ล่องเรือไปตั้งแคมป์แบบไม่ค้างคืนริม “แม่น้ำบีคลี่” สำรวจธรรมชาติลำน้ำสำคัญของสังขละบุรีที่บางจุดพบได้เฉพาะในฤดูฝน

ล่องเรือไปตั้งแคมป์แบบไม่ค้างคืนริม “แม่น้ำบีคลี่” สำรวจธรรมชาติลำน้ำสำคัญของสังขละบุรีที่บางจุดพบได้เฉพาะในฤดูฝน

สังขละบุรีไม่ได้มีไฮไลต์แค่สะพานมอญ เจดีย์พุทธคยา หรือวัดจมน้ำ หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าแม่น้ำบีคลี่ซึ่งยังไม่เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวเท่าสถานที่ที่กล่าวถึงข้างต้น ก็มีจุดกางเต็นท์บนสันทรายและหินกรวดหลายจุด มีน้ำตกเล็ก ๆ ที่เราสามารถเดินเท้าขึ้นไปนั่งแช่กายคลายร้อนได้ไม่ยาก รวมถึงมีบางช่วงของแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวจนสามารถพายเรือคายัคล่องไปตามกระแสซ่อนอยู่


.
ลำน้ำสายนี้ในช่วงฤดูฝนจึงเหมาะมากสำหรับ Explorer สายลุยทุกคน ทั้งการเที่ยวไปเช้า-เย็นกลับแบบ One-Day Trip หรือค้างแรมตั้งแคมป์ซึมซับบรรยากาศป่าเขียวที่ตัดขาดจากโลกโซเชียลโดยสิ้นเชิง


แม่น้ำบีคลี่ คือหนึ่งในสามแม่น้ำสายสำคัญของอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเมื่อไหลมารวมกับแม่น้ำรันตี และแม่น้ำซองกาเรีย บริเวณวัดวังก์วิเวการาม ที่เรียกกันว่า “สามสบ” หรือ “สามประสบ” จะกลายเป็นต้นน้ำของแม่น้ำแควน้อย
.
ในช่วงฤดูฝนระดับน้ำในแม่น้ำบีคลี่จะค่อนข้างสูงและไหลเชี่ยวในบางช่วง ลำพังการพายเรือทวนกระแสน้ำด้วยฝีพายของพวกเราเองอาจไปไม่ถึงจุดหมาย ดังนั้นในวันออกสำรวจเส้นทางธรรมชาติ พวกเราจึงตัดสินใจเช่าเหมาเรือหางยาวของชาวบ้านเป็นพาหนะหลัก เพื่อบรรทุกเรือคายัคสองลำล่องสวนกระแสไปตามลำน้ำที่อยู่ลึกเข้าไปข้างใน


เรือหางยาวลำนี้พาเราออกจากที่พักที่บ้านแม่น้ำ แล่นผ่านสามประสบ ผ่านจุดสกัดทางน้ำปากห้วยบิคลี่เข้าสู่ช่องเขาที่เต็มไปด้วยแมกไม้ชะอุ่มเขียวและไม่คดเคี้ยวมากนัก ผ่านจุดที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “ศาลเจ้าพ่อประตูเมือง” จนไปเจอทุ่งมาลัย ทุ่งกว้างที่เต็มไปด้วยต้นไมยราพที่จมอยู่ใต้ผิวน้ำ ซึ่งเมื่อเข้าสู่ฤดูแล้งที่น้ำแห้งเหือด นอกจากกิ่งก้านสาขาของไมยราพจะโผล่พ้นน้ำอีกคราว ผืนดินบริเวณนี้ยังจะกลายเป็นจุดที่ชาวบ้านมักพาวัวออกมากินหญ้าเกิดเป็นห่วงโซ่ของระบบนิเวศ

บริเวณ“ศาลเจ้าพ่อประตูเมือง”

เศษมูลวัวกลายเป็นแหล่งอาหารชั้นดีของเหล่าปลาเค้าดำ ปลาอีทุบ ปลายี่สก ฯลฯ ที่จะว่ายทวนน้ำจากอ่างเก็บน้ำเขาแหลมมาวางไข่ในฤดูน้ำหลาก นี่จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่แม่น้ำบีคลี่ถูกประกาศให้เป็นเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ และไม่อนุญาตให้จับปลาหรือทำประมงน้ำจืดในฤดูวางไข่อย่างเด็ดขาด เพื่อรักษาระบบนิเวศอันสมบูรณ์นี้ให้คงอยู่ตลอดไป
.
ส่วนจุดหมายของเราในทริปนี้ คือการไปพักตั้งแคมป์ชั่วคราวบนสันทรายบริเวณโค้งน้ำใกล้กับน้ำตก เพื่อนำเรือคายัคลงไปพายล่องไปในจุดที่กระแสน้ำไหลเชี่ยว รวมถึงลองพายไปชมความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าในบางช่วงที่กระแสน้ำนิ่งสงบ ซึ่งจะพายได้ง่ายและปลอดภัยกว่า (สำคัญมากในกรณีผู้ร่วมทริปไม่เชี่ยวชาญการพายเรือ)

ยิ่งเราเข้าไปลึกเท่าไรก็ยิ่งอับสัญญาณโทรศัพท์ การติดต่อทางไกลจึงเป็นเรื่องยากสักหน่อย แต่คนที่ตั้งใจจะค้างแรมหรือตั้งแคมป์สักคืนก็ไม่ต้องห่วงไป เพราะเรือนำเที่ยวหรือนำส่งเราไปยังจุดกางเต็นท์จะจอดพักอยู่กับเราตลอดคืน (หากมีเหตุฉุกเฉินหรือใครเกิดเปลี่ยนใจอยากกลับเข้าเมืองกลางคันก็มีทางเลือก)
.
แม้ว่าสังขละบุรีจะเป็นอำเภอที่สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ใครที่อยากมาลองล่องเรือเที่ยวแม่น้ำบีคลี่ในฤดูฝนแบบพวกเรา แนะนำให้มาเที่ยวช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคม ถึงตุลาคม แม้แดดจะแรงสักหน่อยแต่อากาศไม่ร้อนอบอ้าวเท่าฤดูร้อน แถมในเวลาเช้าตรู่ของที่นี่ยังจะได้เห็นม่านหมอกลอยปกคลุมยอดเขาสวยงามจนอิ่มเอมใจเลยล่ะ

การล่องเรือสำรวจแม่น้ำบีคลี่เป็นส่วนหนึ่งในโปรเจ็กต์พิเศษที่บ้านและสวน Explorers Club ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ชักชวน 10 บล็อกเกอร์สายท่องเที่ยวออกไปประสบ ‘กาญจน์’ ใหม่กับ 12 หมุดหมายสำคัญด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อสัมผัสประสบการณ์หาจุดกางเต็นท์ ปีนเขา วิ่งเทรล ปั่นจักรยาน พายเรือคายัค และอีกหลากหลายกิจกรรมใน 5 อุทยานแห่งชาติ 2 เขื่อน 5 แม่น้ำที่จะทำให้การออกจากบ้านเที่ยวนี้ได้อะไรกลับมามากกว่าที่คิด ติดตามอ่านเรื่องราวทั้งหมดได้ทุกวันอังคารและศุกร์ ต่อเนื่องไปทุกสัปดาห์ตลอดเดือนกันยายน ตุลาคม และพฤศจิกายนนี้
.
ขอบคุณ Thailandoutdoor Shop พันธมิตรของเราที่เอื้อเฟื้อเรือคายัค รวมถึงอุปกรณ์แคมปิ้งอย่างเต็นท์ ทาร์ป และเก้าอี้สนาม ให้เรามาลองใช้งานตลอดทริป ติดต่อสอบถามได้ที่ 09-0927-7897 เว็บไซต์ www.thailandoutdoorshop.com
.
EXPLORERS: เฟี้ยต, บาส, ต้น, ปิง, นัท, หมวย
ตามรอยเราไปล่องเรือเที่ยวแม่น้ำบีคลี่ ติดต่อพี่ยุ คนขับเรือ โทร. 09-2327-4181

Recommend