แคมป์ปิ้งฤดูหนาว ข้อดีของการออกมาใช้ชีวิตกลางแจ้งในช่วงฤดูหนาวคือ มีแมลงมารบกวนน้อยลง เพราะวงจรชีวิตของพวกมันยังอยู่ในช่วงตัวอ่อน ก่อนจะโตเต็มวัยในช่วงฤดูร้อน ทำให้เราสัมผัสกับความงามและความเงียบสงบของธรรมชาติในฤดูหนาวที่บริสุทธิ์ได้เต็มที่ อย่างไรก็ตาม หากเราไม่ได้เตรียมตัวมาให้ดี ก็อาจพบอุปสรรคที่ท้าทายได้เช่นกัน การเตรียมตัวเข้าแคมป์ในช่วงฤดูหนาวที่ดีนั้นต้องเรียนรู้เกี่ยวกับสภาพอากาศที่คาดเดาไม่ได้ และต้องปรับตัวให้เข้ากับความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้า ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นตามไปดูกัน
สิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึงเมื่อ ไปแคมปิ้งฤดูหนาว
เลือกจุดกางเต็นท์ที่สามารถกำบังลมได้และไม่มีอันตรายจากกิ่งไม้ใหญ่ ใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมกับการตั้งแคมป์ในฤดูหนาว คุณจะต้องมีเต็นท์ที่แข็งแรง ถุงนอนที่อบอุ่น แผ่นรองนอน และเตาที่เหมาะสำหรับใช้ในอุณหภูมิที่หนาวเย็น สวมใส่เสื้อผ้าที่อุ่นขึ้น อย่างเสื้อ Midweight Base Layers กางเกงกันหนาว Fleece Pants อย่าลืมถุงเท้า หมวก ถุงมือ และแว่นกันแดด เพราะช่วงกลางวันของฤดูหนาวแดดจะแรงมาก นอกจากนี้ยังต้องดื่มน้ำให้เพียงพอและกินอาหารที่มีแคลอรี่เยอะ ๆ เพื่อช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น
อุปกรณ์ ไปแคมปิ้งฤดูหนาว
เต็นท์ เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมี เปรียบเสมือนบ้านที่ต้องอบอุ่นและอยู่สบาย สามารถรับมือกับสภาพอากาศในฤดูหนาวได้ หากเป็นการตั้งแคมป์ในบ้านเราอาจเลือกใช้เต็นท์แบ็กแพ็กน้ำหนักเบาได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ได้ทุกฤดูกาลอยู่แล้ว ถ้าแนะนำให้ตั้งแคมป์ใต้แนวต้นไม้และไม่มีลมแรง หากเป็นกรณีที่บริเวณที่กางเต็นท์มีลมแรง แนะนำให้ใช้เต็นท์ 4 ฤดู ซึ่งมีเสาที่แข็งแรงกว่าและผ้าที่หนักกว่า จึงสามารถทนต่อลมกระโชกแรงได้ เต็นท์ประเภทนี้ใช้ได้ในทุกสภาพอากาศแม้กระทั่งนำไปใช้ในพื้นที่ที่มีหิมะตกก็เอาอยู่
สิ่งสำคัญในการเลือกเต็นท์อีกอย่างคือพื้นที่ใช้สอยภายใน หากพัก 2 คน แนะนำให้ใช้เต็นท์สำหรับ 3-4 คน ก็จะมีที่ว่างในการเก็บอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ และทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดเมื่ออยู่ภายในเต็นท์
เป้ การตั้งแคมป์ในฤดูหนาวต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ เช่น เสื้อผ้าที่อุ่นและหนาขึ้น จึงอาจต้องใช้เป้ขนาดใหญ่กว่าปกติ ควรจะแพ็กกระเป๋าให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ นั่นหมายความว่าอุปกรณ์ที่จำเป็นและสำคัญต้องมีน้ำหนักเบา เมื่อพับเก็บแล้วมีขนาดเล็ก แต่ก็ต้องแลกมาด้วยราคาค่าตัวที่แพงขึ้น ขนาดของเป้อาจต้องมีปริมาณความจุมากหน่อยอย่างน้อย 65 ลิตรถึงจะเพียงพอต่อการบรรจุอุปกรณ์และสัมภาระอื่นๆ
ถุงนอน เพื่อความสบายในยามค่ำคืนที่อากาศหนาวเย็น ควรเลือกใช้ถุงนอนที่มีป้ายบอกอุณหภูมิกำกับการใช้ให้เหมาะสมกับสภาพอากาศที่คุณจะไป พูดง่ายๆว่าคุณต้องรู้ว่าที่ที่คุณจะไปในช่วงเวลานั้นๆมีอุณหภูมิเท่าไหร่ สำหรับในบ้านเรา หาถุงนอนสำหรับอุณหภูมิ 10 องศาเซสเซียสก็พอ ถุงนอนกันหนาวส่วนใหญ่จะบรรจุขนห่านหรือฉนวนสังเคราะห์ หากไม่แน่ใจว่าถุงนอนของคุณอุ่นเพียงพอก็สามารถเพิ่มซับในถุงนอนได้ จะช่วยให้นอนได้อุ่นยิ่งขึ้น ขนาดของถุงนอนก็มีผลต่อการป้องกันความหนาวเย็น โดยมากจะใช้ส่วนสูงของผู้ใช้เป็นตัววัด เช่น ถ้าคุณมีส่วนสูงประมาณ 185 เซนติเมตร ก็ใช้ถุงนอนไซส์ L หากใช้ถุงนอนที่ใหญ่เกินตัว ก็จะมีช่องว่างให้อากาศเข้าได้ ทำให้เวลานอนไม่รู้สึกอุ่นเท่าที่ควร
แผ่นรองนอน มีหน้าที่เป็นเหมือนที่นอน ช่วยให้นอนได้สบายโดยที่หลังไม่ต้องกระทบกับพื้นดินหรือพื้นที่แข็งๆ และช่วยป้องกันการสูญเสียความร้อนในร่างกายด้วย แผ่นรองนอนจะมีการจัดอันดับค่า R Value ซึ่งเป็นค่าการวัดความต้านทานในการสูญเสียความร้อน ยิ่งค่า R สูงเท่าใดก็ยิ่งป้องกันความหนาวเย็นได้ดีเท่านั้น แผ่นรองนอนที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานทุกฤดูหรือฤดูหนาวมักมีค่า R ประมาณ 4.0 หรือสูงกว่า อย่างไรก็ตามหากเลือกแผ่นรองนอนที่หนามากๆ น้ำหนักก็จะมากขึ้นตามไปด้วย การแบกน้ำหนักมากๆไม่เหมาะกับการเดินป่าไปกางเต็นท์ แต่ถ้าเป็นคาร์แคมปิ้งก็ถือว่าไม่น่ามีปัญหา
เตาแก๊ส เป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างกับการตั้งแคมป์ในฤดูหนาว แต่ควรมีที่บังลมติดไปด้วยเพราะในบางพื้นที่มักมีลมแรง ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานแก๊ส ถ้าเป็นการเดินป่าแนะนำให้ใช้หัวเตาเล็กๆ เพราะพกพาง่าย ไม่กินพื้นที่จัดเก็บ ใช้ร่วมกับแก๊สกระป๋องแบบซาลาเปาได้ ซึ่งเพียงพอกับการใช้ชีวิตกลางแจ้งที่คนไม่เยอะมาก โดยอยู่ได้ประมาณสองวันแบบสบายๆ
นอกเหนือจากอุปกรณ์หลักๆดังกล่าวแล้วยังมีอุปกรณ์ที่ช่วยเสริมให้เรารู้สึกอบอุ่นและสบายมากขึ้น คือมีก็ดีกับชีวิตหรือไม่มีก็ได้ แต่คุณอาจจะสุขน้อยหน่อย
อุปกรณ์เสริม อย่างหมวกกันหนาว ถุงมือ ถุงเท้า และแว่นตา หากมีอุปกรณ์เสริมเหล่านี้ติดไปด้วย ชีวิตคุณจะดีขึ้นมาก โดยเฉพาะในวันที่อากาศหนาวเย็นมากๆ
อาหารและเครื่องดื่ม ในฤดูหนาวนั้นร่างกายต้องใช้พลังงานจำนวนมาก เมื่อคุณเดินป่าผ่านภูมิประเทศที่หนาวเย็น สิ่งสำคัญคือต้องกินและดื่มน้ำให้เพียงพอ ทั้งก่อนและหลังทำกิจกรรม อาหารที่นำติดตัวไปด้วยควรให้พลังงานสูงและใช้เวลาปรุงน้อย ควรจิบน้ำอย่างสม่ำเสมอ แม้ในช่วงที่อากาศเย็นจะทำให้เราไม่รู้สึกกระหายน้ำก็ตาม แต่ก็เพื่อให้ร่างกายได้รับน้ำอย่างเพียงพอและป้องกันไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ
ข้อมูลดังกล่าวเกิดจากประสบการณ์ของทีมงานที่ผ่านการใช้ชีวิตกลางแจ้งทั้งฤดูฝน ร้อน หนาว มาแล้ว อาจจะมีบางสิ่งบางอย่างหล่นหายไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่เราไป สถานการณ์ที่คาดเดาไม่ได้ การเดินทางเข้าถึงพื้นที่ สิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วนมีผลต่อการใช้ชีวิตทั้งสิ้น
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ : อุปกรณ์เดินป่า 10 อย่าง คัดสรรเพื่อคนรักการท่องเที่ยวธรรมชาติ