ชีวิตตกค้างระหว่างอดีตกับปัจจุบันใน สก็อตแลนด์ เรื่อง : เย หมิง
ภาพถ่าย : เลติเชีย วองกง
ถ้าลองเสิร์ชชื่อ “Western Isles” หรือที่รู้จักกันว่า “Outer Hebrides” จะพบภาพชวนฝันเต็มไปหมด เขตดังกล่าวถูกเอเจนซีท่องเที่ยวแปะยี่ห้อให้เป็นสวรรค์ด้วยชายฝั่งทะเลห่างไกลใต้ฟ้ากว้าง ที่นี่ยังเป็นเพียงสถานที่ไม่กี่แห่งที่คนยังพูดภาษาเกลิกเป็นหลัก เมื่อได้ยินกิตติศัพท์ดังกล่าว เลติเชีย วองกง ช่างภาพฝรั่งเศสต้องแปลกใจเมื่อเธออ่านหนังสืออัตชีวประวัติของนักเขียนชาวสก็อต เควิน แมคนีล เรื่อง The Stornoway Way ที่ผู้เขียนวาดภาพ “เกาะตะวันตก” ว่าเป็นสถานที่โดดเดี่ยวที่ผู้คนต้องดิ้นรนกับโรคพิษสุราเรื้อรังและความอลหม่าน ความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงที่บรรยายไว้ในหนังสือเล่มดังกล่าวกับในแผ่นพับท่องเที่ยวที่พาให้วองกงเดินทางไปยังเกาะเหล่านั้นหลายครั้งหลายครา
วองกงพยายามทิ้งภาพในใจเกี่ยวกับเกาะเหล่านี้และพยายามเข้าใจความเป็นไปของชุมชนให้ได้มากที่สุด การเดินทางด้วยการพักฟรีตามบ้านแบบ couch-surfing ทำให้เธอได้พบกับหนุ่มสาวชาวสก็อตรุ่นใหม่อายุ 18-35 และชวนพวกเขามาถ่ายภาพ สำหรับวองกงการฟังเสียงสะท้อนจากบุคคลที่เธอถ่ายภาพเป็นเรื่องสำคัญ “สิ่งสำคัญคือพวกเขารู้สึกภาพพอร์เทรตเหล่านี้สื่อความหมายแทนชีวิตของชีวิตบนเกาะได้” วองกงกล่าว
เจ้าบ้านที่เธอไปพำนักคนหนึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้เธอทำโปรเจ็กต์ “At the End of the Day” ซึ่งมาจากวลีภาษาเกลิก “Aig deireadh an latha” ซึ่งคนท้องถิ่นใช้เพื่อสะท้อนถึงวันที่ผ่านมาและมองไปข้างหน้าในขณะเดียวกัน วองกงพบว่าหลังจากใช้เวลา 2 เดือนคือกลุ่มเยาวชนที่หยั่งรากกับมรดกทางวัฒนธรรมจนดึงเอาความแข็งแกร่งของชุมชนออกมาได้ เด็กกลุ่มนี้มารวมกันได้เพราะดนตรีเกลิก โบสถ์ และกีฬาที่คล้ายฮ็อกกี (shinty) การทำเกษตรเลี้ยงสัตว์ปลูกพืชผักโดยกลุ่มเกษตรกรบนที่ดินที่ใช้ร่วมกัน (crafting) ก็เป็นวิถีท้องถิ่นสำคัญที่ทำให้คนได้พบปะสังสันทน์กัน แต่กระนั้นคนหนุ่มสาวก็พบว่าชุมชนขนาดเล็กที่แน่นแฟ้นนี้ทั้งมีพลังทั้งน่าอึดอัด
การขาดการศึกษาระดับสูงของเกาะตะวันตกผลักให้คนหนุ่มสาวต้องออกเดินทางไปเมืองใหญ่ เช่น เอดินเบอระและกลาสโกว์ในเขตไฮแลนด์ หลายคนยังทำงานอยู่ในเมืองเหล่านั้นหลังเรียนจบปริญญาแล้ว เศรษฐกิจตามเขตชายฝั่งของสก็อตแลนด์มักอยู่บนฐานของอุตสาหกรรมที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ประมงและการขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่ง นั้นมักเปราะบางและมีวัฒนธรรมชายเป็นใหญ่ ผู้หญิงจึงมีแต่งานสอนหนังสือ พยาบาล และบริหารจัดการเท่านั้น บนเกาะที่มีประชากรน้อยแห่งนี้ พวกผู้หญิงต้องรอนานเป็นปีๆ กว่าตำแหน่งงานที่เธอต้องการจะเปิดรับ วองกงบอกว่า “พวกผู้หญิงกำลังจากไปและพวกเธอสร้างชีวิต”
ทั้งที่จำนวนประชากรของสก็อตแลนด์กำลังเพิ่มขึ้นข้น แต่ชุมชนบนเกาะหลายแห่งกลับมีขนาดเล็กลงทุกในทศวรรษที่ผ่านมา ในปี 2015 เกาะตะวันตกมีผู้อยู่อาศัย 27,070 คน ในจำนวน 15 เกาะ มีเพียงเกาะเลวิสเท่านั้นที่มีจำนวนประชากรมากพอจะรักษาพลวัตทางสังคมและควบคุมการโยกย้ายของประชากรได้
ชะตากรรมของเกาะกำลังไม่แน่นอนขึ้นเรื่อยๆ หลังออกจากสหภาพยุโรป แต่เดิมเกาะเหล่านี้ได้รับเงินสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานจากยุโรปเช่นถนนและท่าเรือเฟอรี ทำให้เกาะเหล่านี้เข้าถึงในทศวรรษที่ผ่านมา “หากขาดโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อมโยงระหว่างเกาะกับแผ่นดินใหญ่ คนหนุ่มสาวที่นี่ก็จะอยู่ลำบากและเปราะบางยิ่งขึ้น” วองกงกล่าว
กระนั้นชาวเกาะส่วนใหญ่ก็ยังเลือกจะอยู่ที่นี่ และมีคนซึ่งเคยใช้ชีวิตอยู่ในเมืองกลับมาไม่เคยขาด “พวกเขารู้สึกว่าไม่มีตัวตนและโดดเดี่ยวในเมืองใหญ่” ด้วยความอ่อนไหวเช่นนี้ วองกงสร้างภาพของเกาะตะวันตกซึ่งทั้งเปี่ยมด้วยความงดงามไม่อาจลืม
อ่านเพิ่มเติม : ชีวิตครึ่ง แต่คุ้มค่า, ภาพถ่ายบุคคลแห่งความหวังและการฟื้นตัวหลังจากเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์