เพื่อช่วยปกปักรักษาเขตสงวนสัตว์ป่าขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ โมซัมบิก ให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมในความสำเร็จที่ได้มา
โมซัมบิก – โจอานา ลีคอนเด ยืนบนสันทรายที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์เชมัมโบ ชุดกระโปรงสีมรกตของเธอเปียกชุ่ม หยาดน้ำฝนตกกระทบเท้า เธอหันหน้าเข้าหาแท่นบูชา ซึ่งเป็นต้นเบาบับอายุน้อย มีผ้าขาวพันรอบลำต้นอวบใหญ่อันศักดิ์สิทธิ์ และกล่าวนำสวดภาวนาให้ผู้มาร่วมแสวงบุญ ดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า ส่งกลุ่มผู้สักการะเข้าสู่ค่ำคืนที่จะ มีการร้องรำทำเพลง และสวดภาวนาร่วมกัน
ผู้สักการะกลุ่มนี้มาร่วมพิธี ชอนเด-ชอนเด ในนีอัสซา (Niassa) ซึ่งเป็นพื้นที่คุ้มครองทางตอนเหนือ ของโมซัมบิก พวกเขาวางของเซ่นไหว้เป็นอาหารและเงินที่โคนต้นเบาบับ แล้วท่องบทสวดชอนเด เพื่ออ้อนวอนเหล่าบรรพบุรุษให้อำนวยความสุข สุขภาพที่ดี และความอุดมสมบูรณ์ เบาบับถือเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ หรือประตู สู่ภพภูมิเหนือธรรมชาติที่ผู้คนมารวมตัวกันปลุกวิญญาณบรรพบุรุษ ความเชื่อพื้นบ้านปกป้องต้นไม้เหล่านี้จาก คมขวานของคนตัดไม้
![ช้างป่า, ช้างแอฟริกา, โมซัมบิก](https://i2.wp.com/ngthai.com/app/uploads/2023/11/Resized_001-1.jpg?resize=640%2C427&ssl=1)
![นีอัสซา, โมซัมบิก](https://i2.wp.com/ngthai.com/app/uploads/2023/11/Resized_002-1.jpg?resize=640%2C427&ssl=1)
คนเก็บของป่าล่าสัตว์ ชาวไร่ชาวนา ผู้ปกครองสังคมชนเผ่า คือผู้คนที่เรียกภูมิภาคนี้ว่าบ้านมาตลอดหลายพันปี แต่การตกเป็นเมืองขึ้นนานหลายศตวรรษ และสงครามกลางเมืองเมื่อไม่นานมานี้ ส่งผลให้ชุมชมต่างๆ ในนีอัสซาเผชิญความยากจนสุดขั้ว หากป่าดงงดงามผืนนี้และแผ่นดินที่บรรพบุรุษของผู้คนที่นี่อาศัยอยู่มาหลาย ชั่วคนจะได้รับการปกปักรักษาและทะนุบำรุงเพื่ออนาคต ชาวบ้านก็ควรได้อานิสงส์โดยตรงจากความพยายาม เพื่อการอนุรักษ์และการท่องเที่ยวด้วย
นีอัสซาซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าสวิตเซอร์แลนด์ด้วยพื้นที่ 42,000 ตารางกิโลเมตร ได้รับการจัดตั้งเป็นเขตสงวนสำหรับล่าสัตว์เมื่อปี 1954 และกำหนดให้เป็นพื้นที่คุ้มครองแห่งชาติในปี 1999 ที่นี่เป็นบ้านของเหล่า “ดารา” แห่งแอฟริกาตะวันออก เช่น ช้าง ควายป่า สิงโต หมาป่าแอฟริกา ตลอดจนสัตว์แปลกตาอย่างม้าลายแกรนท์ อิมพาลาจอห์นสตัน และวิลเดอบีสต์นีอัสซา ที่ราบแผ่ไพศาลของที่นี่ถักร้อยด้วยหย่อมป่าละเมาะ ป่าไม้ ที่ราบ น้ำท่วมถึง และมีเขาโดดแกรนิตหรือหินโผล่อยู่ประปราย
![น้ำผึ้งป่า, ป่าแอฟริกา, โมซัมบิก, ต้นเบาบับ](https://i1.wp.com/ngthai.com/app/uploads/2023/11/Resized_003-1.jpg?resize=640%2C427&ssl=1)
![ฮันนีแบดเจอร์, ป่าแอฟริกา](https://i2.wp.com/ngthai.com/app/uploads/2023/11/Resized_004-1.jpg?resize=640%2C427&ssl=1)
ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ผู้คนอยู่อาศัยและแลกเปลี่ยนค้าขายในภูมิภาคนี้ การดำรงอยู่ของพวกเขา ในยุคเริ่มแรกถูกบันทึกไว้ในรูปสิ่งประดิษฐ์ยุคหินและภาพวาดบนผ้าใบแกรนิต พวกเขาหากินจากป่าละเมาะและแม่น้ำ เก็บเนื้อสัตว์ป่า น้ำผึ้ง ผลไม้ ถั่ว ฟืน พืชสมุนไพร และจับปลา จากนั้นจึงเพิ่มการเพาะปลูกพืชไร่เข้ามา ในงานประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นข้าวโพด ถั่วลิสง ถั่ว งา ข้าวฟ่าง หรือพืชที่ปลูกเพื่อขาย เช่น ยาสูบ
ปัจจุบัน ประชากรกว่า 60,000 คนที่อยู่ตามหมู่บ้านเล็ก ๆ ทั่วนีอัสซา ยังคงหากินจากผืนแผ่นดิน แม้ผู้ร่วมบริหารจัดการเขตสงวนซึ่งได้แก่ คณะบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์แห่งชาติโมซัมบิก หรือเอเอ็นเอซี และสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่าจากสหรัฐฯ จะดูแลควบคุมการจับปลาและล่าสัตว์ โดยมีระบบใบอนุญาตที่จำกัดช่วงเวลา แหล่ง และวิธีการจับปลา การล่าสัตว์เพื่อนำเนื้อมาทำอาหาร หรือขายให้พ่อค้าท้องถิ่นก็เป็นสิ่งต้องห้ามแล้วในปัจจุบัน ชาวบ้านได้รับการส่งเสริมให้เลี้ยงเป็ด ไก่ และกระต่ายเพื่อเป็นแหล่งโปรตีนทางเลือก
![นีอัสซา, ป่าแอฟริกา, โมซัมบิก](https://i2.wp.com/ngthai.com/app/uploads/2023/11/Resized_005-1.jpg?resize=640%2C427&ssl=1)
![หมาป่าแอฟริกา, นีอัสซา, โมซัมบิก, ป่าแอฟริกา](https://i1.wp.com/ngthai.com/app/uploads/2023/11/Resized_006-1.jpg?resize=640%2C427&ssl=1)
เช้าวันหนึ่งของเดือนพฤศจิกายน บนถนนใกล้หมู่บ้านอึมบัมบา ชาวประมงเข็นจักรยานไปตลาดบนเส้นทางคลุ้งฝุ่นเส้นเดียวกับที่ชาวบ้านใช้ร่วมกันเป็นครั้งคราวกับผู้สัญจรสี่เท้า เช่น ช้าง สิงโต และแอนทิโลป หลังใช้เวลาหลายสัปดาห์ที่ค่ายห่างออกไป 15 กิโลเมตรทางปลายน้ำของแม่น้ำลูเกนดา ตะกร้าไม้ไผ่สาน บนจักรยานของพวกเขาเพียบแปล้ไปด้วยปลา นินกุ ซึ่งเป็นปลาบู่ชนิดหนึ่ง และ คัมปันโก ปลาดุกน้ำจืดอีกชนิด ที่พวกเขาดักจากแม่น้ำด้วยตาข่าย ปลาเหล่านี้ตากแห้งและรมควันมาแล้วเหนือกองไฟกลางแจ้งที่ค่าย วิธีถนอมอาหารนี้ช่วยยืดอายุการเก็บรักษาได้นานขึ้นเป็นหลายสัปดาห์
สำหรับชาวเยา ปลาไม่ได้เป็นเพียงแหล่งโปรตีนหายาก แต่ยังมีค่าประหนึ่งเงินสด ชาวบ้านจะนำปลา มาแลกกับน้ำมันทำอาหาร ข้าวสาร และกระทั่งเสื้อผ้า ในตลาดท้องถิ่น อึมบัมบายังเชื่อมต่อกับเส้นทางการค้าโบราณที่พาดผ่านบริเวณนั้น เอื้อให้ชาวประมงขายปลาที่จับมาได้ส่วนหนึ่งให้พ่อค้าจากที่อื่นภายในเขตสงวนและเลยออกไป เบนวินโด นาปัวนา ผู้จัดการชุมชนที่ทำงานให้กับนีอัสสซาคาร์นิวอร์โปรเจกต์ หรือเอ็นซีพี (Niassa Carnivore Project: NCP) ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มเพื่อการอนุรักษ์ที่จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2003 บอกว่า “ผู้คนพากันมาจาก กาโบเดลกาโด” จังหวัดทางตะวันออก “เรามีกระทั่งคนจากแทนซาเนียที่มาซื้อปลาพวกนี้ครับ” เขาเสริม
![อาร์ดวาร์ก, aardvark, หมู, โมซัมบิก, แอฟริกา](https://i0.wp.com/ngthai.com/app/uploads/2023/11/Resized_007-1.jpg?resize=640%2C427&ssl=1)
![ลิงบาบูน, โมซัมบิก, แอฟริกา](https://i1.wp.com/ngthai.com/app/uploads/2023/11/Resized_008-1.jpg?resize=640%2C427&ssl=1)
พื้นที่ส่วนใหญ่ของนีอัสซา หรือร้อยละ 72 ของที่ดิน ถูกจัดสรรให้เป็นพื้นที่สัมปทานล่าสัตว์เพื่อเกมกีฬา ซึ่งผู้ประกอบการเอกชนได้สัญญาเช่าสูงสุด 25 ปีพร้อมสิทธิต่ออายุได้ สัมปทานล่าสัตว์แต่ละผืนจะได้รับโควตาจำนวนสัตว์ชนิดต่างๆ เช่น ควายป่า เสือดาว สิงโต และแอนทิโลปที่อนุญาตให้ล่าได้ หลังจากถูกสังหารแล้ว ผู้ถือสัมปทานมักแจกซากให้ชาวบ้านนำเนื้อไปบริโภค พื้นที่เพื่อการท่องเที่ยวแบบไม่ล่าสัตว์คิดเป็นสัดส่วน เพียงหนึ่งในสี่ของเขตสงวน และมีเพียงร้อยละหนึ่งที่กันไว้สำหรับการอนุรักษ์เป็นพิเศษโดยไม่อนุญาตให้ท่องเที่ยว การล่าสัตว์เป็นเกมกีฬาอัดฉีดเม็ดเงินมากกว่าสี่ในห้าของรายได้จากการท่องเที่ยวหลายล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีของเขตสงวน หลังรัฐบาลหักส่วนแบ่งไปแล้ว ชาวบ้านจะได้รับร้อยละ 20 ของรายได้ไปใช้จ่ายตามที่เห็นสมควร
เรื่อง ลีโอนี ฌูแบร์
ภาพถ่าย ทอมัส เพสแชก
แปล อัครมุนี วรรณประไพ
ติดตามสารคดี เยือนป่าดงพงไพรแสนพิเศษ ฉบับสมบูรณ์ได้ที่ นิตยสาร เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ฉบับภาษาไทย เดือนกันยายน 2566
สั่งซื้อนิตยสารได้ที่ https://www.naiin.com/product/detail/587166