ความเชื่อและการศึกษาเรื่อง กลุ่มดาว
นับตั้งแต่มนุษย์ดำรงอาศัยอยู่บนโลกใบนี้ ปริศนาของวัตถุบนท้องฟ้าเป็นสิ่งที่ถูกให้ความสำคัญตลอดมา ผู้คนเฝ้ามองผืนฟ้าอันกว้างใหญ่ ทำการจดจำและบันทึกการปรากฏขึ้นของ กลุ่มดาว และใช้แสงสว่างเล็กๆ เหล่านี้เป็นเครื่องเตือนเวลา และนาฬิกาที่บ่งบอกการผันเปลี่ยนของฤดูกาล ใช้เป็นเข็มทิศนำทาง รวมถึงการนำโลกของดวงดาวมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ตำนาน และนิทานพื้นบ้านในหลากหลายวัฒนธรรม
มนุษย์ทำการรวบรวมดวงดาวที่ส่องสว่างเหล่านี้เข้ามาไว้ด้วยกันตามความคิด จินตนาการและความเชื่อ จนกลายเป็นต้นกำเนิดของ “กลุ่มดาว” มากมายที่เรารู้จักในปัจจุบันนี้
กลุ่มดาว (Constellations) คือ กลุ่มของดาวฤกษ์ที่ถูกกำหนดขึ้น ผ่านการเชื่อมต่อกันเป็นรูปร่างต่างๆ ตามจินตนาการในอวกาศสามมิติ ซึ่งในอดีตมนุษย์เราเชื่อว่าดวงดาวแต่ละดวงถูกตรึงไว้บนผิวของทรงกลมขนาดใหญ่ที่เรียกว่า “ทรงกลมท้องฟ้า” (Celestial sphere) โดยอยู่ห่างจากโลก ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางในระยะทางที่เท่ากัน จึงได้รวบรวมดวงดาวที่อยู่ใกล้เคียงกันเป็นกลุ่มตามจินตนาการ ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของ หรือเทพเจ้าในตำนาน เรียกรวมกันเป็นกลุ่มดาว
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ดวงดาวแต่ละดวงอยู่ห่างไกลกันมากในห้วงอวกาศ รวมถึงมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิง เช่น สี ขนาด รูปร่างและความสว่างของดาวแต่ละดวง แต่จากการที่ดวงดาวเหล่านี้ อยู่ห่างไกลจากโลกมากนัก มนุษย์จึงเห็นดวงดาวหยุดนิ่งอยู่กับที่ ทั้งๆ ที่ดาวฤกษ์ทุกดวงในจักรวาล มีการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วและทิศทางที่แตกต่างกันออกไปอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้กลุ่มดาวที่เราสังเกตเห็นในอดีตเมื่อหลายหมื่นปีก่อน มีระยะห่างระหว่างดาวแต่ละดวงหรือรูปร่างแตกต่างออกไปจากกลุ่มดาวที่เราพบเห็นในปัจจุบัน รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นอีกในอนาคตหลายหมื่นปีข้างหน้าอีกด้วย
ปัจจุบัน มีกลุ่มดาวที่มนุษย์ศึกษามีทั้งหมด 88 กลุ่มบนท้องฟ้า ซึ่งประกอบไปด้วย 48 กลุ่ม จากการค้นพบและจดบันทึกโดยชาวกรีก โรมัน และอียิปต์โบราณ เมื่อหลายพันปีก่อน และอีก 40 กลุ่ม เป็นกลุ่มดาวสมัยใหม่ที่ถูกค้นพบโดยนักดาราศาสตร์และนักผจญภัยชาวยุโรป ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกการสำรวจท้องฟ้าในซีกโลกใต้
ในช่วงศตวรรษที่สิบหกเป็นต้นมา กลุ่มดาวทั้ง 88 กลุ่ม ถูกบันทึกและทำการกำหนดขอบเขตที่แน่ชัดอย่างเป็นทางการ โดยสหพันธ์ดาราศาสตร์สากล (International Astronomical Union : IAU) ในปี 1929 ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของทรงกลมท้องฟ้าของโลก โดยมี 36 กลุ่มดาวอยู่บน “ซีกฟ้าเหนือ” (Northern hemisphere) และอีก 52 กลุ่มอยู่ทาง “ซีกฟ้าใต้” (Southern hemisphere)
นอกจากนี้ กลุ่มดาวทั้งหลายมีชื่อเรียกตามภาษากรีกและโรมันโบราณเป็นหลัก ขณะที่ชื่อดวงดาวประจำในแต่ละท้องถิ่นนั้น ได้รับการบันทึกเป็นชื่อกลุ่มดาวภายในประเทศ เช่น กลุ่มดาวนายพราน (Orion) หรือที่คนไทยเรียกว่า “กลุ่มดาวเต่า” นั่นเอง
อ่านต่อหน้า 2 เรื่องกลุ่มดาวและการเคลื่อนที่