เที่ยว เกาะกวม จุดหมายยอดฮิตของชาวญี่ปุ่นอดีตผู้รุกรานสมัยสงครามโลก

เที่ยว เกาะกวม จุดหมายยอดฮิตของชาวญี่ปุ่นอดีตผู้รุกรานสมัยสงครามโลก

การเข้ายึดครอง เกาะกวม สมัยสงครามโลกครั้งที่สองของญี่ปุ่นทำให้มีผู้เสียชีวิตไปมากมาย แต่แทนที่ชาวเกาะจะยึดติดกับบาดแผล เกาะกวมเลือกให้อภัยเรื่องราวในอดีต และสร้างตัวเองเป็นแหล่งเที่ยวยอดนิยมของชาวญี่ปุ่น

เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการจู่โจมเพิร์ลฮาร์เบอร์แบบสายฟ้าแลบ เครื่องบินรบญี่ปุ่นจำนวน 9 ลำ ได้โผล่ขึ้นเหนือน่านฟ้าของเกาะกวม และต่อสู้กับกองทัพสหรัฐฯ ที่ในขณะนั้นเป็นชาติที่ครอบครองเกาะกวมเอาไว้ ทหารญี่ปุ่นกว่า 6000 นายยกพลเข้าเกาะ และในวันที่ 10 ธันวาคม 1941 ผู้ว่าการเกาะกวมในขณะนั้นประกาศยอมแพ้ ชาวอเมริกันและชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือไม่ ถูกนำตัวขึ้นเรือที่มุ่งหน้าไปญี่ปุ่นในฐานะเชลยศึก ชาวชามอร์โร (Chamorro) ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองของเกาะกว่า 13,000 คน ต้องตกอยู่ภายใต้การปกครองญี่ปุ่น และในอีกสองปีต่อมา การยึดครองได้เพิ่มระดับจากการบังคับเรียนภาษาญี่ปุ่นสู่การสังหารหมู่ตามอำเภอใจ

แม้ชาวชามอร์โรต้องพบกับประวัติศาสตร์ในฐานะการตกเป็นอาณานิคมจากชนชาติต่างๆ มาเป็นเวลา 400 ปี นับตั้งสเปนในช่วงปี 1595 และตกเป็นอาณานิคมของสหรัฐอเมริกาหลังสเปนพ่ายแพ้ในสงครามสเปน – อเมริกา ในปี 1898 ซึ่งในช่วงนั้นสเปนได้ลดจำนวนประชากรพื้นถิ่นให้เหลือร้อยละ 75 แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ช่วงการปกครองโดยชาวญี่ปุ่นนั้นแตกต่างออกไป

เกาะกวม, สงครามโลกครั้งที่สอง, สงครามโลก
ในปี 1944 หลังจากตกอยู่ภายใต้การยึดครองของญี่ปุ่นกว่า 32 เดือน เกาะกวมได้รับการปลดปล่อยโดยทหารอเมริกัน มีทหารอเมริกันมากกว่า 7,000 นายและทหารญี่ปุ่นกว่า 17.000 คนเสียชีวิตในการต่อสู้ ภาพถ่ายโดย W. EUGENE SMITH, THE LIFE PICTURE COLLECTION/GETTY

ภายใต้การปกครองของญี่ปุ่น ชาวชามอร์โรต้องฝึกโค้งคำนับให้เหมือนชาวญี่ปุ่น ผู้ที่ทำไม่ได้มีโทษถึงตาย ผู้ชายถูกเกณฑ์แรงงานให้ไปสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ให้กับกองทัพญี่ปุ่น มีตำรวจลับสอดส่องวิถีชีวิตตลอดเวลา จนในเดือนกรกฎาคม 1944 กองทัพสหรัฐยึดเกาะกวมคืนมาได้อีกครั้ง หลังสิ้นสุดการยึดครองของชาวญี่ปุ่น มีชาวชามอร์โรเสียชีวิตไปกว่า 1,170 คน หรือราว 1 ใน 10 ของประชากร

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาที่สหรัฐอเมริกาเข้ามาครอบครองเกาะอีกครั้ง ก็มีผู้อพยพชาวญี่ปุ่น รวมถึงคนที่เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น-คนพื้นเมืองที่ต้องเปลี่ยนนามสกุลของตัวเองเพื่อหลีกเลี่ยงความเกลียดชังจากชนพื้นถิ่น ค่านิยมเช่นนี้ดำเนินมาจนถึงปลายทศวรรษที่ 1960

เกาะกวม
ที่ตั้งของเกาะกวม การเดินทางโดยเครื่องบินจากญี่ปุ่นใช้เวลาราว 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น

ยินดีต้อนรับสู่เกาะกวม

จนกระทั่งปี 1962 ผู้ที่ต้องการมาเยือนเกาะกวมต้องผ่านขั้นตอนตรวจสอบความปลอดภัยโดยกองทัพเรือ และเมื่อข้อห้ามนี้ถูกยกเลิก เงินของชาวญี่ปุ่นก็เริ่มไหลเข้ามาที่เกาะ

บรรดานักลงทุนมองเห็นถึงโอกาสที่จะเปลี่ยนเกาะกวมให้เป็นฮาวาย สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของชาวญี่ปุ่นที่มีราคาเข้าถึงได้ และเกาะกวมก็ทำสำเร็จ เนื่องจากการเดินทางโดยเครื่องบินจากญี่ปุ่นใช้เวลาราว 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น ทำให้เกาะกวมกลายเป็นตัวเลือกที่มีราคาถูกกว่า

เกาะกวม
วันปลดปล่อยอิสรภาพของเกาะกวมเป็นเทศการเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของปี ผู้คนจากทั่วทั้งเกาะจะออกมาเฉลิมฉลองชัยชนะของสหรัฐอเมริกาเหนือญี่ปุ่น ภายในงานมีทั้งเทศกาลคานิวัล การประกวดนางงาม และการเดินขบวนพาเหรด ภาพถ่ายโดย NANCY BOROWICK
เกาะกวม
Gianni Que เด็กชายอายุ 7 ขวบ ทำความเคารพ Genesa แม่ของเขาขณะกำลังเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์อุทยานประวัติศาสตร์สงครามแปซิฟิกบนเกาะกวมในปี 2017 ชาวเกาะกวมมีอัตราเข้าไปเป็นทหารในกองทัพสูงที่สุดในบรรดาทุกรัฐในสหรัฐฯ โดย 1 ใน 8 ของชาวบ้านเป็นทหารผ่านศึก ภาพถ่ายโดย NANCY BOROWICK

การไหลบ่าของการลงทุนและเม็ดเงินนักท่องเที่ยวทำให้มีการเปลี่ยนแปลงมุมมองของชาวเกาะกวมที่มีต่อชาวญี่ปุ่น “การต่อต้านญี่ปุ่นลดน้อยลงและเปลี่ยนเป็นการพัฒนาการท่องเที่ยวที่พุ่งเป้าไปที่ชาวญี่ปุ่น” วาคาโกะ ฮิกุจิ นักประวัติศาสตร์ กล่าวกับเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก

ในปีนี้ เกาะกวมได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นกว่า 600,000 คน มากกว่าปีที่แล้วถึงร้อยละ 25 อย่างไรก็ตาม ในปี 1997 มีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นมาเยือนมากสูงสุดถึง 1.1 ล้านคน

เกาะกวม, คาวบอย
นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นแต่งตัวเป็นคาวบอยและทดสอบทักษะการยิงปืนของตัวเองใน Hollywood Shooting หนึ่งในสนามยิงปืนที่ Tumon ย่านใจกลางเมือง ภาพถ่ายโดย NANCY BOROWICK
เกาะกวม
นักท่องเที่ยวและชาวบ้านรวมตัวกันเพื่อเลือกชมอาหารท่องถิ่น งานฝีมือ และความบันเทิงในตลาดกลางคืนทุกวันพุธที่หมู่บ้าน Chamorro Village ในเมือง Hagatna เกาะกวม ร้านค้าขายบาร์บีคิวแบบชามอร์โร และอาหารอเมริกันแบบคลาสสิกเช่นมิลค์เชค ไอศกรีม พิซซ่า และอื่่นๆ ภาพถ่ายโดย NANCY BOROWICK

นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นเรียงหน้าเข้ามาที่เกาะเนื่องจากหาดทรายที่สวยงาม ร้านค้าปลอดภาษี และสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความเป็นอเมริกันจ๋า ในหนึ่งวัน นักท่องเที่ยวสามารถแต่งตัวเลียนแบบคาวบอย จับมือทักทายกับเอลวิส เพรสลีย์ ถ่ายรูปเซลฟี่กับห้างสรรพสินค้า K-mart ที่ใหญ่ที่สุดในโลก อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวสามารถรับรู้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์โดยการถ่ายเซลฟี่ที่อนุสรณ์สถานซึ่งเกี่ยวของกับเหตุการณ์สมัยสงครามโลกครั้งที่สองซึ่งอยู่บนเกาะได้เช่นเดียวกัน

เกาะกวม, สาวญี่ปุ่น
หญิงสาวจากมหาวิทยาลัยในประเทศญี่ปุ่นรวมตัวกันโพสท่าขณะรับแสงแถบเส้นศูนย์สูตรบนชายหาด Tumon Bay ด้วยน้ำใสและทรายขาว ในช่วงแรก มีการโฆษณาเกาะกวมว่าเป็น ชายหาด Waikiki หาดทรายที่มีชื่อเสียงด้านความสวยงามของฮาวายแห่งต่อไป เพื่อที่จะดึงดูดความสนใจจากผู้ที่นิยมการท่องเที่ยวในฮาวาย ภาพถ่ายโดย NANCY BOROWICK
เกาะกวม, เอลวิส
นักแสดงเลียนแบบ เอลวิส เพรสลีย์ ที่ร้าน Hard Rock Café ในย่านใจกลางเมือง Tumon ภาพถ่ายโดย NANCY BOROWICK
เกาะกวม
นักท่องเที่ยวโพสท่ากับตอร์ปิโดจากยุคสงครามโลกครั้งที่สองในอุทยานประวัติศาสตร์สงครามแปซิฟิกบนเกาะกวม ภาพถ่ายโดย NANCY BOROWICK

จากกระแสการท่องเที่ยวดังกล่าว เกาะกวมเองก็เริ่มรับวัฒนธรรมญี่ปุ่น ในพื้นที่เที่ยวของเกาะเริ่มมีป้ายสัญลักษณ์เป็นภาษาญี่ปุ่น พนักงานบริการพูดภาษาญี่ปุ่น และห้างร้านบางแห่งรับเงินเยน และเกาะรับเอาการเฉลิมฉลองแบบญี่ปุ่นมาด้วยเช่นกัน เมื่อเดือนที่แล้ว มีคนกว่า 30, 000 คนเข้าร่วมเทศกาลฤดูใบไม้ร่วงญี่ปุ่นประจำปีครั้งที่ 40 ที่ Ypao Beach Park ในเกาะกวม มีการแสดงวัฒนธรรมแบบญี่ปุ่น รวมถึงมีการเดินขบวนในบริเวณวัดชินโตที่อยู่รอบๆ สวนด้วย

เรื่อง SYDNEY COMBS


อ่านเพิ่มเติม เซเชลส์ หมู่เกาะแดนสวรรค์

Recommend