ในทะเลปั่นป่วนนอกชายฝั่ง แอฟริกา ตะวันตก การออกเรือหาปลาหาใช่เพียงงานของผู้กล้า หากยังเป็นจารีตที่ก่อร่างสร้างชุมชนน้อยใหญ่ตามแนวชายฝั่งและความเคารพในธรรมชาติของพวกเขา
ตลอดแนวชายฝั่งนี้ของเราไม่มีสิ่งใดแปลกประหลาด
หากคุณตื่นเช้าพอจะเจอบรรดาเรือแคนูตอนกลับเข้าฝั่งในเมืองปอร์บูเอ ประเทศโกตดิวัวร์ เมืองอึนเกลชี ประเทศกานา เมืองโอลด์เจสวาง ประเทศแกมเบีย เมืองกรองโปโป ประเทศเบนิน เมืองอาแปม ประเทศกานา คุณจะได้ยินเหล่าชาวประมงพูดภาษาแฟนตี ภาษากา ภาษาเอียเว หรือทุกภาษาที่พูดกันในกานา
ตอนที่พวกหนุ่มๆ ลงจากเรือและมองเห็นหน้าค่าตา พวกเขาได้ในแสงอาทิตย์อุทัย ขณะลากอวนขึ้นฝั่ง เสียงขับขานของพวกเขายิ่งดังขึ้น “เอบัย เอบาเกโล มาแล้วมาได้ปลามาเพียบ” อวนแต่ละปากที่มาถึงหนักอึ้งด้วยสินทรัพย์จากทะเลลึก
![](https://i2.wp.com/ngthai.com/app/uploads/2022/08/STOCK_MJ8764_DAIL15368-2009CL029.jpg?resize=640%2C640&ssl=1)
![](https://i2.wp.com/ngthai.com/app/uploads/2022/08/STOCK_MJ8764_DAIL15368-2012CL35.jpg?resize=636%2C636&ssl=1)
ปลาที่จับมาได้ไม่เคยเหมือนเดิม จริงอยู่ที่มีพวกปลาเศรษฐกิจซึ่งคุ้นเคยกันดี เช่น ปลากระพงแดง ปลาเก๋า ปลาทูน่า ปลาแมกเคอเรล และปลาคปันลา (ภาษากา ใช้เรียกวงศ์ปลาเฮก) แต่ที่ไม่เคยขาดคือพวกที่เป็นที่หมายปองและหายากอย่างเครย์ฟิช ปลาไหล ปลากระเบน และชนิดพันธุ์อื่นๆ ที่มาในสารพัดรูปร่างและขนาด ทั้งที่มีกระดูกและไม่มีกระดูก
ชนเผ่ากา ซึ่งเป็นเผ่าของผม ไม่กลัวสิ่งที่พวกเขาไม่รู้จัก คำกล่าวที่ว่า “อาเบลคูมา อาบาคูมาวอ์– ขอคนแปลกถิ่น จงพบที่พักพิงในหมู่พวกเรา” เป็นปรัชญารากฐานประการหนึ่งในวัฒนธรรมของเรา ซึ่งช่วยอธิบายว่าเพราะเหตุใดชื่อสกุลพาร์กส์แบบยุโรปของผม ซึ่งนำเข้าโดยคุณปู่ชาวเซียร์ราลีโอนเชื้อสายจาเมกาผู้หนึ่ง จึงนับรวมเป็นชื่อสกุลของเผ่ากา
![](https://i0.wp.com/ngthai.com/app/uploads/2022/08/STOCK_MJ8764_DAIL15368-2013CL10.jpg?resize=640%2C640&ssl=1)
![](https://i2.wp.com/ngthai.com/app/uploads/2022/08/STOCK_MJ8764_DAIL15368-2017CL01.jpg?resize=640%2C640&ssl=1)
แต่ในหมู่ครอบครัวชาวประมงด้วยกัน ชาวกานานั้นนับว่าแตกต่างไม่เหมือนใคร เมื่อปี 1963 นิตยสาร เวสต์ แอฟริกา ซึ่งปัจจุบันปิดตัวไปแล้ว เรียกชาวกานาว่า “ชาวประมงแห่งแอฟริกาทั้งมวล” เพราะพวกเขาท่องไปทั่วเจ็ดย่านนํ้า ตั้งแต่ไนจีเรียถึงเซเนกัล
ความที่เติบโตมากับท้องทะเลที่ขึ้นชื่อว่าปั่นป่วนที่สุดแห่งหนึ่งของแนวชายฝั่งดังกล่าว เหล่าชาวประมงที่พูดภาษา แฟนตีจากทางตะวันตกและตอนกลางของกานา ไม่เพียงเป็นนักว่ายนํ้าทะเลที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก แต่ยังเชี่ยวชาญการพายเรือแคนูชนิดหาตัวจับยากด้วย
![](https://i2.wp.com/ngthai.com/app/uploads/2022/08/STOCK_MJ8764_DAIL15368-2011CL020.jpg?resize=640%2C640&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/ngthai.com/app/uploads/2022/08/STOCK_MJ8764_DAIL15368-2009CL071.jpg?resize=640%2C640&ssl=1)
แม้แต่ในหมู่ชาวกาด้วยกันเอง กลุ่มชาวประมงผู้เป็นที่นับหน้าถือตามากที่สุด หรือเหล่าโวลาเซ ก็มักมาจากอากุตโซ หรือเครือข่ายตระกูลอาบีซี-แฟนตี ซึ่งเป็นกลุ่มชนเผ่าแฟนตีที่แปลงสัญชาติเป็นชาวกา การเปลี่ยนอัตลักษณ์จากชาวแฟนตีเป็นชาวกาอย่างง่ายดายเช่นนี้มีรากฐานมาจากค่านิยมร่วมที่ผูกโยงกับความมุ่งมาดที่จะธำรงไว้ซึ่งวิถีความเป็นอยู่ของตน ชนทั้งสองเผ่าไม่ออกไปจับปลาในทะเลในวันอังคาร หรือในแหล่งนํ้าจืดในวันพฤหัสบดี นี่คือข้อห้าม การหยุดพักเป็นประจำทุกสัปดาห์นี้จึงเปิดโอกาสให้เหล่าวิญญาณแห่งท้องนํ้าได้เพิ่มพูนปลาให้สมบูรณ์อันเป็นการกระทำจากความใฝ่ใจในทางอนุรักษ์ซึ่งหยั่งรากในัฒนธรรมและประเพณี
พูดให้เป็นรูปธรรมมากขึ้นก็คือ ความคิดเชิงอนุรักษ์คือ ตัวกำหนดขอบเขตของทักษะต่างๆ ที่ชุมชนชาวประมงกานาเรียนรู้ ชาวประมงจำนวนมากเป็นเกษตรกรนอกเวลา พวกเขาจะหวนกลับมาทำงานบนบกปีละครั้งหรือสองครั้ง เมื่อเหล่าสัตว์นํ้ามีความอุดมสมบูรณ์น้อยลง
![](https://i2.wp.com/ngthai.com/app/uploads/2022/08/STOCK_MJ8764_DAIL15368-2012CL21.jpg?resize=640%2C640&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/ngthai.com/app/uploads/2022/08/STOCK_MJ8764_DAIL15368-2012CL26.jpg?resize=640%2C640&ssl=1)
ชาวประมงที่เหลือจะลอกเลียนรูปแบบการอพยพของสัตว์นํ้าชนิดพันธุ์หลักที่บริโภคกันในย่านที่พวกเขาอาศัยอยู่หรือย้ายไปบริเวณที่จะพบปลาชนิดอื่นแทน
ปลาที่มีให้จับไม่ขาดมือนี้ยังหล่อหลอมให้เกิดความเชี่ยวชาญด้านการถนอมอาหารและรมควัน ตลอดแนวชายฝั่ง ปลารมควันที่สำรองไว้มากพอช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะมีโปรตีนหลักจากอาหารเพียงพอเสมอไม่ว่าจะเป็นฤดูกาลใด
ความจริงที่ว่า นานๆ ครั้งจะมีผู้สูญหายไปในทะเลบ้าง และการไม่อาจคาดเดาได้ของปริมาณปลาที่จับได้ หมายความว่า ครอบครัวชาวประมงผูกความฝันของตนไว้กับความผกผันของโชคชะตา
![](https://i0.wp.com/ngthai.com/app/uploads/2022/08/STOCK_MJ8764_DAIL15368-2010CL123.jpg?resize=640%2C640&ssl=1)
ชาวประมงจะนำนํ้าพักนํ้าแรงสีเงินยวงของตนมาให้พวกผู้หญิงในหมู่บ้าน พวกผู้หญิงจะขายพวกมัน และเอากำไรมาเล่นแร่แปรธาตุด้วยการแลกเปลี่ยนค้าขาย การทำไร่ และให้การศึกษากับเด็กๆ ที่วิ่งเล่นตามชายหาด
แม้เมื่อพวกผู้ชายไม่หวนกลับมา พวกเขายังทิ้งบางสิ่งไว้เบื้องหลัง
ลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่งของผมที่ใช้ชื่อ ไอย์เคว เหมือนผม เป็นคนหนึ่งที่ไม่หวนกลับมา เมื่อปี 1992 ตอนที่ผมออกเดินทางไปอาศัยอยู่นอกเมืองหลวงอักกรา ที่เขตตูลอนซึ่งอยู่ไกลออกไปเกือบ 650 กิโลเมตรทางตอนเหนือของกานา เขาบอกสิ่งหนึ่งกับผมซึ่งผมจดจำไว้เสมอ นายไม่มีอะไรต้องกังวล พวกเราเป็นชาวเผ่ากา เมื่อมีท้องทะเลเกื้อหนุนเราอยู่ไม่มีอะไรที่เราต้องกลัว
ไม่ว่าผมจะเดินทางอยู่หนใด ในท่ามกลางความแปลกแยก ผมจะหลับตาลง และเงี่ยหูสดับฟังเสียงนํ้า
ความเรียง นีไอย์ เควพาร์กส์
ภาพถ่าย เดอนี ไดเยอ
ติดตามสารคดี ทะเลเปรียบดังลมหายใจเรา ฉบับสมบูรณ์ได้ที่นิตยสาร เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ฉบับภาษาไทย เดือนกรกฎาคม 2565
สั่งซื้อนิตยสารได้ที่ https://www.naiin.com/product/detail/549797