Yumbo Centrum ห้างสรรพสินค้าที่เป็นมิตรกับ LGBTQ+ มากที่สุดบนโลก

Yumbo Centrum ห้างสรรพสินค้าที่เป็นมิตรกับ LGBTQ+ มากที่สุดบนโลก

“Yumbo Centrum เกาะคานารีประเทศสเปน

ที่ที่โลกแห่งธงสีรุ้งไม่เคยหลับใหล”

ดาริโอ บิลญาลบา นักคณิตประกันภัยหนุ่มจากมิลานวัย 29 ปี สลัดเสื้อ และกระโจนเข้าไปเต้นในหมู่ชายด้วยร่างกายชุ่มเหงื่อ ส่งเสียงร้องลั่นกลางดึก บนเกาะอันห่างไกลของสเปน เขาตะโกนสุดเสียง “Sempre! Sempre!” (ตลอดไป! ตลอดไป!) ตามด้วย “Sempre di più! Yumbo per sempre!” (เอาอีก! เอาให้สุด! ยัมโบจงเจริญ!) ขณะที่เพลงรีมิกซ์ของบรูโน มาร์สดังสนั่นไปทั่ว บิลญาลบาเปลี่ยนไปร้องท่อนฮุกอย่างมันส์สะใจ “Sleep tomorrow, but tonight go crazy. All you gotta do is just meet me at the—’Yumbooooo.’” (พรุ่งนี้ค่อยนอน แต่คืนนี้ต้องปล่อยให้สุด แค่มาเจอกันที่… ‘ยัมโบ!)ห้างนี้เปิดตัวในปี 1982 ด้วยความคิดที่ว่า “แค่สร้าง พวกเขาก็จะมาเอง” ตอนนี้ Yumbo กลายเป็น “ห้างสรรพสินค้า LGBTQ+ แห่งเดียวของโลก” อย่างเป็นทางการ กับพื้นที่ 200,000 ตารางฟุต (18,581 ตารางเมตร) 4 ชั้น ร้านค้ากว่า 200 จุดกลางแจ้งด้วยสถาปัตยกรรมแบบบรูทัลลิสต์ ตัวเลขเหล่านี้ไม่ใช่แค่ขนาดของสถานที่ แต่สะท้อนความจริงอันน่าประหลาดใจที่ว่า Yumbo อาจเป็นสถานที่ที่ “เกย์ที่สุดในโลก” ก็ว่าได้ เป็นหัวใจหลักของเมืองตากอากาศมัสปาโลมัส (Maspalomas) ทางตอนใต้ของเกาะกรันกานาเรีย (Gran Canaria) ส่วนหนึ่งในหมู่เกาะคานารีของสเปนที่ลอยตัวอยู่นอกชายฝั่งแอฟริกา อีกทั้ง Yumbo ยังเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาว LGBTQ+ เพราะพวกเขาได้เป็นในสิ่งที่พวกเขาเป็นจริงๆ โดยไม่ต้องปิดบัง“ที่นี่รู้สึกเหมือนที่บ้าน แม้คนแปลกหน้าก็ให้ความรู้สึกที่คุ้นเคย” ฮิว เดวีส์ ชาวเวลส์ผู้เกษียณวัย 73 ปี ที่มาเยือน Yumbo เป็นครั้งแรกในปี 2005 บอกว่า “ผมไม่เคยรู้สึกกังวลเวลาอยู่ที่นี่ นี่แหละอิสระที่แท้จริง ความรักที่แท้จริง”

บรรยากาศงานเฉลิมฉลองเทศกาล Pride Month ในห้างสรรพสินค้า Yumbo ในปี 2023 ภาพถ่ายโดย Canary4stock, iStock

แม้เทศกาลเฉลิมฉลอง Pride Month อย่างเป็นทางการของ Yumbo จะจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคม แต่ความภาคภูมิใจในความหลากหลายนี้ก็ไม่เคยจางหาย มีปาร์ตี้และกิจกรรมตลอดทั้งปี ที่ดึงดูดให้ผู้คนจากทั่วโลกแห่กันมาเพื่อสัมผัส “ภาษาสากลของโลก” หรือรูปแบบการแสดงออกที่ไม่ต้องใช้คำพูด นั่นก็คือ ดนตรี การเต้น เสียงหัวเราะ และเสน่ห์ที่ใครก็บอกไม่ถูก “ยัมเบโรส” (Yumberos) คือชื่อที่คนท้องถิ่นใช้เรียกเหล่านักท่องเที่ยว ที่ต่างมุ่งหน้าสู่ที่นี่เพื่อเสพบรรยากาศการเปิดใจพูดคุยเรื่องเซ็กซ์ตลอดทั้งวันทั้งคืน พร้อมกับความหรรษาที่พ่วงมาไม่รู้จบ ที่ Yumbo ทุกคนใช้ชีวิตเป็นนายตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการมีความสัมพันธ์แบบเปิด กลุ่มเพื่อนแท้ที่พร้อมลุยกันไปทุกที่ หรือแม้แต่คุณพ่อที่อุ้มลูกน้อยเดินเล่นตอนเที่ยงคืน ทั้งหมดล้วนเปล่งประกายออกมาราวกับเป็นมนตร์เสน่ห์แห่ง Yumbo ห้างสีรุ้งอันทรงพลัง

“Yumbo ฉีกทุกกฎ ทุกรูปแบบ คุณจะพบชีวิตเกย์รูปแบบใหม่ที่นี่” เลโอ เด ลา โรซา นายแบบวัย 39 ปีจากมาดริดกล่าวพลางเดินไปตามลานกว้างของห้าง

แม้แต่พนักงานใน Yumbo เองก็ยังอินไปในทางเดียวกัน ฌ็อง-ฟรองซัวส์ “เฌฟฟ์” เออนาร์ กับ ติเยรี ฟงแตน คู่สามีจากเมืองตูลูสที่แต่งตัวเป็นฝาแฝดเบอร์เลสก์ (burlesque twins) เดินเฉิดฉายไปทั่วก่อนจะกลับไปนั่งประจำการที่บาร์ซึ่งเปรียบเสมือนเวทีของพวกเขา หรือจะเป็น อุสมาน หนุ่มท้องถิ่นขี้อายวัย 22 ปี ที่ยืนย่างไส้กรอกสไตล์เยอรมัน (Bratwurst) ในราคา 5 ดอลลาร์อยู่มุมลานจอดรถตั้งแต่สามทุ่มยันหกโมงเช้า “บางสิ่งในชีวิตก็สามารถเติบโตได้ใต้แสงจันทร์” หรือ กอนซาโล เบนาบู ชาวอาร์เจนตินาวัย 37 ปี ผู้ได้รับฉายาว่าเป็น “พ่อมดแห่งการนวด” (magojista) แห่ง Yumbo ซึ่งในเวลาว่างเขามักจะสวดมนต์พลางกุมสร้อยคอสุนัขที่แม่เขาให้มาที่จารึกคำโดด ๆ ไว้ว่า “sagrado” (ศักดิ์สิทธิ์)

Yumbo เป็นได้ทุกอย่าง คุณจะเจอทุกอย่างที่นี่ ไม่ว่าจะเวอร์เกินจริง จริงใจ หรือโรแมนติก หรือบางที…ทั้งหมดก็รวมกันเป็นอยู่ในก้อนเดียวคนธรรมดาในที่แสนธรรมดา

แม้จะขึ้นชื่อเรื่องของความหลากหลาย แต่ในวัฒนธรรมเควียร์ก็มักเจอภาพลักษณ์ที่ซ้ำซาก และถูกล้อว่าเป็น “clones” หรือการมีลุคที่คล้ายกันในเรื่องแฟชั่น แนวเพลง รูปร่าง และสไตล์ต่าง ๆ แต่ Yumbo ไม่อยากเป็นเช่นนั้น โดยเริ่มตั้งแต่การออกแบบพื้นคอนกรีตที่ไม่เน้นความสวยหรู ไปจนถึงมาสคอตไดโนเสาร์สีเขียวตัวใหญ่สุดประหลาดที่มีแผ่นหลังสีแดง พร้อมทั้งโบว์ไทสีแดงอีกด้วย มันไม่ใช่โทรมที่แต่งให้ดูเก๋ แต่มันคือโทรมจริงที่ไม่แคร์แฟชั่น นี่จึงเป็นขั้วตรงข้ามกับแนวคิดวัฒนธรรมแบบอเมริกันอย่างสิ้นเชิง (ไม่ได้แปลว่าไม่ต้อนรับชาวอเมริกันที่มากันเพียบนะ) แต่มันคือการปฏิเสธการเปลี่ยนสถานที่แห่งความหลากหลายทางเพศให้เป็นอสังหาริมทรัพย์อัน

หรูหราตึกที่ตั้งอยู่เดี่ยว ๆ กลางลานกว้างขนาดใหญ่ของ Yumbo มีเพียงร้านเบอร์เกอร์คิง  ที่พนักงานสวมเสื้อยืด Pride แทนยูนิฟอร์มร้าน อีกทั้งบนดาดฟ้าของอาคารยังมี “สวนลับ” บาร์ที่ บริษัท Absolut เป็นสปอนเซอร์หลัก นอกจากนี้ Yumbo ยังมีมัสยิดรูปพีระมิด หน่วยแพทย์ประจำ กำแพงแห่งรักสำหรับเขียนข้อความ สวนกระบองเพชรอนุสรณ์แห่งโรคเอดส์ คาสิโนและเครื่องเล่นเกมหยอดเหรียญ สวนสาธารณะที่รำลึกถึงนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิเควียร์ในท้องถิ่น และสนามกอล์ฟขนาดเล็กจำนวน 18 หลุมบนดาดฟ้า

ห้างสรรพสินค้ายัมโบ (Yumbo Centrum) ในหมูเกาะคานารีประเทศสเปนที่เปิดตัวเมื่อปี 1982 ประกาศตัวว่าเป็นห้างสำหรับกลุ่มคนหลากหลายทางเพศแห่งเดียวบนโลก กับพื้นที่ 200,000 ตารางฟุต (18,581 ตารางเมตร) ความสูง 4 ชั้นและร้านค้ามากกว่า 200 ร้าน Yumbo จึงกลายเป็นจุดที่หลอมรวมชาว LGBTQ+ ไว้ด้วยกัน พร้อมกับแปลงโฉมให้เป็นการเดินทางที่โอบรับตัวตนที่แท้จริงของพวกเขาอย่างไร้ข้อจำกัด ภาพถ่ายโดย Thomas Rabsch, laif/Redux

Yumbo มีบาร์และคลับสำหรับทุกรสนิยม…ที่ถูกกฎหมาย ม้านั่งและบันไดก็เป็นสีรุ้ง ลานกว้างศูนย์กลางเต็มไปด้วยหนุ่ม ๆ กำลังเต้นกันไปกับวง tribute band ของเลดี กากาหรือกลุ่มนักดนตรีที่แสดงเพลงของวงดนตรีที่มีชื่อเสียง รีมิกซ์ของเพลง Journey medley จากซีรีส์ Glee หรือแม้แต่ท่วงทำนองจากภาพยนตร์ Brokeback Mountain แถมยังมีโชว์แข่งขันแดร็กคอมเมดี้ สปอร์ตบาร์ที่เป็นการเชียร์ยูโรวิชัน (เวทีประกวดเพลงสุดเว่อร์วังจากฝั่งยุโรป) และโปรโมชั่นเครื่องดื่มสุดจัดจ้านที่เบียร์อาจถูกกว่าน้ำเปล่า

ทุกมุมของ Yumbo เต็มไปด้วยความเวอร์วังอลังการ ไม่ว่าจะเป็นสปาปลา บาร์ธีมนักรบโรมันหรือโจรสลัด บาร์ที่ระดมทุน 68,000 ดอลลาร์เพื่อฝึกสุนัขนำทาง เมนูอาหารที่มีถึง 229 เมนู และของจุกจิกจิปาถะอีกมากมาย ตั้งแต่แก้วบียอนเซ่พร้อมคำคม ชุดว่ายน้ำผู้ชายลายสายรุ้ง ตุ๊กตาโยกหัวรูปเจ้าหญิงไดอานา เสื้อบอลปาเลสไตน์ เสื้อโค้ทขนเฟอร์ โมเดลตัวละคร Hulk ที่ทำจากวัสดุคล้ายคริสตัลในราคา 850 ดอลลาร์ซึ่งวางคู่กับโมเดล Chewbacca ราคา 570 ดอลลาร์ รวมถึงประติมากรรมแนวโฮโมอีโรติกหรือรูปปั้นเปลือยชายชวนจิ้น ผ้ากันเปื้อนลายล่อแหลม ไปจนถึงแว่นกันแดดเรนโบว์ที่เขียนว่า “I LOVE MY GAY”

อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวก็ยังสามารถหาช็อปเสื้อผ้าที่เป็นกระแสได้ที่ Yumbo ตั้งแต่เสื้อเชิ้ตสไตล์หนุ่มดีมีมารยาท แจ็กเก็ตประจำโรงเรียน ผ้าพันคอ ไปจนถึงชุดรอมเปอร์ มากไปกว่านั้นคือตู้ขายของอัตโนมัติที่ขายของเล่นผู้ใหญ่แบบไม่เขินอาย หยิบได้เหมือนกับขนมเลย์ ความหลากหลายไร้กรอบของที่นี่เตือนใจเหล่าท่องเที่ยวว่า เป็นเควียร์นั้นไม่มีแบบตายตัว มันคือสิ่งที่แต่ละคนอยากเป็น 

ปัจจุบัน สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับกลุ่ม LGBTQ+ ก็เริ่มมีลักษณะคล้ายกัน ซึ่งพิกัดยอดฮิตคือภาพชายหาดหรูหรา แต่ Yumbo กลับมาแบบแหวกแนว แต่ถึงอย่างนั้น ก็สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวยุโรปได้จำนวนมาก แทนที่พวกเขาจะไปเลือกเมืองเควียร์ยอดฮิตอย่างอัมสเตอร์ดัม เบอร์ลิน ลอนดอน มาดริด หรือไมโคนอส 

“ผมไม่ชอบเกย์ที่คิดว่าตัวเองรวยกว่าใครเขา” โมฮาเหม็ด ดริเฟล ผู้จัดการโรงอาบน้ำแบบตุรกี (hamman) จากเมืองมาร์เซย์วัย 36 ปี เอ่ยอย่างตรงไปตรงมา “ผมชอบคนธรรมดา ๆ ในที่ธรรมดา ๆ คนที่นี่เรียบง่ายเหมือนกันหมด และผมก็ชอบแบบนั้น” นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มา Yumbo เดินทางด้วยรถบัสจากสนามบินในราคาแค่ 3.95 ดอลลาร์ ปีที่แล้ว 60% ของนักท่องเที่ยวบนเกาะนี้ มีรายได้ระหว่าง 28,000 ถึง 85,000 ดอลลาร์ต่อปี 

“ตั้งแต่ก้าวเข้ามาที่ Yumbo ผมต้องรีบใส่เสื้อเลยนะ คนอื่นจะได้ไม่มองว่าผมแปลก” หลุยส์ ปาเรเดส พยาบาลท้องถิ่นวัย 45 ปีหัวเราะออกมา “ผมมองที่นี่แปลก ๆ เชย ๆ และห่วยไปนิดหน่อย” และหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง “แต่มันก็คงสนุกนะ” ก่อนจะยิ้มกว้างเมื่อพูดถึงแฟนหนุ่มคนที่สองในชีวิตที่ได้พบกันที่นี่
“โดยรวมแล้ว นักท่องเที่ยวที่นี่มีมารยาทนะ ถึงจะปลดปล่อยตัวเองแบบไม่กั๊กเลยก็ตาม แต่นั่นแหละคือความลงตัวที่หาได้ยาก”

บรรยากาศและร้านค้าภายในห้างสรรพสินค้า Yumbo ภาพถ่ายโดย Tobias Kruse, Ostkreuz/Redux

สวรรค์ของทุกคน

บาร์ใน Yumbo ตกแต่งแบบอบอุ่นตามสไตล์ยุโรป เช่น บาร์หอไอเฟลสำหรับคนรักฝรั่งเศส บาร์คล้ายถ้ำหมี (Bärenhöhle) สำหรับชาวเยอรมัน บาร์ที่บรรยากาศคล้ายหมู่เกาะไมโคนอส สำหรับชาวกรีก และบาร์สไตล์สะท้อนเอกลักษณ์ของชาวนอร์เวย์ (Ola Nordmann) โครี ฟูห์โล พนักงานซัพพลายเชนจากเบอร์ลินวัย 37 ปี เล่าว่าเคยทำงานในชุดเครื่องแต่งกายพื้นเมืองสำหรับผู้ชาย (lederhosen) ในโซน German ที่สวนสนุก Epcot Center ของดิสนีย์ที่ซึ่งเขาท้าทายกับภาพจำของนักท่องเที่ยวที่มีต่อเขาในฐานะชายผิวดำชาวเยอรมัน

“คนมาที่นี่ก็คล้ายๆ กันแหละ แต่เป็นมิตรและน่าคบกว่า” เขาพูดระหว่างทานอาหารกลางวันที่เบอร์เกอร์คิง เพื่อนของเขาที่ชื่อ Mucho (แปลว่า “มาก” ในภาษาสเปน) เสริมขึ้นมา “คนพูดเก่ง ๆ ยังแพ้พวกตรงไปตรงมาเลย” ฟูห์โลหัวเราะแล้วพูดต่อ “มันดีนะที่ได้เห็นชีวิตเกย์แบบเปิดกว้าง ไม่เรื่องมาก ค่อนข้างเหลวไหลแต่ก็สนุกดี เหมือนยุค 80 เลย”

ความรู้สึกแบบยุค 80 นี้อาจไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญอย่างที่นักมานุษยวิทยาวัย 32 ปีจากเซบียา อลอนโซ ซานตา ครูซได้ลองเดาไว้ขณะดื่มเบียร์ Yumbo เคยเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับกลุ่ม LGBTQ+ ตั้งแต่เริ่มเปิดตัวในปี 1982 แต่เมื่อเกิดการระบาดของโรคเอดส์ สถานที่นี้ก็ได้เผชิญกับความยากลำบาก “มันก็เหมือนกับสวนสนุกสำหรับคนรุ่นเก่าที่ไม่เคยสัมผัสในยุค 80 หรือ 90 นี่เอง มันกลมกลืนกันมาก ๆ ถึงแม้จะไม่ได้ถึงกับสงบสุข…แต่มันก็รู้สึกได้พัก แต่ละกลุ่มก็จะมีที่ที่พวกเขารู้สึกปลอดภัย แต่สำหรับที่นี่มันเป็นเหมือนสวรรค์ที่สร้างมาเพื่อคนทุกคน” เขากล่าว

แดร็กควีนอย่าง Grace Jones ขึ้นแสดงในดิสโกกลาง Yumbo บรรยากาศในห้างเต็มไปด้วยความสนุกสุดเวอร์ มีทั้งคลับและบาร์สารพัดรสนิยม ไปจนถึงโชว์แดร็กสุดจัดจ้าน และบาร์ธีมยุโรป ภาพถ่ายโดย Tobias Kruse, Ostkreuz/Redux

แต่แน่นอนว่า Yumbo ก็หนีไม่พ้นเสียงวิจารณ์ คู่เลสเบี้ยนชาวฝรั่งเศสที่ถูกจับขณะเดินผ่านบาร์ชื่อ Tom’s Bar ซึ่งเป็นจุดรวมตัวที่ไม่ให้ผู้หญิงและแดร็กควีนเข้า แต่สุนัขสามารถเข้าได้ คริสตินา อากุยเมส นักกายภาพบำบัดจากเมืองลียงวัย 29 ปี กล่าวว่า “Yumbo คือภาพแทนของกลุ่ม LGBTQ+ แบบจับต้องได้” และถามต่อว่า “บอกฉันหน่อยสิว่าเลสเบี้ยนควรไปที่ไหน เพราะเราแทบไม่มีอะไรเลย ซึ่งอยู่ที่นี่ก็ดีกว่าอยู่แล้ว มันไม่ใช่สวรรค์หรอก แต่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น”

แม้ที่นี่จะเต็มไปด้วยสิ่งบันเทิงใจ แต่ Yumbo ก็เป็นเครื่องเตือนใจว่าในขณะที่โลก (ของคนรักต่างเพศ) จะนิยามการเดินทางว่าเป็นเรื่องของจินตนาการ การเดินทางไกล หรือการหลีกหนีความจริง ชาวเควียร์กลับนิยามการเดินทางให้เป็นการโอบกอดตัวตนภายในที่แท้จริง เพื่อให้เป็นอิสระจากอุปสรรคต่อการต้องต่อสู้กับความแปลกแยกที่ไม่สิ้นสุด

“ในฐานะคนรักเพศเดียวกัน เราต้อง ‘คัมเอาต์’ อยู่ตลอดเวลา” อลัน ทอมป์สัน เทรนเนอร์ส่วนตัววัย 44 ปีจากกลาสโกว์ กล่าวว่าเขาย้ายมาอาศัยอยู่ที่ Yumbo กับสามีชื่อเดเร็คเมื่อปีที่แล้ว และทั้งคู่หมั้นกันที่นี่เมื่อปี 2018 บนเวทีร่วมกับแดร็กควีนไมเคิล มารูลิ  และเดอะ วิเวียน เขากล่าวว่า “ที่ Yumbo คุณไม่ต้องพยายามคัมเอาต์อีกต่อไป มันอิสระมาก เรามีความสุขกับที่นี่ พร้อมกับที่ได้เห็นสิทธิของกลุ่ม LGBTQ+ เริ่มแผ่ขยายออกไปยังทั่วโลก” 

เรื่อง Richard Morgan

แปลและเรียบเรียง ญาณิศา ไชยคำ

โครงการสหกิจศึกษา กองบรรณาธิการ นิตยสาร เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ฉบับภาษาไทย


อ่านเพิ่มเติม : เพศ-ภาพ ในมุมมองใหม่

Recommend