เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย ป่าหลังบ้านเมืองเชียงใหม่ แหล่งเรียนรู้นิเวศประวัติศาสตร์ที่เข้าถึงง่ายและกลมกลืนกับธรรมชาติ

เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย ป่าหลังบ้านเมืองเชียงใหม่ แหล่งเรียนรู้นิเวศประวัติศาสตร์ที่เข้าถึงง่ายและกลมกลืนกับธรรมชาติ

[ Advertising for EGCO Group ] ก่อนจะเล่าถึงความสำคัญของ ‘เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย’ ที่ได้รับการปรับปรุงเพื่อให้ที่นี่กลายเป็น ‘ป่าหลังบ้านของเมืองเชียงใหม่’ ที่เข้าถึงง่าย มีความแข็งแรง ปลอดภัย และเป็นมิตรกับระบบนิเวศ เราอาจต้องย้อนกลับไปเล่าถึงความสำคัญของ อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ในฐานะสารตั้งต้นของทุกสรรพสิ่งเป็นอย่างแรก

นิเวศประวัติศาสตร์

อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งนิเวศประวัติศาสตร์ (Historical Ecology) ที่สะท้อนการเปลี่ยนแปลงของป่าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และมีความเชื่อมโยงระหว่างสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของผู้คนในสังคมอย่างไม่อาจแยกจากกันได้ 

ผืนป่าแห่งนี้คือแหล่งอาศัยของสิ่งมีชีวิตและพืชพรรณเฉพาะถิ่น และเป็นป่าต้นน้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำปิง สายธารที่หล่อเลี้ยงชีวิตคนเชียงใหม่ ด้านวัฒนธรรม ยังมีวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร พระอารามหลวงคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ และพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ ตั้งอยู่ภายในเขตอุทยานฯ 

หรือในด้านวิถีชีวิตของผู้คน ที่นี่ยังมีชุมชนท่องเที่ยว บ้านขุนช่างเคี่ยน ของกลุ่มชาติพันธุ์ม้งที่อพยพมาตั้งถิ่นที่อยู่อาศัย เป็นที่ตั้งของสถานีวิจัยเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 มีไร่กาแฟ ลิ้นจี่ สตรอเบอรี่ ไปจนถึงต้นนางพญาเสือโคร่ง หรือต้นซากุระเมืองไทย ที่กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของการท่องเที่ยวของที่นี่ 

กล่าวได้ว่า นิเวศประวัติศาสตร์ที่มีความสำคัญเหล่านี้ คือคุณค่าที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์อย่างแท้จริง

ป่าหลังบ้านเมืองเชียงใหม่

อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย คือภาพสะท้อนคุณค่าของป่าดิบเขาภาคเหนือ เป็นแหล่งเรียนรู้ระบบนิเวศเฉพาะถิ่น เป็นป่าต้นน้ำที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย ไม่เพียงแค่เป็นใบเบิกทางสู่การพบเจอพืชพรรณพื้นถิ่น สัตว์ป่าในพื้นที่ ไปจนถึงนกอพยพที่ผลัดคิวกันมาอวดโฉมให้เราได้เห็น 

แต่ยังเป็นตัวอย่างของการปรับปรุงเส้นทางศึกษาธรรมชาติอย่างเป็นมิตรกับระบบนิเวศ กลมกลืนกับสิ่งแวดล้อม แต่ยังคงแข็งแรง ปลอดภัยตามมาตรฐานสากล เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงได้ง่าย อีกทั้งยังมีการจัดทำ Trail Head 4 จุด ระเบียงชมวิว 3 จุด และป้ายสื่อความหมายธรรมชาติตลอดแนวเส้นทางรวม 24 ป้าย เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวหลายรูปแบบ

3 เส้นทางย่อยของ เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย ที่มือใหม่เดินได้ สายลุยเดินสนุก

เส้นทางศึกษาธรรมชาติแห่งนี้ประกอบด้วยเส้นทางย่อย 3 เส้นทาง รวมระยะทางไป-กลับ ประมาณ 5 – 8 กิโลเมตร ได้แก่

เส้นทางที่ 1: เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ยอดดอยปุย – ดอยหัวหมู ระยะทางไป-กลับ 4.9 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง นี่คือเส้นทางที่เหมาะสำหรับผู้สนใจศึกษาพื้นที่ป่าต้นน้ำบนดอยสูง เรียนรู้รูปแบบการจัดการพื้นที่ทางนิเวศวิทยา และแน่นอนว่า มีจุดชมวิวทิวทัศน์เมืองเชียงใหม่สองฝั่งอำเภอคือเมืองเชียงใหม่และแม่ริม

เส้นทางที่ 2: เส้นทางศึกษาธรรมชาติ มรกต – ดอยหัวหมู พื้นที่ที่ช่วยฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติให้เชื่อมโยงกัน มีระยะทางไป-กลับ 4.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินไป-กลับประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง เป็นเส้นทางที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดูนก หรือสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ที่สำคัญเดินง่าย

และเส้นทางที่ 3: เส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะไกล ยอดดอยปุย – ดอยหัวหมู – บ้านขุนช่างเคี่ยน ระยะทางไป-กลับ 7.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 5 ชั่วโมง เส้นทางนี้ลาดชันกว่าเพื่อน เหมาะสำหรับสายเทรลตัวจริง ชอบลุย และเป็นเส้นทางที่จะได้เรียนรู้ทั้งธรรมชาติและวิถีชุมชนไปพร้อมกัน

เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย เป็นเส้นทางฯ ลำดับที่ 11 ที่มูลนิธิไทยรักษ์ป่า ปรับปรุง 

เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย ได้รับการปรับปรุงจนสำเร็จจากความร่วมมือของ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO Group โดย มูลนิธิไทยรักษ์ป่า องค์กรสาธารณกุศลเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำและความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ป่าต้นน้ำที่สำคัญของประเทศ และอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

National Geographic Thailand ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสำรวจเส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย และร่วมพิธีส่งมอบเส้นทางฯ เมื่อวันที่ 14 –15 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยมี นายสมเกียรติ สุทธิวานิช รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานบัญชีและการเงิน EGCO Group และรองประธานกรรมการมูลนิธิไทยรักษ์ป่า ส่งมอบเส้นทางฯ ให้แก่ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดยได้รับเกียรติจาก นายศิวกร บัวป้อง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 

เพียงหนึ่งชั่วโมงเศษจากตัวเมืองเชียงใหม่ ผ่านเส้นทางเคี้ยวคด ก็สามารถพบและเข้าถึงป่าต้นน้ำ แหล่งเรียนรู้ระบบนิเวศเฉพาะถิ่น ที่สะท้อนคุณค่าของป่าดิบเขาภาคเหนือ และเชื่อมโยงกับวิถีชีวิตของผู้คนในเมืองเชียงใหม่ได้อย่างง่ายดาย เส้นทางที่มือใหม่เดินได้ สายลุยเดินสนุก แถมได้ความรู้กลับไปด้วย

เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย ‘ป่าหลังบ้านเมืองเชียงใหม่’ เปิดให้นักท่องเที่ยวเยี่ยมชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 16.00 น. สอบถามเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย โทร. 0 5321 0246, 0 5321 0244, 086 420 5242

 

หรือตามอ่านเรื่องราวเส้นทางศึกษาธรรมชาติได้ ที่นี่

Recommend