เปิดตัวค่ายเยาวชนต้านโลกร้อน ผ่านการเรียนรู้ธรรมชาติ-ภูเขา-ทะเล

เปิดตัวค่ายเยาวชนต้านโลกร้อน ผ่านการเรียนรู้ธรรมชาติ-ภูเขา-ทะเล

สิงห์ เอสเตท เปิดตัวโครงการ SeaYouTomorrowCamp: Fighting Climate Crisis ค่ายเยาวชนต้านวิกฤตโลกร้อน เพื่อการเรียนรู้ธรรมชาติ เปิดโลกทัศน์ ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อโลก

เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 สิงห์ เอสเตท จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ SeaYouTomorrowCamp: Fighting Climate Crisis ค่ายผู้นำเยาวชน ต้านวิกฤต รวมพลังต้านวิกฤตโลกร้อน ซึ่งเป็นโครงการที่ร่วมมือกับศูนย์สิ่งแวดล้อมศึกษาประเทศไทย (Environmental Education Centre – EEC THAILAND)

โครงการนี้เปิดโอกาสให้เยาวชนจากพื้นที่ชุมชนเมือง ภูเขา และทะเล ได้ผสานการเรียนรู้ร่วมกันในห้องเรียนธรรมชาติ อันประกอบไปด้วยพื้นที่ภูเขา ทะเล จากผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อม มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจและตระหนักรู้ให้เยาวชนได้เห็นถึงความสัมพันธ์กันของธรรมชาติ ป่าไม้ และทะเล รวมทั้งผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ ภาวะโลกร้อนที่รุนแรง ซึ่งเกิดจากมนุษย์ รวมไปถึงการปลูกฝังจิตสำนึกเรื่องการอนุรักษ์เพื่อให้เยาวชนได้นำไปปฏิบัติและส่งต่อองค์ความรู้จนเกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับโลก และแก้ไขวิกฤตโลกร้อนในอนาคต

อเล็กซ์ เรนเดลล์ ผู้ร่วมก่อตั้ง EEC THAILAND และ โอปอล์ ปาณิสรา และ  ผศ.ดร. ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์

นอกจากนี้ โครงการนี้ สิงห์ เอสเตท ร่วมมือกับพันธมิตรที่ต่างเล็งเห็นถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อม ทั้งบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) และเทศกาลหนังสั้น ‘โลกป่วย เราต้องเปลี่ยน 2563’ หรือ Changing Climate, Changing lives (CCCL) Film Festival 2020 ที่ต่างส่งผู้บริหารเข้ามาร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ เพื่อแสดงถึงความตั้งใจในการดำเนินโครงการ

ภายในงานมีการสนทนาบนเวทีเรื่องความสัมพันธ์ของระบบนิเวศ กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดย ผศ.ดร. ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม และดารานักแสดงที่มากล่าวถึงความสำคัญในการปลูกฝังเรื่องสิ่งแวดล้อมให้กับเด็กและเยาวชน ทั้ง อเล็กซ์ เรนเดลล์ ผู้ร่วมก่อตั้ง EEC THAILAND และ โอปอล์ ปาณิสรา พิธีกร นักแสดง ที่มาในฐานะตัวแทนของคุณแม่ที่ให้ความสำคัญในการปลูกฝังลูกๆ ในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

ผศ.ดร. ธรณ์ กล่าวเน้นถึงความสำคัญในการลดการปล่อยคาร์บอนให้เป็นไปตามข้อตกลงปารีส (ตั้งเป้าควบคุมอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นเกิน 2 องศาเซลเซียส จากระดับอุณหภูมิช่วงก่อนยุคอุตสาหกรรม และพยายามจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิ 1.5 องศาเซลเซียส จากระดับอุณหภูมิช่วงก่อนยุคอุตสาหกรรม) ที่ยังตามหลังเป้าหมายที่ตั้งไว้อยู่อีกมาก จนก่อให้เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมมากมาย แม้ในปัจจุบันจะมีการดำเนินมาตรการเพื่อสิ่งแวดล้อมอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ต้องมีการก้าวไปอีกขั้นเพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้

ผศ.ดร. ธรณ์ กำลังบรรยายเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

โดย ผศ.ดร. ธรณ์ ได้เน้นถึงความเกี่ยวข้องกันของระบบนิเวศระหว่างป่าและทะเล ซึ่งการจัดค่ายที่นำพาเยาวชนออกไปเดินป่าและทะเล จะช่วยทำให้พวกเขารู้ว่า ควรทำอย่างไรกับระบบนิเวศเหล่านี้เพื่อช่วยแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ด้าน อเล็กซ์ เรนเดลล์ กล่าวถึงความสำคัญของการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมของเด็กๆ ว่าสามารถมีส่วนช่วยเหลือและส่งเสริมธรรมชาติได้ ตัวเขาในฐานะผู้ร่วมก่อตั้ง EEC THAILAND รู้สึกดีใจที่ทางสิงห์ เอสเตท ได้เข้ามาร่วมมือเพื่อสร้างโครงการนี้ และอเล็กซ์มองว่าไม่จำเป็นต้องรอให้เด็กโตเป็นผู้ใหญ่ พวกเขาสามารถเรียนรู้และปลูกฝังเรื่องสิ่งแวดล้อมเพื่อช่วยเหลือโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชนคนท้องถิ่น เมื่อเขาได้เรียนธรรมชาติที่เป็นบ้านของเขา ก็จะมีความต้องการในการรักษาธรรมชาติบ้านเกิดอย่างต่อเนื่องและได้ผล

บรรดาผู้บริหารจากหน่วยงานที่มีส่วนร่วมในโครงการนี้กล่าวถึงความสำคัญในการทำโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อม

ส่วน โอปอล์ ปาณิสรา ตัวแทนคุณแม่ มองว่าเด็กๆ คือผู้ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ โดยการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนคือการศึกษา เนื่องจากพวกเขาต้องเป็นกลุ่มคนที่ดูแลโลกต่อไป จึงต้องทำให้เด็กๆ ตระหนักรู้ว่าธรรมชาติมีความสำคัญอย่างไร โดยเด็กที่ตระหนักรู้ ก็จะมีผลเปลี่ยนแปลงไปยังพ่อและแม่ด้วย ดังนั้นเด็กๆ ก็คือความยั่งยืนของโลกในอนาคต

นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) และ อเล็กซ์ เรนเดลล์ ผู้ร่วมก่อตั้ง EEC THAILAND 

ในส่วนของผู้บริหาร นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงปรัชญาของสิงห์ เอสเตทที่ยึดมั่นการสร้างการเติบโตชองธุรกิจควบคู่ไปกับการสร้างความยั่งยืนให้กับสร้างคว่ามยั่งยืนให้กับชุมชนและสิ่งแวดล้อม ทางสิงห์ เอสเตท มองว่ากลุ่มเยาวชนเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญ เพราะมีศักยภาพในการสร้างความเปลี่ยนแปลงและมีความสนใจในเรื่องการอนุรักษ์ ดังนั้นในฐานะผู้ใหญ่ ควรถ่ายทอดองค์ความรู้ ประสบการณ์ เพื่อพัฒนาคนรุ่นใหม่ให้สานต่องานด้านอนุรักษ์ต่อไป

รายละเอียดโครงการค่ายผู้นำเยาวชนครั้งนี้แบ่งออกเป็น 2 แคมป์ คือ

– แคมป์ภูเขา จะจัดขึ้นที่จังหวัดเชียงราย ระหว่างวันที่ 16-19 มีนาคม 2563
– แคมป์ทะเล จะจัดขึ้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 28-31 พฤษภาคม 2563

โดยตั้งเป้าผู้ร่วมโครงการ 36 คน เป็นเยาวชนอายุ 12-16 ปี โดยการรับสมัครมีเกณฑ์แบ่งคัดเลือกเยาวชนจาก 3 พื้นที่คือ เมือง ภูเขา และทะเล เพื่อเข้าร่วมทำกิจกรรมและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างหลากหลาย ซึ่งคัดเลือกเยาวชนที่สนใจจากการส่งเรียงความออนไลน์ ภายในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2563

สามารถรับทราบความเคลื่อนไหวและข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการค่ายเยาวชนในครั้งนี้ได้ที่เว็บไซต์ www.seayoutomorrow.org

ภาพถ่าย: ปรมัตถ์ เริงศาสน์
โครงการนักศึกษาฝึกงาน กองบรรณาธิการ นิตยสารเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ฉบับภาษาไทย

Recommend