“ศพในอวกาศ” จะเกิดอะไรขึ้นกับ “ร่างกายมนุษย์” หากเรา ตายในอวกาศ

“ศพในอวกาศ” จะเกิดอะไรขึ้นกับ “ร่างกายมนุษย์” หากเรา ตายในอวกาศ

ในขณะที่ยุคสมัยก้าวหน้าไปและมุ่งเดินทางออกนอกโลก เพื่อสร้างอาณานิคมบนดาวดวงอื่น เราอาจต้องคิดถึงกรณีที่เกิดความผิดพลาดร้ายแรงที่สุดไว้นั่นคือ ‘ความ ตายในอวกาศ ’

ในรายงานของนาซา (NASA) ที่กล่าวกับเว็บไซต์ Popular Science (popsci.com) ระบุเอาไว้ว่า “นาซาไม่ได้เตรียมแผนฉุกเฉินสำหรับความเสี่ยงระยะไกลทั้งหมด (เช่นการเดินทางไปยังดาวอังคารที่กินเวลานาน)
.
การตอบสนองของนาซาต่อสถานการณ์บนวงโคจรที่ไม่ได้วางแผนไว้จะถูกกำหนดอยู่ในกระบวนการดำเนินงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ ระหว่างคณะกรรมการปฏิบัติการบิน ผู้อำนวยการด้านสุขภาพและประสิทธิภาพมนุษย์ ผู้นำของนาซา และพันธมิตรระหว่างประเทศของเรา”
.
นั่นหมายความว่า แม้แต่นาซาเองก็ยังไม่มีแผนใด ๆ หากลูกเรือหรือนักบินอวกาศตายอยู่นอกโลกหรือแม้แต่นอกยาน การจะจัดการอย่างไรกับศพนั้นเป็นกระบวนการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
.
แต่หากมนุษยชาติตั้งใจเดินทางไกลเพื่อตั้งอาณานิคมบนดาวดวงอื่น เราอาจต้องพิจารณาถึงเรื่อง จะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายบ้าง? หากเราเสียชีวิตอยู่ในอวกาศ

ตายในอวกาศ เหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิด

“ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด มีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างการเดินทางในอวกาศ” คริส แฮดฟิลด์ (Chris Hadfield) นักบินอวกาศชาวแคนาดา และอดีตผู้บังคับบัญชาของสถานีอวกาศนานาชาติ กล่าว “ทันใดนั้นคุณอาจถูกอุกกาบาตขนาดเล็กพุ่งใส่ และคุณไม่สามารถทำอะไรกับสิ่งนั้นได้ มันเจาะรูในชุดของคุณได้ และภายในเวลาไม่กี่วินาทีคุณก็ ‘ไร้ความสามารถ’”
.
โดยทั่วไปแล้ว นักบินอวกาศสมมติคนนั้นจะมีเวลาเพียงประมาณ 15 วินาทีก่อนจะหมดสติ ทว่าผู้โชคร้ายก็ไม่อาจทำอะไรได้มากนัก ความดันและอุณหภูมิเย็นยะเยือกของอวกาศจะคลืบคลานเข้ามาอย่างรวดเร็ว แล้วทำให้ร่างกายของคุณเริ่มแข็งตัว การสัมผัสกับอวกาศจะทำให้ของเหลวในร่างกายคุณกลายเป็นแก๊สในทันใด
.
ในสูญญากาศที่มีความดันต่ำ ของเหลวใด ๆ จากพื้นผิวร่างกายของเราเช่น ผิวหนัง ตา ปาก หู และปอด จะเปลี่ยนเป็นก๊าซในทันที จิมมี่ วู (Jimmy Wu) หัวหน้าวิศวกรของสถาบันวิจัยสุขภาพอวกาศที่วิทยาลัยเบย์เลอร์แพทยศาสตร์ กล่าวว่า หลอดเลือดที่อยู่ใกล้ผิวหนังอาจมีโอกาสแตกและมีเลือดออก แม้ว่าจะเสียชีวิตไปแล้ว
.
อย่างก็ตาม น้ำที่เหลือในร่างกายเล็กน้อยก็มีแนวโน้มที่จะแข็งตัว เนื่องจากอุณหภูมิพื้นฐานของอวกาศอยู่ที่ -270.45 องศาเซลเซียส การสูญเสียภาวะของเหลว บวกกับการแช่แข็งจะส่งผลให้เกิด ‘ภาวะมัมมี่’ จากนั้นแบคทีเรียในร่างกายจะเข้ามามีบทบาท
.
งานวิจัยบนสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ชี้ให้เห็นว่าแบคทีเรียบางตัวสามารถอยู่รอดได้ในอวกาศเป็นเวลาอย่างน้อย 3 ปี และหากมันยังมีชีวิตอยู่ในร่างกายก็หมายความว่า พวกมันจะยังคงดำเนินกระบวนการปกติของมัน พร้อมกับเริ่มย่อยจากภายใน
.
การแผ่รังสีที่รุนแรงในอวกาศก็สามารถสร้างความเสียหายให้กับร่างกายได้เช่นกัน มันจะทำลายพันธะคาร์บอนซึ่งเป็นส่วนประกอบใหญ่ของเซลล์ ทำให้ผิวหนังและกล้ามเนื้อเสื่อมโทรมอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ศพของนักบินอวกาศสมมติได้กลายเป็นทั้ง ร่างกายที่ขาดน้ำ ของแข็ง มัมมี่ ถูกย่อยจากภายใน และเสียหายจากภายนอก และจะลอยไปในทิศทางที่ถูกผลักออกไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะชนกับวัตถุอื่น และนั่นคือปัญหาต่อมา
.
ไมลส์ แฮร์ริส (Myles Harris) นักวิทยาศาสตร์จากสถาบันความเสี่ยงและการลดภัยพิบัติ แห่งมหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอนกล่าวว่า ศพ “จริง ๆ แล้วถือเป็นความเสี่ยง” ต่อดาวเทียมทั้งหมดที่อยู่ในวงโคจรโลกได้
.
เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะเกิดขึ้น นาซา แนะนำให้ (นำศพนั้น) ออกไปในอวกาศให้ไกลขึ้นและออกจากวงโคจรดาวเคราะห์ เพราะศพที่เป็นของแข็งอาจทำให้เกิดความเสียหายตามมาได้
.
แต่ทว่าเมื่อเวลาผ่านไป แรงโน้มถ่วงของโลกจะค่อย ๆ ดึงร่างกายกลับมา ท้ายที่สุดก็จะเผาไหม้ในชั้นบรรยากาศสลายหายไป นั่นคือสิ่งที่อาจเกิดขึ้นหากคุณตายอยู่นอกอวกาศและเก็บกู้ศพได้ยาก แต่จะเกิดอะไรขึ้นหากเราเสียชีวิตในยานอวกาศบ้าง?

ตายในอวกาศ – งานศพแบบแช่แข็งและแห้ง

“ในช่วง 16 ปีของการเป็นนักบินอวกาศ ผมจำไม่ได้ว่าได้พูดคุยกับนักบินอวกาศคนอื่น ๆ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเสียชีวิต” เทอร์รี เวอร์ตส์ (Terry Virts) นักบินอวกาศของนาซา กล่าว “แต่เราทุกคนเข้าใจว่ามันเป็นไปได้ แต่ข้างในห้องไม่ได้พูดถึง”
.
แม้ความตายจะไม่ได้อยู่ในแนวการปฎิบัติงานขององค์กรอวกาศต่าง ๆ อย่างเป็นทางการ แต่พันธมิตรอวกาศหลายแห่งก็มีการฝึกอบรบเกี่ยวกับภารกิจเหล่านี้ก่อนเดินทางอย่างนาซาเอง หรือองค์การอวกาศญี่ปุ่น (JAXA) และยุโรป (ESA) ซึ่งเป็นการเตรียมพร้อมหากเกิดการเสียชีวิตของลูกเรือคนใดคนหนึ่ง
.
“เรามีสิ่งเหล่านี้ที่เรียกว่า ‘การจำลองเหตุการณ์ฉุกเฉิน’ ซึ่งเราจะหารือกันว่าจะทำอย่างไรกับร่างกายบ้าง” เวอร์ตส์ กล่าว
.
ศพในอวกาศนั้นสร้างปัญหามากกว่าที่คนทั่วไปคิด มันไม่ใช่แค่ว่ามีคนเสียชีวิตแล้วก็นำไปประกอบพิธีตามความเชื่อจากนั้นก็เสร็จเรียบร้อย แต่อวกาศนั้นยุ่งยาก เริ่มต้นจาก ถุงใส่ศพที่ส่วนใหญ่แล้วไม่มีการเตรียมพร้อมขึ้นไปกับภารกิจ ดังนั้นอาจเก็บศพใส่ไว้ในชุดนักบินอวกาศ แล้วไหนจะเรื่องกลิ่นอีก และที่สำคัญคืออันตรายทางชีวภาพ สิ่งนี้ทำให้ตัดสินใจได้ยากว่าจะเก็บไว้ ส่งกลับโลก (ที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อเคลื่อนย้ายศพ) หรือปล่อยสู่อวกาศ
.
นักวิทยาศาสตร์หลายคนเสนอแนวทางว่า ถ้ามีผู้เสียชีวิตจริง ๆ อาจทำแบบเดียวกับการเสียชีวิตในเรือดำน้ำ เมื่อลูกเรือตายคงไม่มีกัปตันคนไหนสั่งให้จอดเรือในทันที ดังนั้นศพจะถูกเก็บไว้ใกล้กับตอร์ปิโด ซึ่งเป็นบริเวณที่มีอากาศหนาวและแยกออกจากที่อยู่อาศัยมากที่สุด
.
เช่นเดียวกัน ลูกเรือของสถานีอวกาศอาจจำเป็นต้องเก็บศพไว้ในจุดที่เย็นที่สุดของสถานีและอยู่ในชุดที่มีแรงดัน เพื่อลดผลกระทบจากกลิ่นและแบคทีเรีย
.
“ผมอาจจะเก็บพวกเขา (ศพ) ไว้ในชุดที่มีแรงดัน จริง ๆ แล้วร่างกายจะสลายตัวเร็วกว่าในชุดอวกาศ และเราไม่ต้องการกลิ่นเนื้อที่กำลังเน่าเปื่อยหรือแก็ส ที่ไม่สะอาด ดังนั้นเราจะเก็บไว้ในชุดสูทไว้ที่ไหนสักแห่งที่เย็นบนสถานี” แฮดฟิลด์ กล่าว “เก็บไว้จนกว่ายานลำใดลำหนึ่งจะกลับบ้าน ซึ่งพวกเขาจะได้ที่นั่งชั้นสามบนยาน”
.
บางหน่วยงานคิดไปไกลกว่านั้น ‘Promessa’ บริษัทฝังศพเชิงนิเวศของสวีเดนได้เสนอแนวทางใหม่โดยใช้เทคนิคที่เรียกว่า ‘Promession’ ซึ่งจะทำให้ร่างกายแห้งจนแข็งตัว แทนที่จะเปลี่ยนศพให้กลายเป็นขี้เถ้าจากการเผาศพแบบดั้งเดิม แต่จะเปลี่ยนศพที่แช่แข็งให้กลายเป็นน้ำแข็งชิ้น ๆ เล็ก ๆ หลายล้านชิ้นแทน
.
กระบวนการนั้นอาจดูสยองสักเล็กน้อย โดยจะใช้แขนหุ่นยนต์ ‘แขวนศพ’ ที่ใส่ถุงไว้ให้อยู่นอกยาน เพื่อให้ความเย็นของอวกาศทำศพให้แข็งจนเปราะ จากนั้นแขนหุ่นยนต์จะสั่นทำให้ร่างกายแตกออกเป็นเศษซากที่คล้ายขี้เถ้า ซึ่งทำให้ลูกเรือบนยานคนอื่น ๆ เก็บ ‘ศพ’ นี้ไว้ได้นานหลายปี ไม่มีกลิ่น ไม่เป็นอันตราย นี่เป็นวิธีที่เป็นไปได้หากนักบินอวกาศสมมติคนนั้นเสียชีวิตระหว่างการเดินทางในยานอวกาศ
.
แต่ถ้าหากเราเสียชีวิตบนดาวดวงอื่นล่ะ?

ฝังศพแบบชาาวดาวอังคาร

อีลอน มัสก์ (Elon Musk) เคยโพสต์ผ่านโซเชียลเน็ดเวิร์กของเขาอย่างเปิดเผยว่า “ถ้าคุณต้องการไปดาวอังคาร จงเตรียมตัวตาย” และดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้นจริง ๆ การเดินทางไปดาวอังคารนั้นกินระยะเวลานานมาก อีกทั้งยังอาจเกิดความผิดพลาดได้ทุกเมื่อในทุกเหตุการณ์เช่นเดียวกับที่ภาพยนตร์หลายเรื่องเสนอไว้อย่างชัดเจน
.
หากมีผู้เสียชีวิตระหว่างการไปดาวอังคารหรืออยู่บนดาวอังคาร การเก็บไว้ที่นั่นอาจเป็นความคิดที่ดีกว่า “ผมคิดว่าหากลูกเรือเสียชีวิตขณะอยู่บนดาวอังคาร เราจะฝังพวกเขาไว้ที่นั่นแทนที่จะนำศพกลับบ้าน” แฮดฟิลด์ กล่าว
.
ยานไม่มีห้องเก็บศพ สถานีอวกาศที่ตั้งอยู่บนดาวอังคารก็ไม่มีห้องแบบนั้นเช่นกัน ดังนั้นการฝังไว้ที่ดาวอังคารจึงเป็นทางเลือกที่เหลืออยู่ ทว่าผู้เชี่ยวชาญหลายคนกังวลถึงเรื่องการปนเปื้อนดาวเคราะห์ เนื่องระเบียบทุกแห่งระบุเอาไว้ว่า ‘ไม่ควรนำจุลินทรีย์บนโลกไปยังดาวเคราะห์ดวงอื่น’ ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงศพที่เต็มไปด้วยแบคทีเรียเล็ก ๆ
.
ด้วยเหตุนี้ ยานสำรวจและยานอวกาศทุกอย่างจะถูกทำความสะอาดและฆ่าเชื้อซ้ำ ๆ ก่อนปล่อย เพื่อช่วยปกป้องพื้นที่ต่างดาวให้ไม่ถูกรุกรานจากแบคทีเรียของโลก แต่กลับกัน การขนส่งศพกลับโลกเองก็เป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก ดังนั้นเรื่องนี้จึงอาจ ‘หยวน ๆ’ ได้
.
“เกี่ยวกับการกำจัดสารอินทรีย์ (รวมถึงศพ) บนดาวอังคาร เราไม่ได้กำหนดข้อจำกัดใด ๆ ไว้ตราบใดที่จุลินทรีย์บนโลกถูกฆ่าตาย” แคทเธอรีน คอนลีย์ (Catherine Conley) จากสำนักงานคุ้มครองดาวเคราะห์ของนาซา กล่าว ดังนั้นการเผาศพจึงมีความจำเป็น” จากนั้นก็เก็บให้เรียบร้อย

เตรียมพร้อมกับเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุด

แม้ในความเป็นจริง นาซา ไม่ได้เผยแพร่แผนฉุกเฉินเกี่ยวกับศพไว้อย่างเป็นทางการ แต่พวกเขาก็รู้ว่าจะต้องมีไว้เพื่อพร้อมรับมือกับการสูญเสียลูกเรือ และเมื่อเราก้าวสู่ยุคแห่งการสำรวจอวกาศที่เต็มไปด้วยการปล่อยจรวด กรณีเหล่านี้จะมีมากขึ้นอย่างแน่นอนซึ่งทุกคนต่างก็คิดถึงมัน
.
“การสำรวจคร่าชีวิตผู้คนมาโดยตลอด และผมแน่ใจว่ามันจะเป็นเช่นนั้นเสมอไป” ไมค์ แมสซิมิโน (Mike Massimino) นักบินอวกาศในกระสวยอวกาศ กล่าว
.
การนึกตัวเลือกเกี่ยวกับความตายในอวกาศนั้นช่วยให้ทุกคนเตรียมพร้อมกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้อย่างมีสติมากขึ้น ซึ่งมนุษย์มักจะปรับตัวได้อย่างรวดเร็วเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ แล้วก้าวหน้าต่อไป เช่นเดียวกับการเดินทางเพื่อไปถึงยอดเขาเอเวอเรสต์ นักปีนเขาทุกคนรู้ถึงความเสี่ยง และมีคนตายอยู่เสมอ ทว่าใจที่มุ่งมั่นและการเผชิญหน้าอย่างมีสติ จะช่วยให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างที่ควรจะเป็น
.
“ถ้าคุณปีนเอเวอเรสต์ คุณจะรู้ว่าถ้าคุณตาย คุณจะถูกทิ้งไว้ที่นั่น” พอล โวลป์ (Paul Wolpe) นักชีวจริยธรรมกล่าว จะไม่มีพิธีศพบนนั้น ไม่มีสถานที่เก็บ และไม่มีการนำลงมา ศพหลายร้อยร่างอยู่บนภูเขาซึ่งคอยเตือนนักปีนเขารุ่นใหม่ว่าชีวิตนี้เสี่ยงแค่ไหน แต่ทว่ามนุษย์ก็ยังเดินหน้าต่อไป
.
“คุณก็แค่ยอมรับสิ่งนั้น” โวลป์ กล่าว “นั่นเป็นส่วนหนึ่งของการปีนเอเวอเรสต์”

สืบค้นและเรียบเรียง วิทิต บรมพิชัยชาติกุล

ที่มา
.
https://www.sciencefocus.com/space/would-a-corpse-decay-in-space
https://theconversation.com/death-in-space-heres-what-would-happen-to-our-bodies-169890
https://www.livescience.com/space/space-exploration/what-would-happen-to-a-dead-body-in-space

https://www.popsci.com/what-happens-to-your-body-when-you-die-in-space/


อ่านเพิ่มเติม นักบินอวกาศหญิง :ส่งทีมหญิงล้วนเดินทางสู่อวกาศดีกว่า

นักบินอวกาศหญิง

Recommend