โลกร้อนพลิกโฉม? เมื่อทะเลทรายแห้งแล้งที่สุดในโลกกำลังจมใต้น้ำ

โลกร้อนพลิกโฉม? เมื่อทะเลทรายแห้งแล้งที่สุดในโลกกำลังจมใต้น้ำ

โลกเดือด ทำสภาพอากาศแปรปรวน “ทะเลทรายซาฮารา” เจอฝนตกหนักเมื่อเดือนก.ย. ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมจนเหมือนมีทะเลสาบใจกลางดินแดนแห่งความแห้งแล้ง

บางครั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศก็ทำให้อะไรที่ผิดไปจากปกติ เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในสถานที่ที่ขึ้นชื่อว่า ‘แห้งแล้งที่สุดในโลก’ อย่างทะเลทรายซาฮารา เพราะเมื่อระบบความกดอากาศต่ำลง พายุไซโคลนนอกเขตร้อนก็ได้พัดผ่านซาฮาราพร้อมกับทำให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมในพื้นที่ขนาดใหญ่ในโมร็อกโก แอลจีเรีย ตูนิเซีย และลิเบีย

ตามข้อมูลใหม่จากอุปกรณ์ถ่ายภาพ ‘โมดิส’ หรือ MODIS (Moderate Resolution Imaging Spectroradiometer) บนดาวเทียมเทอร์ราของนาซา (NASA) ซึ่งทำการสำรวจภูมิภาคทะเลทรายซาฮาราช่วงราวเดือนสิงหาคมเป็นต้นมาก็ได้พบว่าเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2024 พื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือมีการสะท้อนแสงอินฟราเรดออกมาในช่วงสีน้ำเงินเข้มและฟ้าอ่อน

สัญญาณดังกล่าวบ่งชี้ว่าพื้นที่เหล่านั้นถูกปกคลุมด้วยน้ำ โดยเฉดสีน้ำเงินนั้นชี้ให้เห็นว่าน้ำมีความลึกมากเพียงใด อีกทั้งยังมีปริมาณตะกอนที่ลอยตัวอยู่พร้อมกับพืชพรรณต่าง ๆ ที่ปรากฏออกมาเป็นสีเขียว นับเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปีที่ซาฮาราเกิดฝนตกหนักจนน่าประหลาดใจ

“ผ่านมา 30 ถึง 50 ปีแล้วที่เราไม่มีฝนตกมากขนาดนี้ในช่วงเวลาสั้น ๆ” ฮูซีน ยูอาเบบ (Houssine Youabeb) จากสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของโมร็อกโกกล่าวกับเอพีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

จากข้อมูลทั้งดาวเทียมของนาซาและกรมอุตุฯ โมร็อกโก ระบุว่ามีฝนตกหนักเกือบ 8 นิ้วในบางส่วนของภูมิภาค ขณะที่เมืองออร์ราชิเดียซึ่งเป็นเมืองทะเลทรายทางตะวันออกเฉียงใต้ของโมร็อกโกก็สามารถบันทึกปริมาณน้ำฝนเกือบ 3 นิ้วไว้ได้ โดยส่วนใหญ่ตกภายในช่วงเวลาเพียง 2 วันเท่านั้น

สิ่งที่น่าตกใจก็คือตัวเลขดังกล่าวนั้นมากกว่าปริมาณน้ำฝนปกติที่ตกตลอดทั้งเดือนกันยายนถึง 4 เท่า และเทียบเท่ากับปริมาณน้ำฝนในพื้นที่นี้มากกว่าครึ่งปีถึง 1 ปีเต็ม ๆ กลายเป็นภาพที่ดูแปลกตาสำหรับทะเลทราย เนื่องจากน้ำฝนได้สร้างทิวทัศน์ที่ชุ่มไปด้วยน้ำท่วมท่ามกลางต้นปาล์มและพืชทนแล้ง

พร้อมกันนั้นก็ได้สร้างทะเลสาบน้ำชั่วคราวขึ้นมาที่มีทรายเป็นแนวกั้นล้อมรอบ ไม่เพียงเท่านั้นฝนตกไปเติมน้ำในทะเลสาบที่ปกติจะแห้งสนิทเช่น ทะเลสาบในอุทยานแห่งชาติอิริกี ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดของโมร็อกโก

อย่างไรก็ตามแม้ฝนจะสร้างบรรยากาศที่ชุ่มฉ่ำให้กับพื้นที่แห้งแล้งเหล่านี้ ทว่ามันก็ได้สร้างน้ำท่วมเมืองและหมู่บ้านต่าง ๆ ในโมร็อกโกอย่างรุนแรงจนทำให้มีผู้เสียชีวิตไปมากกว่า 12 ราย

แล้วอะไรเป็นสาเหตุของฝนตกหนักผิดปกติเช่นนี้? นักวิทยาศาสตร์ให้ความเห็นว่าอาจเป็นเพราะพายุไซโคลนนอกเขตร้อน

“แม้ว่าภูมิภาคนี้จะมีฝนตกในระดับหนึ่งทุก ๆ ฤดูร้อน แต่สิ่งที่ไม่เหมือนใครในปีนี้ก็คือพายุไซโคลนนอกเขตร้อน” โมเช อาร์มอน (Moshe Armon) อาจารย์อาวุโสแห่งสถาบันธรณีศาสตร์และมหาวิทยาลัยฮีบรูแห่งเยรูซาเล็ม กล่าว

พายุไซโคลนเขตร้อนก็เหมือนกับพายุหมุนอื่น ๆ ตรงที่เป็นระบบอากาศหมุนขนาดใหญ่ แต่สิ่งที่แตกต่างก็คือ พายุหมุนนี้เกิดขึ้นในละติจูดที่อยู่ห่างจากเส้นศูนย์ที่ที่มันเคยเกิดปกติมาก ซึ่งเกินกว่าละติจูด 30° เป็นต้นไป โดยมันสามารถเกิดขึ้นในทั้งทะเลหรือบนบกก็ได้เช่นกัน

ตามข้อมูลระบุว่าพายุไซโคลนที่พัดถล่มภูมิภาคทะเลทรายซาฮาราลูกนี้ได้เริ่มต้นก่อตัวเหนือมหาสมุทรแอตแลนติก และยังได้ดึงน้ำบางส่วนจากบริเวณเส้นศูนย์สูตรที่ชื้นกว่าของแอฟริกามากด้วย ทำให้มีปริมาณน้ำผิดปกติ

งานวิจัยเมื่อปี 2020 รายงานว่าทะเลทรายซาฮารานั้นเป็นทะเลทรายนอกขั้วโลกที่ใหญ่ที่สุดโลก โดยมีพื้นที่กว่า 9.3 ล้านตารางกิโลเมตรกำลังถูกคุกคามด้วยพายุซึ่งกำลังเคลื่อนตัวไปทางเหนือมากขึ้น โดยได้รับอิทธิพลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ

ดังนั้นจึงเป็นไปได้อย่างยิ่งที่ในอนาคตภูมิภาคแห่งนี้จะมีฝนตกหนักบ่อยครั้งมากขึ้นเนื่องจากภาวะโลกร้อน ซึ่งไปเพิ่มการระเหยของน้ำในที่อื่นและทำให้มีความชื้นในอากาศมากขึ้น

“ในอนาคต ภูมิภาคซาฮาราและซาเฮล (Sahelian regions) อาจประสบกับปริมาณน้ำฝนที่มากกว่าในปัจจุบัน อันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ” รายงานเมื่อปี 2020 ระบุ

“รายงานของเราเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของภูมิภาคซาฮารา-ซาเฮลในระบบภูมิอากาศและการเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นของ WAM (พื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) สามารถส่งผลกระทบแบบลูกโซ่ที่รบกวนทั้งสภาพภูมิอากาศในภูมิภาคและในสถานที่ห่างไกลเช่นอาร์กติกหรือแปซิฟิกบริเวณเส้นศูนย์สูตรได้” ทีมวิจัยสรุป

สืบค้นและเรียบเรียง วิทิต บรมพิชัยชาติกุล

ภาพ : NASA

ที่มา

https://www.cell.com/one-earth/fulltext/S2590-3322(20)30100-7?sf233467230=1

https://edition.cnn.com/2024/10/14/weather/sahara-desert-floods-climate/index.html

https://earthobservatory.nasa.gov/images/153320/a-deluge-for-the-sahara

https://www.iflscience.com/rare-heavy-rainfall-sees-sahara-flood-for-first-time-in-decades-76356

https://www.theguardian.com/environment/2024/oct/11/dramatic-images-show-the-first-floods-in-the-sahara-in-half-a-century


อ่านเพิ่มเติม : บทเรียนจากป่าน้ำท่วมถึง และ “ชาวแม่น้ำ” แห่งแอมะซอน เปลี่ยนมุมมองนักนิเวศวิทยา

 

Recommend