่เกาะเหนือของนิวซีแลนด์ ภายใต้ภูมิประเทศที่เขียวขจี มีถ้ำโพรงขนาดใหญ่อยู่ด้านล่าง ถ้ำโกลววอร์ม กร็อตโตที่ส่องแสงระยิบระยับอันมีชื่อเสียงที่สุด ถือเป็นตำนานในหมู่ชาวเมารีเมื่อมีการสำรวจครั้งแรกในปี พ.ศ. 2430 ต่อมาภายในปี พ.ศ. 2432 ถ้ำหินปูนและถ้ำหนอนเรืองแสง (ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นริ้นเชื้อราที่พบเฉพาะในนิวซีแลนด์และออสเตรเลีย) ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันน่ามหัศจรรย์
กว่า 125 ปีต่อมา ถ้ำเหล่านี้ยังคงเป็นที่มาของความประหลาดใจของผู้มาเยี่ยมชม ต้องขอบคุณเส้นไหมที่เปล่งประกายระยิบระยับที่ห้อยลงมาจากเพดานถ้ำ
ตัดตอนบทมาจากหนังสือเล่มใหม่ของ Nat Geo’s new book Wild, Beautiful Places. รูปถ่ายโดย Stoked for Saturday.
16:00 น. ณ โครเอเชีย – ที่ทะเลในโครเอเชีย ใช้เวลาช่วงบ่ายไปกับการดำน้ำบริเวณที่ไม่ลึกมากหรือเดินป่าเลาะไปตามแนวชายฝั่งเอเดรียติก ในยามเย็นก็สามารถทิ้งตัวนอนลงบนชายหาดใต้แสงดาวอันงดงาม นักเดินทะเลเก็บอุปกรณ์ไว้ในกระเป๋าเป้เป่าลมที่สามารถกันน้ำได้ พาดหลังไปพร้อมกับการว่ายน้ำไปยังจุดหมายปลายทาง
กีฬาผจญภัยรูปแบบใหม่นี้เป็นการผสมผสานกับการแบกเป้ ดำน้ำ และ Fin-swimming (การว่ายน้ำด้วยการใช้ครีบบนผิวน้ำ) ที่ได้รับการพัฒนาโดย เบิร์นฮาด วาเช นักดำน้ำชาวเยอรมัน นอกจากนี้ เขายังนำเที่ยวเกาะ Elba, Cinque Terre, Sardinia และ Corsica เช่นกัน “การดำน้ำทำให้คุณทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง คุณต้องเผชิญกับชีวิตที่ปราศจากทรัพย์สินที่ไม่สามารถช่วยคุณได้” วาเช่กล่าว “สิ่งที่คุณมีอยู่นั่นแหละคือสิ่งที่คุณต้องการจริงๆ”
เขียนโดย Lois Parshley. รูปถ่ายโดย Tim Ertl.
17:00 น. ณ โตเกียว – การส่งออกสาเกญี่ปุ่นไปยังสหรัฐอเมริกาเริ่มเติบโตขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เกือบ 34 ล้านดอลลาร์ (ราว 1,076 ล้านบาท) ต่อปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาเกที่มีคุณภาพสูงย่อมมีราคาสูงขึ้นไปอีก คุณสามารถสร้างช่วงเวลาแห่งลิ้มรสของสาเกสุดพิเศษของคุณเองในโตเกียวเพื่อเรียนรู้พร้อมกับสาเกหลากรสมากมาย
เริ่มต้นที่ Nihonshu Stand Moto บาร์แบบยืนในชินจูกุซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่คนรักสาเก คุณสามารถเลือกเมนูที่ถูกเขียนขึ้นมาผ่านลายมือจริงๆ ถัดไปที่ร้าน Kuri ในย่านกินซ่าที่มีสาเกมากกว่าร้อยประเภท รวมถึงสาเกที่มาตามฤดูกาลรายสัปดาห์อีกด้วย ทั้งสองร้านมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านสาเก ถ้าคุณสงสัย อย่ารีรอที่จะถามพวกเขา
เขียนโดย Jill K. Robinson. รูปถ่ายโดย Alexander Spatari, Getty Images.
18:00 น. ณ เกรละ – ดวงอาทิตย์ตกในเกรละ ประเทศอินเดีย ได้รับการต้อนรับด้วยกิจกรรมต่างๆ บนเกาะ Kakkathuruthu ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ ในเขตน้ำนิ่งของเกรละ เด็กๆ กระโดดลงไปเล่นน้ำในแอ่งน้ำตื้น สตรีในชุดส่าหรีมุ่งหน้ากลับบ้านด้วยเรือขนาดเล็ก ชาวประมงจุดตะเกียงเพิ่มแสงสว่างและเหวี่ยงแหไปในทะเลสาบ ค้างคาวบินโฉบข้ามหนองน้ำเพื่อหาแมลงเม่าที่มาวนเวียนแถวตะเกียง
เมื่อแสงตะวันกำลังจะลาลับ ท้องฟ้าเปลี่ยนจากสีน้ำเงินเป็นสีไพลินและถ้าหากรุ่งสางกำลังตื่นขึ้น แสงพลบค่ำก็คือแสงแห่งความอบอุ่นครั้งสุดท้ายก่อนที่ความมืดจะมาเยือน
เขียนโดย George W. Stone. รูปถ่ายโดย M Amirtham, Dinodia Photo/Age Fotostock.
19:00 น. ณ คิวบา – เมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า เบื้องหลังหลังอาคารที่พังทลายของฮาวานา สารปรอทลดลงจนเหลือเพียงจำนวนที่พอจะรับได้ ชาวคิวบาจะก้าวขาออกไปข้างนอก นักท่องเที่ยวมุ่งหน้าไปยังจุดที่มีชื่อเสียง เช่น ทรอปิคานา แต่คนในท้องถิ่นต่างแห่กันไปที่ Malecón เดินไปตามส่วนต่างๆ ของทางลานกว้างขนาดกว้างราวแปดกิโลเมตร แล้วคุณจะรู้สึกราวกับว่าคุณหลุดเข้าไปอยู่ในเทศกาลดนตรีระดับโลก ชายคนหนึ่งเล่นเครื่องดนตรีหกสายเพื่อขับกล่อมให้กับคู่รัก ขณะที่คนอื่นๆ เล่นรุมบ้าพร้อมกับรถสุดแสนจะคลาสสิกที่ขับผ่านไป และเลือกซื้อขนมหวานได้จากร้านไอศกรีม Coppelia ซึ่งอยู่ใกล้เคียง หรือจะทานของว่างเป็นถั่วลิสงคั่วที่ถูกจัดอยู่บนช่อกรวยกระดาษสีขาว
เขียนโดย Jeannette Kimmel รูปถ่ายโดย Tino Soriano, National Geographic Creative.
20:00 น. ณ นิวยอร์ก ซิตี้ – ไม่มีอะไรปกปิดความสวยงามของนิวยอร์กได้เลยหากคุณมองไปทางเหนือของ Battery Park ไม่ว่าจะเป็นย่านใจกลางเมืองหรือในบรูกลิน ไม่มีที่อื่นใดที่จะทำให้แสงสว่างยามค่ำคืนเป็นสิ่งที่วิเศษ คุณสามารถสร้างรายการความปรารถนาในคืนที่สมบูรณ์แบบของคุณได้เองที่นี่ มันจะยาวนานมากเสียจนคุณลืมตัวไปเลยทั้งที่เวลาผ่านไปแค่ไม่กี่คืน และช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในนิวยอร์กคือช่วงเวลาที่คุณคิดไม่ถึง
เขียนโดย Tara Isabella Burton. รูปถ่ายโดย George Steinmetz.
21 :00 น. ณ จีน – ในช่วงเทศกาลฉลองโคมไฟ (Shangyuan Festival) ในคืนที่ 15 ของเดือนแรกคือปีใหม่จีน เมืองและหมู่บ้านต่างๆ ทั่วประเทศจีนจะประดับไปด้วยแสงไฟจากโคมไฟนับพัน กระดาษสีแดงทรงรูปโลกปรากฏขึ้นท่ามกลางโคมไฟรูปต่างๆ เช่น ผีเสื้อ มังกร และนกที่เรืองแสง โดยแต่ละโคมมีปริศนาติดอยู่ ผู้ที่ไขปริศนาได้ก็จะได้รับรางวัลกลับบ้านไป
รูปถ่ายโดย Nicky Loh, REUTERS.
22:00 น. ณ บูดาเปสต์ – หากคุณเดินทางไปยังบูดาเปสต์ คุณควรวางแผนที่จะเดินทางข้ามแม่น้ำในตอนกลางคืน ผู้โดยสารบนเรือสำราญดานูบรู้ดีว่าต้องอยู่บนดาดฟ้าเมื่อถึงสถานที่สำคัญของฮังการี โดมอันตระการตาของอาคารรัฐสภาปราสาทบนยอดเขากว้างด้าน Buda และสะพาน Chain Bridge ได้รับการปกป้องโดยสิงโตหินที่เชื่อมระหว่างเมือง เป็นการประสานกันของสถาปัตยกรรม แสง และการสะท้อนคลื่นประวัติศาสตร์ของสงครามและการปฏิวัติที่ไม่เคยจางหายไป
คุณชอบที่จะอยู่บนบกใช่ไหม คุณสามารถเดินเล่นริมตลิ่ง Pest จากโรงแรม Four Seasons Gresham Palace อันสง่างามไปจนถึงหอคอยสีเขียวของสะพาน Liberty Bridge
เขียนโดย Amy Alipio. รูปถ่ายโดย Sergii Figurnyi, Alamy Stock Photo.
23:00 น. ณ โมนาโก – รายชื่อรถยนต์ที่อยู่นอกคาสิโนมอนติคาร์โลในตำนาน ได้แก่ แม็คลาเรนสีเขียว และโรลส์รอยส์สีดำ ถัดไปเป็นร้านอาหารที่ Hôtel de Paris ของ Alain Ducasse เมื่อลงจากเนินเขาใน Port Hercule ไป จะพบภาพเบื้องหน้าที่เต็มไปด้วยเรือยอร์ชขนาดใหญ่ เรือสำราญสุดหรูแล่นไปยังท่าเรือเมดิเตอร์เรเนียน และโชคดีที่การเดินที่สนามเซอร์กิต เดอ โมนาโกที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ นั้นเป็นเส้นทางคดเคี้ยวผ่านเมืองที่แผดเสียงไปด้วยรถจากการแข่งขันรถสูตรหนึ่ง (Formula One) ที่จะเกิดขึ้นในช่วงการแข่งขันกรังด์ปรีซ์
ช่วงสุดสัปดาห์ประจำปีในเดือนพฤษภาคม เงินสิบยูโรพร้อมกับหนังสือเดินทางจะนำคุณเข้าสู่คาสิโนมอนติคาร์โลซึ่งถือว่าไม่แพงเลย แม้จะสถานที่ของสายลับ James Bond ก็ตาม
เขียนโดย Amy Alipio. รูปถ่ายโดย Marc de Delley.
24:00 น. ณ นอร์เวย์ – เมื่อพูดถึงการล่าแสงเหนือ (Aurora) ทางตอนเหนือนั้น สิ่งสำคัญคือต้องแน่ใจว่าไม่มีสิ่งใดขวางกั้นระหว่างคุณกับแสงที่เหมือนริบบิ้นริบหรี่ซึ่งส่องประกายบนท้องฟ้ายามค่ำคืนในโรงแรม Kirkenes Snowhotel ทางตะวันตกเฉียงเหนือสุด 400 กิโลเมตร เหนือเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล ซึ่งให้บริการห้องพักที่สร้างด้วยน้ำแข็งหรือกระท่อมที่สามารถตกปลาได้ พร้อมหน้าต่างโค้งแบบพาโนรามา และเก้าอี้นั่งเล่นสำหรับล่าแสงออโรร่ายามค่ำคืน
การเดินเท้าบนรองเท้าเดินหิมะตอนเที่ยงคืนตามเส้นทางที่ทำเครื่องหมายไว้ลากยาวไปยังขอบฟยอร์ดอาร์กติก พร้อมด้วยเครื่องดื่มร้อน ๆ จากร้านอาหารของโรงแรมมาด้วย จะเพิ่มความอิ่มเอมใจให้คุณ
เขียนโดย Jill K. Robinson. รูปถ่ายโดย Cody Duncan.
01:00 น. ณ 35,000 ฟุต (11 กิโลเมตร) เหนือพื้นดิน – “จริง ๆ แล้วฉันค่อนข้างหมกมุ่น – นั่นแหละ ฉันหมกมุ่นอยู่กับการพยายามทำทุกอย่างที่สามารถทำให้ฉันนอนหลับอย่างสบายได้” เพราะฉันเดินทางบ่อย จนฉันได้เรียนรู้ว่าการเตรียมตัวเพียงเล็กน้อยนั้นสามารถไปได้ไกลกว่าการเตรียมตัวนานได้” —อาเรียนนา ฮัฟฟิงตัน
เขียนโดย Hannah Sheinberg. รูปถ่ายโดย Wasim Choudhury.
02:00 น. ณ ทะเลทรายอาตากามา – ทะเลทรายอาตากามาของชิลีที่ตั้งอยู่ระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกและเทือกเขาแอนดีส เป็นสถานที่ที่แห้งแล้งที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
เนื่องจากอยู่ในเงาฝน ความกดอากาศสูง และลมเย็นจากมหาสมุทร ประกอบกับการไม่มีมลภาวะทางแสง ปัจจัยเหล่านี้เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ดีที่สุดสำหรับการดูดาวอย่างเหมาะสม คุณสามารถมองเห็นสวรรค์ด้วยตาเปล่าได้ที่นี้ หรือจะผ่านทางกล้องโทรทรรศน์ที่จัดตำแหน่งเป็นพิเศษเพื่อการดูดาวโดยเฉพาะ
เขียนโดย Jill K. Robinson รูปถ่ายโดย Victor Lima.
03:00 น. ณ เทลอาวีฟ – เทลอาวีฟ จะไม่มีการหยุดจนกว่าจะเหลือลูกค้ารายสุดท้ายเท่านั้น เริ่มต้นค่ำคืนด้วยการเดินไปตามถนน Allenby Street ไปจนถึง Lucifer (สถานที่ยามค่ำคืน) ซึ่งมีการตกแต่งที่ค่อนข้างจะแปลกใหม่ ร้าน HaMinzar มีอากาศบริสุทธิ์และเบียร์ราคาไม่แพง นั่นคือ Goldstar เบียร์ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของคนเมือง
เมื่อฝูงชนที่อื่นเริ่มจางลงให้ไปต่อที่ร้าน คลารา ที่อยู่ริมชายหาด หรือคลับใต้ดิน The Cat and the Dog ที่ Breakfast Club ซึ่งมีดนตรีแนวเทคโนและเพลงเฮาส์ที่ปลุกเร้าให้เกิดปาร์ตี้แบบสนุกสุดเหวี่ยง และถ้าหากคุณหิวก็ถึงเวลาของไข่และเบคอนที่ร้านเบเนดิกต์ ในบริเวณใกล้เคียงซึ่งเปิดรอรับพวกคุณตลอด 24 ชั่วโมง
เขียนโดย Christine Blau รูปถ่ายโดย Adi Adinayev.
04:00 น. ณ ทางเหนือของไอร์แลนด์ – สิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีที่สุดของโรงแรม Finn Lough น่ะหรือ? ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวอย่างไรล่ะ สถานที่พักผ่อนริมทะเลสาบแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขต Fermanagh ทางเหนือของไอร์แลนด์ มีโดมฟองสบู่ที่มีผนังใสล้อมรอบ 180 องศาเพื่อการดูดาวที่ดีที่สุดของคุณ
ในส่วนที่ดีที่สุดของที่นี่ คุณไม่จำเป็นต้องลุกออกจากเตียงห้องเพื่อที่จะได้แหงนมองเพดานของกลุ่มดาวที่ส่องประกายระยิบระยับด้วยซ้ำ เชื่อว่าหลังจากการเดินทางรอบโลกตลอด 24 ชั่วโมง คุณก็สมควรได้รับการพักผ่อนที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน
เขียนโดย Hannah Sheinberg รูปถ่ายโดย Tyler Collins.
แปลและเรียบเรียงโดย สิรภัทร จิตต์ชื่น
โครงการสหกิจศึกษากองบรรณาธิการเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ฉบับภาษาไทย
อ่านเรื่องอื่นที่น่าสนใจ : 25 จุดหมายยอดเยี่ยมที่สุดของโลก