135 ปี เนชั่นแนล จีโอกราฟิก มองอดีต-สู่ยุคใหม่ การสำรวจ โลก

135 ปี เนชั่นแนล จีโอกราฟิก มองอดีต-สู่ยุคใหม่ การสำรวจ โลก

มองหาหนทางสู่อนาคต – เราอาศัยอยู่ในยุคใหม่แห่ง การสำรวจ

การสำรวจ – มีพิพิธภัณฑ์เพียงแห่งเดียวบนเส้นทางออริกอนเทรลสายเก่าที่บอกเล่าเรื่องราวการขยายเมืองไปทางตะวันตกของอเมริกาผ่านสายตาผู้คนที่ดินแดนถูกรุกลํ้า ห้องแสดงภาพผนังกรุไม้ที่เชื่อมต่อกันเหมือนโพรงกระต่ายและสิ่งจัดแสดงที่โต้ตอบกับผู้ชมได้เฉลิมฉลองมรดกของชนพื้นเมืองอเมริกัน และไว้อาลัยแด่สิ่งที่ถูกทำลายเมื่อเหล่าผู้บุกเบิกมาถึง ผู้มาเยือนที่เดินตามทางลาดยาวจะผ่านเข้าสู่ผนังอิฐด้านหน้าของ “โรงเรียนฝึกอินเดียนแดง” (Indian training school) จำลอง ที่ซึ่งเด็ก ๆ ชนพื้นเมืองอเมริกันถูกบังคับให้เปลี่ยนแปลงและกลืนกลาย ภาพถ่ายขนาดเท่าจริงของนักเรียนจ้องกลับมาจากช่วงเวลากว่าหนึ่งร้อยปีก่อน

“เราถูกบอกให้เขียนเรื่องราวของตัวเอง ถ้าเราอยากให้เรื่องออกมาดีค่ะ” บ็อบบี้ คอนเนอร์ อธิบาย เธอนั่งอยู่ในห้องประชุมของสถาบันวัฒนธรรมทามัสต์สลิกต์ที่เธอเป็นผู้อำนวยการ ในเขตสงวนยูมาทิลลาอันเป็นบ้านเกิดของชนเผ่าไคยูส, ยูมาทิลลา และวอลลาวอลลา “และเรื่องนี้ก็เก่าแก่ยาวนาน นั่นคือการพิชิต”

การสำรวจ, นักสำรวจถ้ำ,
ขึ้นจากภาพถ่ายหกภาพนี้ นักสำรวจถํ้า จอห์น เบนสัน โรยตัวลงสู่แฟนแทสติกพิต ความสูง 178 เมตร ซึ่งเป็นโพรงถํ้าแนวดิ่งยาวที่สุดใน 48 รัฐภาคพื้นทวีปของสหรัฐฯ ภาพถ่ายโดย สตีเวน อัลวาเรซ

ประวัติศาสตร์ของการสำรวจมักบอกเล่าจากสองมุมมอง นักสำรวจกับภูเขาสูง นักสำรวจกับเกาะห่างไกล นักสำรวจกับชนเผ่าที่ไม่เคยติดต่อโลกภายนอก ผู้พิชิตและผู้ถูกพิชิต ทุกวันนี้ นิยามการสำรวจขยายกว้างขึ้น เราสำรวจร่างกายของเรา บรรพบุรุษของเรา ความจุสมองของเรา เราสำรวจประวัติศาสตร์และผู้คนที่บอกเล่าเรื่องราวเหล่านั้นนักสำรวจเป็นทั้งนักผจญภัย นักแสดง นักวิทยาศาสตร์ และตอนนี้ก็มีบทบาทใหม่ คือตัวประสาน หรือคนที่ช่วยให้เราเข้าใจว่าเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ผู้บุกเบิกเหล่านี้กำลังสอบทานตำราประวัติศาสตร์ของเราเขียนมันขึ้นใหม่ และหวังว่าจะป้องกันไม่ให้ประวัติศาสตร์ซํ้ารอย

หลายปีที่ฉันเขียนสารคดีให้นิตยสารฉบับนี้จากที่ต่าง ๆ เช่น บึงอันห่างไกลทางใต้ของซูดาน พรมแดนทะเลทรายระหว่างสหรัฐฯ กับเม็กซิโก และเทือกเขาทางตะวันออกของคองโก ตอนนี้สิ่งที่ทอดยาวอยู่เบื้องหน้าฉัน คือความสามัญธรรมดาของถิ่นฐานบ้านเกิดที่ฉันไม่เคยสนใจอะไรนัก พลางตั้งคำถามถึงแนวคิดในการสำรวจกับตัวเอง

แต่ก่อนอื่น ขอย้อนเวลากลับไปราว 60,000 ปีก่อนที่ “มนุษย์กลุ่มเล็ก ๆ ในแอฟริกาอพยพออกมาและห่างหายกันไป” นี่มาจากเฟลิเป เฟร์นันเดซ-อาร์เมสโต นักประวัติศาสตร์และอาจารย์จากมหาวิทยาลัยนอตเทรอดาม ผู้ใช้เวลาเกือบหกสิบปีศึกษาว่าโลกแปรเปลี่ยนไปอย่างไร ด้วยกระบวนการที่เขาเรียกว่า การหาเส้นทาง ซึ่งวัฒนธรรมที่แตกต่างได้ปะทะสังสรรค์ มีปฏิสัมพันธ์ และ ปรับตัวเข้าหากันในการเดินทางที่ขับเคลื่อนด้วยความโลภ ลัทธิจักรวรรดินิยม ศาสนา และวิทยาการ เขาบอกว่า “ประวัติศาสตร์ของการสำรวจคือการปะติดปะต่อเส้นทาง ต่าง ๆ ระหว่างผู้คนที่แตกต่างกันให้เชื่อมต่อกันอีกครั้ง”

การสำรวจ
นับตั้งแต่อเล็กซานเดอร์ แกรห์ม เบลล์ ประธานยุคแรกของสมาคมเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ทดสอบเครื่องร่อนบนเนินเขาในโนวาสโกเชีย (บนซ้าย) การบินก็ตรึงความสนใจของเรา เมื่ออวกาศกลายเป็นแนวหน้าทางวิทยาการ เราก็ช่วยเก็บตัวอย่างอนุภาคจากชั้นสแตรโทสเฟียร์ (กลาง) และมอบธงเล็กๆ ของสมาคมเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ให้นักบินอวกาศ นีล อาร์มสตรอง นำขึ้นไปกับยานอะพอลโล 11 (ล่างซ้าย)

เป้าหมายนี้เองที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์ นักวิชาการ และทหาร ร่วมกันก่อตั้งสมาคมเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก เมื่อปี 1888 ตลอด 135 ปีที่ผ่านมา เราสำรวจทะเล ท้องฟ้า แผ่นดิน และอวกาศ “เพื่อเพิ่มพูนและเผยแพร่ ความรู้ทางภูมิศาสตร์” ในบางครั้ง การสำรวจที่เราให้ทุนสนับสนุน บันทึก และถ่ายทอดเรื่องราว ก็ดูจะไม่ใช่เรื่องของการติดต่อระหว่างกันมากเท่ากับการเป็นคนแรก และหลักชัยเหล่านั้นก็ไม่เคยขาดแคลน ตั้งแต่การพิชิตยอดเขาเมานต์เอเวอเรสต์โดยทีมนักปีนเขาอเมริกัน ไปจนถึงการ ทำแผนที่พื้นมหาสมุทรแอตแลนติก และการเป็นคนแรกเหล่านั้นก็กลายเป็นการค้นพบ ทั้ง วิทยาศาสตร์ อวกาศ และโลกธรรมชาติ ล้วนอัดแน่น ไปด้วยความลับนานัปการ ครอบครัวลีคีย์ขุดพบฟอสซิลบรรพบุรุษมนุษย์ เจน กูดดอลล์ ใช้ชีวิตร่วมกับชิมแปนซี และนักอนุรักษ์อย่างไมก์ เฟย์ ก็ออกเดิน 3,200 กิโลเมตรลุยป่าฝนเขตร้อนต่าง ๆ ในแอฟริกากลาง

เรื่องราวต่าง ๆ ขับเคลื่อนการสำรวจมาหลายร้อยปีในช่วงที่เรียกว่ายุคแห่งการสำรวจของยุโรป จากศตวรรษที่สิบห้าถึงสิบเจ็ด นิยายชื่อดังเล่าเรื่องที่ตัวเอกออกผจญภัยอย่างหาญกล้า ขณะที่การผจญภัยของอัศวินในตำนาน อาจเป็นแรงบันดาลใจให้โคลัมบัสและมาเจลลันออกเดินเรือ บางทีภาพถ่ายและแผนที่ที่นิตยสาร เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ตีพิมพ์อาจทำให้ผู้อ่านขยับตัวออกไปดูโลก แต่เรื่องราวต่าง ๆ ยังหนุนนำความคิดที่ว่า นักสำรวจมักมาจากโลกตะวันตกด้วย ซึ่งไม่จริงเสียทีเดียว

การสำรวจ
การเดิน การปีน และการข้ามทะเลอันยากลำบาก ทำให้เกิดเส้นทางใหม่ ๆ ทั่วโลก บันทึกปรากฏการณ์ธรรมชาติ และเชื่อมโยงวัฒนธรรมต่าง ๆ การสืบทอดขนบของนักสำรวจในอดีตโดยนักเขียน พอล ซาโลเพก (คนหน้า) ซึ่งตลอดสิบปีที่ผ่านมา เดินเท้าไปตามเส้นทาง 38,500 กิโลเมตรที่มนุษย์ยุคแรกใช้อพยพออกจากแอฟริกาและแพร่กระจายไปทั่วโลก

“มีความล้มเหลวทางวรรณกรรมในการนำเสนอนักสำรวจจากประเทศอื่น ๆ ดังนั้น ในช่วง 500 ปีที่ผ่านมา การสำรวจจึงเป็นเรื่องเล่าของชายผิวขาวจากอดีตเป็นหลัก” เฟร์นันเดซ-อาร์เมสโตบอกและเสริมว่า “ทำให้คนเข้าใจว่ามันเป็นกิจกรรมของชายผิวขาว ซึ่งไม่ใช่เลย”

หนึ่งในแผนที่โลกฉบับแรกสุดวาดอยู่บนผนังถํ้าแห่งหนึ่งในอินเดียเมื่อราว 8,000 ปีก่อน และนักสำรวจคนแรกที่เรารู้ชื่อคือ ฮาร์คุฟ ผู้นำคณะสำรวจจากอียิปต์ยุคฟาโรห์ไปยังแอฟริกาเมื่อราว 2290 ปีก่อน ค.ศ. แล้วยังมีชาวบันตู ที่อพยพจากแอฟริกาตะวันตกข้ามภูมิภาคซับสะฮาราเมื่อหนึ่งพันปีก่อนหน้านั้น ในมหาสมุทรแปซิฟิกมีผู้ใช้เรือขุดและเรือใบท่องไปตามดวงดาวและคลื่นทะเลเพื่อทำแผนที่และยึดครองหมู่เกาะต่าง ๆ จากนิวกินีไปถึงฮาวาย มาตั้งแต่ราว 1500 ปีก่อน ค.ศ. ในศตวรรษที่เจ็ด ภิกษุชาวจีนนามเสวียนจั้งเดินทางจากจีนไปชมพูทวีปเพื่ออัญเชิญพระไตรปิฎกฉบับดั้งเดิม ในศตวรรษเดียวกัน กองทัพอาหรับตบเท้าจากคาบสมุทรอาหรับไปเอเชียกลางและแอฟริกาเหนือด้วยแรงขับจากการเผยแผ่ศาสนา

ยุคสมัยของนักสำรวจที่เป็นบุรุษผิวขาวตามมาอีกนานหลังจากนั้น และแบบฉบับดังกล่าวก็ครอบงำเรื่องเล่าในโลกตะวันตก แต่นักสำรวจจากที่อื่น ๆ มีอยู่เสมอ

การสำรวจ
กล้องถ่ายภาพ ยานสำรวจใต้นํ้า และอุปกรณ์บังคับระยะไกลต่าง ๆ เผยความลึกอันขมุกขมัวของมหาสมุทร หนึ่งในเรื่องราวใต้นํ้ายุคแรกสุดของ เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิกคือการค้นพบที่ได้จากยานดำนํ้าทรงกลม (ล่างขวา) ยานสำรวจใต้นํ้าลำแรกซึ่งลงสู่ท้องนํ้านอกชายฝั่งเบอร์มิวดาในทศวรรษ 1930 โดยใช้สายเคเบิลเหล็กยาวประมาณ 1,000 เมตร

ในคลังข้อมูลของ เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ฉันพบตัวอย่างใหม่กว่านั้นของผู้คนที่สมาคมเคยมองข้าม จูเลียต เบรดอน นักสำรวจหญิงที่ตีพิมพ์ผลงานในชื่อ แอดัม วอร์วิก บอกเล่าการสำรวจเมืองจีนในทศวรรษ 1920 และเรอีนา ตอร์เรส เด อาราอูซ นักมานุษยวิทยาชาวปานามา ออกสำรวจจากอเมริกาใต้ไปยังอเมริกาเหนือทางรถเป็นครั้งแรก ในแฟ้มข่าวตัดเกี่ยวกับแฮร์เรียต ชาลเมอร์ส แอดัมส์ ผู้เดินทาง 64,000 กิโลเมตรข้ามลาตินอเมริกาเพื่อตามรอยโคลัมบัสจากยุโรปไปอเมริกาใต้ในช่วงรอยต่อของศตวรรษที่ยี่สิบ และบันทึกภาพสงครามโลกครั้งที่หนึ่งจากแนวหน้า พาดหัวข่าวนำเสนอข้อมูลน่าสนใจยิ่งกว่าว่า เธอผิดแผกจากผู้หญิงทั่วไปอย่างไร

ขณะที่เราขุดลึกลงในประวัติศาสตร์เพื่อนำคนใหม่ ๆ เข้าสู่วิหารแห่งนักสำรวจ เราก็ประเมินเรื่องเก่า ๆ ซํ้าอีกครั้ง การสำรวจหมายถึงอะไรสำหรับผู้คนที่ถูกสำรวจ และจากนั้นก็มักถูกใช้ประโยชน์หรือกระทั่งถูกกำจัดทิ้ง สถานที่หนึ่ง ๆ ถูกค้นพบได้จริงหรือ

ทุกวันนี้ ประวัติศาสตร์แห่งการสำรวจกำลังถูกเขียนขึ้นใหม่เพื่อเติมเต็มช่องว่างเก่า ๆ โดยคนอย่างทารา โรเบิร์ตส์ผู้สวมสนอร์เกิลบนปกนิตยสารฉบับเดือนมีนาคม 2022 ขณะดำนํ้าในฟลอริดาคีส์เพื่อทำแผนที่เรือจมที่เคยบรรทุกทาสจากแอฟริกามายังอเมริกา ยาซาน ค็อปตี นักประวัติศาสตร์มุขปาฐะชาวปาเลสไตน์ที่ขุดหาภาพอายุร้อยปีของชาวปาเลสไตน์จากคลังข้อมูลของ เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก และใช้สื่อสังคมออนไลน์เติมเต็มเรื่องราวให้คนเหล่านั้น เช่น ชื่อเสียงเรียงนาม วันหยุดที่มีการเฉลิมฉลอง และหมู่บ้านในฉากหลัง

ที่สถาบันวัฒนธรรมทามัสต์สลิกต์ คอนเนอร์ ผู้สืบเชื้อสายจากเผ่าไคยูส, เนซเพิร์ซ และยูมาทิลลา ใช้คำว่า “ยึดคืน” บรรยายการสำรวจรูปแบบใหม่นี้ ชนเผ่าเนซเพิร์ซได้รับที่ดินบรรพบุรุษกว่า 800 ไร่เพื่อให้ลูกหลานได้รวมตัว กัน ฝังศพผู้วายชนม์ และจัดเทศกาลต่าง ๆ ชื่อของ ชนเผ่าต่าง ๆ กลับคืนสู่แผนที่และป้ายต่าง ๆ อีกครั้ง

คอนเนอร์บอกว่า ในตอนแรก แนวคิดการบอกเล่าเรื่องราวของตนเองในพิพิธภัณฑ์ทำให้สหพันธ์ชนเผ่าของเขตสงวนชนพื้นเมืองอเมริกันยูมาทิลลามึนงง การทำลาย ผู้คนและผืนแผ่นดินมีอะไรดี ๆ ให้เล่างั้นหรือ แต่พวกเขาคิดไปถึ งเรื่องเล่าว่าด้วยการสำรวจในรัฐออริกอนที่ยังคงเชิดชูรถม้าของผู้บุกเบิกบนธง และลองครุ่นคิดว่า เรื่องเล่าของพวกตนจะใหญ่กว่าผืนแผ่นดินอันเป็นที่มาของเรื่องราวนั้น ซึ่งก็คือซอกมุมเล็ก ๆ ริมขอบตะวันตกของอเมริกาได้มากเพียงใด และมันจะเชื่อมโยงกับคนทั่วโลกได้อย่างไร “นี่คือศูนย์กลางจักรวาลของเราค่ะ” เธอบอก “แต่มันเชื่อมโยงกับจักรวาลอื่น ๆ ทั้งหมด”

เรื่อง นีนา สตรอคลิก
คอลลาจภาพถ่าย นีล เจมีสัน

ติดตามสารคดี มองหาหนทางสู่อนาคต ฉบับสมบูรณ์ได้ที่นิตยสาร เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ฉบับภาษาไทย เดือนกรกฎาคม 2566

สั่งซื้อนิตยสารได้ที่ https://www.naiin.com/product/detail/581775


อ่านเพิ่มเติม นักเล่าเรื่อง รูปสัญลักษณ์ หมื่นปี แห่งแอมะซอน

Recommend