การมาเที่ยวสังขละบุรีช่วงปลายฝนในครานี้ พวกเราเลือกที่จะเที่ยวติดน้ำเสียเป็นส่วนใหญ่และได้ไปล่องแม่น้ำสำคัญมาครบทั้งสามสายภายใน 3 วัน ไล่จาก ‘บีคลี่’ ที่แอดเวนเจอร์สุด ๆ
ในวันแรก ‘รันตี’ ที่สงบเงียบสุดขั้วในวันต่อมา แล้วจบท้ายที่ซองกาเรีย ที่ดูโรแมนติกกว่าใครแบบแอบลุ้นนิด ๆ ว่าฝนจะตกไหมในช่วงเย็นก่อนถึงวันสุดท้าย
เพราะเป้าหมายสูงสุดของเราคือการยืนดูพระอาทิตย์ตกจากใต้สะพานอุตตมานุสรณ์ หรือ ‘สะพานมอญ’ และเอาเข้าจริง ๆ พวกเราก็โชคดีมาก ๆ ที่วันนั้นฟ้าเป็นใจ ได้พาย SUP ลอดใต้สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในไทย ไปยืนดูแสงสุดท้ายของพระอาทิตย์ที่ค่อย ๆ แอบไปหลับหลังภูเขาสมใจอยาก
.
#นอนติดแม่น้ำ
อันที่จริงสถานที่ที่ทำให้เราได้เห็นบรรยากาศของสะพานมอญซึ่งคลุ้งไปด้วยม่านหมอกยามเช้า แต่กลับมามีแสงแดดจ้าในตอนบ่าย ก่อนเมฆครึ้มและมีฝนโปรยปรายหนาเม็ดในตอนเย็นลากยาวไปจนค่ำมืดได้จากปลายเตียงนอน ตั้งแต่มาถึงสังขละบุรีวันแรกก็คือ ‘บ้านแม่น้ำ’
70 ปีเศษคืออายุของอาคารไม้ยกใต้ถุนสูงริมแม่น้ำซองกาเรียหลังนี้ ซึ่งมีอดีตเป็นโรงงานผลิตไม้ขีดไฟและโกดังเก็บของที่ถูกปล่อยทิ้งร้างอยู่พักใหญ่ ก่อนที่ เรืองกิตติ์ รักกาญจนันท์ เจ้าของสำนักพิมพ์ผจญภัย จะเข้ามาชุบชีวิตใหม่อีกครั้ง
โดยได้ พิศิษฐ์ ทองดา นักออกแบบจาก SMO Design Studio มาช่วยปรับเปลี่ยนแปลงสภาพอาคารเก่าให้กลายเป็นเกสต์เฮ้าส์เคล้าวิวทิวเขา เรือนแพ และแม่น้ำที่สามารถแลมองเรือหางยาวแล่นผ่านได้ทุกโมงยาม มองเห็นเจดีย์พุทธคยาสีทองอร่ามโผล่กลางแมกไม้ครึ้มเขียวบนฝั่งกระโน้น เรื่อยไปจนถึงนั่งมองสะพานไม้จากน้ำพักน้ำแรงแห่งศรัทธาได้ถนัดตาจากริมระเบียงห้องพัก
บ้านแม่น้ำ แดดเช้า หัวใจห้องที่ห้า และเพียงความเคลื่อนไหว เป็นเพียง 4 ห้องพักชื่อไพเราะที่รองรับจำนวนผู้มาเยือนได้ราวสิบกว่าชีวิตเท่านั้น ที่นี่จึงไม่วุ่นวาย ไม่พลุกพล่าน และที่สำคัญคือเงียบพอที่จะหยิบหนังสือดี ๆ สักเล่มที่วางเรียงอยู่บนโต๊ะภายในห้องพักมานอนอ่าน
.
โดยเฉพาะ ‘สะพาน บ้าน แม่น้ำ และความรัก’ หนังสือที่ตัวอักษรบนหน้ากระดาษจะทำให้เราได้รู้จักสังขละบุรีผ่านมุมมองอันหลากหลายจากปลายปากกานักเขียนมากหน้าหลายตาด้วยกันมากขึ้นกว่าเดิม
.
#ยืนบนแม่น้ำ
หลังจากตื่นแต่เช้ามืดเพื่อไปพายเรือคายัคล่องแม่น้ำรันตีจนถึงช่วงสายในวันที่สอง ตกเย็นราวห้าโมงตรงเห็นจะได้ เรามองเห็นท้องฟ้าที่ค่อนข้างเปิด ประกอบกับเรี่ยวแรงของพวกเรายังเหลือเพียงพอที่จะเปลี่ยนแผนนำกระดานยืนพาย หรือ SUP ที่ Paddle More Thailand อีกหนึ่งพันธมิตรใจดีจากตัวเมืองกาญจน์ ที่ให้เราหยิบยืมมาลงน้ำทำกิจกรรม Standup Paddleboarding ถึงซองกาเรีย ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีเราตั้งใจจะพายในวันสุดท้ายลงน้ำทันที เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าพรุ่งนี้ฝนจะตกหรือไม่
หลังจากช่วยสูบลมจนเสร็จ พวกเราก็แบกมันลงน้ำที่ท่าน้ำหน้าที่พัก แล้วชวนกันพายข้ามไปเทียบท่ายังบวบไม้ไผ่ริมตลิ่งฝั่งหมู่บ้านชาวมอญที่อยู่อีกฟาก แล้วรอจังหวะที่เรือหางยาวแล่นผ่านไปจนคลื่นสงบ พายลอดใต้สะพานมอญไปดูพระอาทิตย์ตกหลังภูเขา ใช้เวลาดื่มด่ำกับแสงสีทองที่ค่อย ๆ จางลงจนฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินสลัว จึงพายกลับมาที่บวบไม้ไผ่แล้วยกเรือขึ้นมาพับเก็บ เพื่อกลับไปพักผ่อนที่บ้านแม่น้ำในคืนสุดท้าย
.
แนะนำว่าให้นำ SUP มาเองจะดีที่สุด เพราะเท่าที่เราหาข้อมูลมาได้ ก็ยังไม่พบเจ้าไหนในสังขละบุรีมีบริการ SUP ให้เช่านะ ส่วนใครที่ไม่มีเป็นของตัวเอง ก็สามารถแวะติดต่อขอเช่าที่ Paddle More Thailand จากตัวเมืองกาญจน์ก่อนมาที่นี่เหมือนเราได้เลยก็ได้
.
#เดินข้ามแม่น้ำ
เช้าวันกลับพวกเรา บ้านและสวน Explorers Club มีนัดกับเพื่อนร่วมทริปคือบาส กับเมษา จากเพจ lbzero ที่ตามมาสมทบในวันสุดท้าย
แน่ล่ะ มาถึงสังขละบุรีแล้วจะไม่มาเดินเล่นบนสะพานมอญ ซึ่งเป็นสะพานไม้ยาวที่สุดในประเทศไทย ก็กระไรอยู่ หลังจากตื่นแต่เช้ามืด นั่งเรือจากบ้านแม่น้ำมาใส่บาตรฝั่งชุมชนชาวมอญ กินโจ๊กร้อน ๆ คู่กับปาท่องโก๋ และกาแฟดำที่ร้านอาหารมอญจนอิ่มหนำ พวกเราจึงชวนกันไปเดินเล่นบนสะพานมอญ ตลอดความยาว 447 เมตร
.
พวกเราเพลินมากกับการชมบรรยากาศยามเช้าของแม่น้ำซองกาเรียที่ไหลจากลำห้วยโรคี่ในทุ่งใหญ่นเรศวร ผืนป่าและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฝั่งทิศตะวันตกของจังหวัดกาญจนบุรี ผ่านหมู่บ้านชาวไทยเชื้อสายกระเหรี่ยง มาตัดแบ่งตัวเมืองสังขละบุรีออกเป็นสองฟากฝั่งช่วงปลายน้ำ ก่อนไหลไปบรรจบกับแม่น้ำบีคลี่ และรันตี ที่สามสบ ซึ่งสามารถมองเห็นได้ไกล ๆ จากตรงนี้
.
เราคงไม่แปลกใจนักหากจะมีใครหลงใหลเมืองขอบชายแดนไทย-พม่าแห่งนี้เมื่อได้เห็นวิถีชีวิตแสนเรียบง่าย เห็นความสงบเงียบแต่เพียบด้วยเสน่ห์ หรือว่าเห็นความสมบูรณ์ของธรรมชาติทั้งป่าเขาและลำน้ำทั้งสามสาย เพราะพวกเราก็เป็นและยังคงคิดถึงช่วงเวลาที่ได้เห็นตะวันลับฟ้ากลางแม่น้ำซองกาเรียมาจนถึงตอนนี้
.
การออกสำรวจแม่น้ำซองกาเรีย เป็นส่วนหนึ่งในโปรเจ็กต์พิเศษที่บ้านและสวน Explorers Club ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ชักชวน 10 บล็อกเกอร์สายท่องเที่ยว ออกไปประสบ ‘กาญจน์’ ใหม่ กับ 12 หมุดหมายสำคัญด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อสัมผัสประสบการณ์หาจุดกางเต็นท์ ปีนเขา วิ่งเทรล ปั่นจักรยาน พายเรือคายัค และอีกหลากหลายกิจกรรมใน 5 อุทยานแห่งชาติ 2 เขื่อน 5 แม่น้ำ ที่จะทำให้การออกจากบ้านเที่ยวนี้ได้อะไรกลับมา มากกว่าที่คิด
EXPLORERS: เฟี้ยต, บาส, ต้น, ปิง, นัท, หมวย จากทีมบ้านและสวน Explorers Club และบาส กับเมษา จาก lbzero
ติดตาม lbzero ไปเที่ยวได้ที่ Facebook: https://www.facebook.com/lbzero
IG: https://www.instagram.com
Youtube: https://www.youtube.com/lbzero
ขอขอบคุณ บ้านแม่น้ำ สำหรับที่พักสบาย ๆ บรรยากาศดี เงียบสงบและเป็นส่วนตัว สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 087-5199150 หรือที่ Facebook : BanMaeNamSangklaburi
และขอบคุณ Paddle More Thailand – พาย SUP กาญจนบุรี ติดต่อได้ที่โทร. 08-5299-8329 เว็บไซต์ https://www.paddlemorethailand.com และเฟซบุ๊ค https://www.facebook.com/PaddleMoreTh