“ธารน้ำแข็งทั่วโลกกำลังสูญเสียไปในอัตราที่รวดเร็ว
พอจะเติมสระว่ายน้ำโอลิมปิกได้เต็ม ‘3 สระต่อวินาที’
หรือเฉลี่ย 300,000 ล้านตันต่อปี”
นับเป็นครั้งแรกที่นักวิทยาศาสตร์สามารถประเมินอัตรการสูญเสียน้ำแข็งทั่วโลก โดยทั้งหมดมีปริมาตรลดลงอย่างน่าตกใจราวร้อยละ 5 นับตั้งแต่เริ่มต้นสหัสวรรษ ตามข้อมูลของศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์แห่งชาติของฝรั่งเศส (CNRS) และสถาบันอื่น ๆ เผยให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงนี้มีสาเหตุหลักจากก๊าซเรือนกระจกที่มนุษย์ปล่อยออกมา
“เราคาดไว้อยู่แล้วว่าจะพบว่าธารน้ำแข็งมีการละลาย แต่ปริมาณน้ำแข็งทื่ละลายไปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานั้นน่าตกใจมาก แม้กระทั่งกับนักวิทยาศาสตร์อย่างเรา ๆ ก็ตาม” มิคาเอล แซมพ์ (Michael Zemp) ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยซูริกและผู้อำนวยการหน่วยงานติดตามธารน้ำแข็งโลก (World Glacier Monitoring Service) กล่าว
ตามรายงานใหม่ที่เผยแพร่บนวารสาร Nature ทีมนักวิวิทยาศาสตร์จากหลายองค์กรได้ร่วมมือกันติดตามธารน้ำแข็งที่มีอยู่ทั่วโลก เนื่องจากแม้พวกเขาจะรู้ดีว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศกำลังทำให้น้ำแข็งละลาย แต่ยังไม่แน่ใจว่าตัวเลขการละลายนั้นเป็นเท่าไหร่กันแน่
ดังนั้นเพื่อสร้างให้ชัดเจนขึ้น ทีมวิจัยจึงได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับน้ำแข็ง ทั้งในการสังเกตการณ์ภาคสนามไปจนถึงข้อมูลดาวเทียมอีกหลายร้อยชุดมาเรียบเรียงต่อกันตามช่วงเวลา เพื่อทำให้เห็นภาพกรเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น จากนั้นก็วิเคราะห์ว่าธารน้ำแข็งสูญเสียไปแล้วเท่าไหร่ตั้งแต่ปี 2000 ถึง 2023
“ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เรามีเซ็นเซอร์ดาวเทียมจำนวนมากเพื่อประเมินระดับความสูงและการเปลี่ยนแปลงของมวลธารน้ำแข็ง” ศาสตราจารย์แซมพ์ กล่าว “แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วจะเห็นพ้องกันว่ามีการละลาย แต่ตัวเลขที่แน่นอนนั้นแตกต่างกันมากจากเซ็นเซอร์หนึ่งไปยังอีกเซ็นเซอร์หนึ่ง”
ผลลัพธ์ที่ได้นั้นน่ากังวลกว่าที่คาดโดยเฉพาะในช่วง 10 ปีหลังหรือก็คือช่วงปี 2012 ถึง 2023 นั้นโลกได้สูญเสียน้ำแข็งเพิ่มขึ้นร้อยละ 36 เมื่อเทียบกับช่วงปี 2000 ถึง 2011 ซึ่งบ่งชี้ว่าอัตรการละลายกำลังเร่งตัวขึ้นทั่วโลก และเร่งตัวขึ้นอย่างไม่เท่าเทียมในแต่ละภูมิภาค
โดยภูมิภาคในเทือกเขาแอลป์และเทือกเขาพิเรนิสของยุโรปได้แสดงให้เห็นว่ามีปริมาณน้ำแข็งลดลงมากถึง 40 เปอร์เซ็นตลอดระยะเวลาที่ทำการศึกษา แต่สำหรับเทือกเขาแอลป์ในยุโรปนั้นสูญเสียน้ำแข็งไปถึง 10% ภายในเวลาเพียง 2 ปี
ในขณะที่ธารน้ำแข็งบนเกาะใต้แอนตาร์กติกาก็สูญเสียน้ำแข็งไปเช่นกัน แต่ในอัตราที่ช้ากว่าคือ 2% เมื่อแปลตัวเลขเปอร์เซ็นเป็นตัวเลขปริมาณแล้ว ธารน้ำแข็งทั่วโลกกำลังสูญเสียไปในอัตรา 300,000 ล้านตันต่อปี ซึ่งเพียงพอที่จะเติมสระว่ายน้ำโอลิมปิกได้ 3 สระ ‘ต่อวินาที’
นักวิจัยยังระบุว่าอีกปริมาณน้ำแข็งที่ละลายในช่วงที่ทำการศึกษานี้ทำให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกสูงขึ้น 0.7 นิ้วหรือประมาณ 2 เซนติเมตรแล้ว และนอกจากจะทำให้น้ำทะเลสูงขึ้น ธารน้ำแข็งที่หายไปเหล่านี้ยังส่งผลอย่างมากต่อผู้คนที่พึ่งพาน้ำจืดจากน้ำแข็งบนเทือกเขา
“(รายงานนี้)คือการวิเคราะห์ข้อมูลระดับโลกที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” ซามูเอล คุก (Samuel Cook) ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างแบบจำลองธารน้ำแข็งและหัวหน้ากลุ่มวิจัยระดับจูเนียร์ที่มหาวิทยาลัยเออร์ลังเงน-นูเรมเบิร์กในเยอรมนี กล่าว
“สิ่งที่โดดเด่นสำหรับผมคือความละเอียดรอบคอบอย่างเป็นระบบของผู้เขียนและขอบเขตการศึกษา” เขาเสริม พร้อมกับเตือนว่า 5% ที่ลดลงในไตรมาสแรกของศตวรรษที่ 21 นี้เป็นเพียงเศษเสี้ยวของสิ่งที่จะตามมาในทศวรรษหน้าเท่านั้น
งานวิจัยก่อนหน้าเผยว่า 25% ของธารน้ำแข็งที่เหลืออยู่ในปัจจุบันจะสูญหายไปในปี 2100 ถึงแม้ว่าเราจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงก็ตาม เนื่องจากธารน้ำแข็ง ‘ค่อย ๆ’ ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และจะเร่งตัวขึ้นเรื่อย ๆ หากไม่มีการหยุดยั้ง
เมื่อคิดตามแนวโน้มในปัจจุบัน หากมนุษยชาติยังคงปล่อยก๊าซเรือนกระจกเท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้น โลกอาจสูญเสียน้ำแข็งที่เหลืออยู่ไป 50% ภายในสิ้นศตวรรษนี้ ดังนั้นจึงต้องมีการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเร่งด่วน
“การหลีกเลี่ยงภาวะโลกร้อนทุก ๆ 1 ใน 10 องศาเซลเซียส จะช่วยรักษาธารน้ำแข็งไว้ได้และจะช่วยปกป้องเราจากผลกระทบอื่น ๆ ที่จะตามมา” ศาสตราจารย์แซมพ์ กล่าว
สืบค้นและเรียบเรียงข้อมูล
วิทิต บรมพิชัยชาติกุล
ที่มา
อ่านเพิ่มเติม : สวรรค์หิมาลัย นรกคนปลายน้ำ
เมื่อ ธารน้ำแข็ง ละลาย
