ชวนคิดใน วันเพนกวิน เมื่อ เพนกวินจักรพรรดิ เสี่ยงสูญพันธุ์ กระทบเรามากกว่าที่คิด
วันเพนกวิน – รู้หรือไม่ ? เพนกวินจักรพรรดิ เป็นสัตว์ชนิดเดียวที่เดิน 50 ถึง 120ไมล์ จากมหาสมุทรเพื่อผสมพันธุ์ในช่วงฤดูหนาวของแอนตาร์กติก พวกมันอดทนต่อลมแรงลมพร้อมกับอุณหภูมิที่หนาวจัดเพื่อวางไข่เพียงฟองเดียว หลังฟักออกจากไข่แล้วเพนกวินจักรพรรดิจะมีอายุเฉลี่ยราว 50 ปี แต่เพนกวินหลายตัวก็ไม่สามารถดำรงชีวิตครบอายุขัยของพวกมันได้ เนื่องจากภาวะโลกร้อนที่เป็นเหตุให้พ่อแม่เพนกวินหาอาหารยากลำบากมากขึ้น จนทำให้ลูกเพนกวินที่หิวโหยจมน้ำตาย
เพนกวินจักรพรรดิอาศัยอยู่บนน้ำแข็งทะเลเพื่อสร้างอาณานิคมผสมพันธุ์ และหลีกเลี่ยงนักล่าในมหาสมุทร แต่เมื่ออุณหภูมิของโลกสูงขึ้นจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจก หากน้ำแข็งทะเลละลายในช่วงต้นฤดูกาลมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ มีความเป็นไปได้ที่จะทำให้อาณานิคมเพนกวินทั้งหมดลดลงและสูญหายไป
จากรายงานของสถาบันสมุทรศาสตร์วูดส์โฮลในรัฐแมสซาชูเซตส์ แห่งสหรัฐอเมริกา ในปัจจุบัน น้ำแข็งบางส่วนของคาบสมุทรแอนตาร์กติกได้ละลายไปกว่า 60% ในรอบ 30 ปี ถ้าเพนกวินจักรพรรดิได้รับความเดือดร้อน ก็เป็นไปได้ว่าสัตว์สายพันธุ์อื่น ๆ ภายในระบบนิเวศก็มีความเสี่ยงจากวิกฤติสภาพภูมิอากาศเช่นกัน
มาร์ธา วิลเลียมส์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารปลาและสัตว์ป่าของสหรัฐฯ กล่าวในแถลงการณ์ว่า จากการที่เพนกวินจักพรรดิเข้าไปอยู่ในรายชื่อของ สายพันธุ์ที่ถูกคุกคาม ในพระราชบัญญัติสิ่งมีชีวิตที่ใกล้สูญพันธุ์ หรือ ESA (Endangered Species Act) ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2022 เป็นการสะท้อนถึงวิกฤติการสูญพันธุ์ที่เพิ่มขึ้นอีกทั้งเป็นการเน้นย้ำถึงความสำคัญในการอนุรักษ์เพนกวินจักรพรรดิก่อนที่จำนวนประชากรของพวกมันจะลดลงจนแก้ไขอะไรไม่ได้
ทว่า เพนกวินจักรพรรดิไม่ได้อาศัยอยู่ดินแดนของสหรัฐฯ มาตรการของพระราชบัญญัติสิ่งมีชีวิตที่ใกล้สูญพันธุ์จึงใช้ได้เพียงบางข้อ หลักๆ คือ การปกป้องถิ่นที่อยู่ของเพนกวินจักรพรรดิและป้องกันการโดนล่าจากเรือประมง แต่การขึ้นทะเบียนภายใต้พระราชบัญญัตินี้เอาไว้ ก็ยังเป็นประโยชน์ต่อสายพันธุ์เพนกวิน มากกว่าการไม่มีกฎใดๆ คุ้มครองพวกมันเลย
“การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศมีผลกระทบอย่างมากต่อสิ่งมีชีวิตทั่วโลก ประธานาธิบดี โจ ไบเดนและฝ่ายบริหารควรยกเรื่องนี้มาเป็นความสำคัญอันดับแรก เพราะตอนนี้จำนวนประชากรเพนกวินจักรพรรดิที่ลดลงเรื่อย ๆ เป็นเหมือนระฆังเตือนภัยที่กำลังร้องขอความช่วยเหลือ” มาร์ธา วิลเลียมส์ กล่าว
การศึกษาในวารสาร Global Change Biology ที่ตีพิมพ์เมื่อปี 2021 คาดการณ์ไว้ว่า ในอนาคตหากโลกยังปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากขึ้นเรื่อย ๆ 98% ของประชากรเพนกวินจักรพรรดิมีความเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์ภายในปี 2100
แม้เพนกวินจักรพรรดิจะอยู่ไกลจากกิจกรรมของมนุษย์ แต่ท้ายที่สุดแล้วผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศถือเป็นภัยคุกคามที่สำคัญที่สุดต่อการอยู่รอดของทุกสิ่งมีชีวิตอย่างกว้างขวาง ไม่ใช่แค่เพนกวินจักพรรดิ แต่รวมไปถึงสัตว์น้ำสายพันธุ์อื่นและสัตว์บก ที่ไม่อาจจะอยู่รอดได้เช่นกัน แดน ซิทเทอร์ บาร์ท นักวิทยาศาสตร์ผู้ช่วยของสถาบันสมุทรศาสตร์วูดส์โฮลกล่าว
สืบค้นและเรียบเรียงโดย อรจิรา มกุลพานิช
โครงการสหกิจศึกษา บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จํากัด (มหาชน)
ที่มา
https://www.cnn.com/2022/10/29/world/emperor-penguins-threatened-species-climate-scn/index.html