การทดลองสุดแปลกใน ‘หนู’ เพื่อทำนายอนาคตของมนุษยชาติว่าด้วยความกังวลด้านจำนวนประชากร ‘ล้นโลก’
ในปี 1968 นักชีววิทยาจอห์น คัลฮูน (John Calhoun) ได้สร้างจักรวาลแห่งหนึ่งขึ้นมา มันเป็นคอกใหญ่ขนาดประมาณลู กบาศก์ 4 ฟุตครึ่ง (1.3716 เมตร) ซึ่งในนั้นมีทุกสิ่งที่สิ่งมีชีวิตต้ องการ ไม่ว่าจะเป็นอาหารและน้ำที่เพี ยงพอ(อย่างไม่จำกัด) สภาพอากาศที่สมบูรณ์แบบ อุปกรณ์ทำรังที่แสนสบาย และอพาร์ตเมนต์ ซึ่งแยกจากกันจำนวน 256 ห้องซึ่งเข้าถึงได้ผ่านเครือข่ ายท่อที่ยึดกับผนัง
ไม่เพียงเท่านั้น คัลฮูน ยังคัดกรองหนูเพื่อให้สั งคมปลอดโรค และทำให้หนูสามารถมีชีวิตได้อยู่ ได้นานขึ้นโดยไม่มีผู้ล่ าและความกังวลอื่น ๆ มารบกวน ในทางทฤษฎีแล้วนี่คือ ‘สวรรค์’ สำหรับหนูที่จะได้ชีวิตโดยไม่มี เรื่องอะไรมาทำให้เกิดความเครี ยด และมันคือ ยูโทเปียครั้งที่ 25 แล้วที่ คัลฮูน สร้าง หรือเรียกอีกอย่างว่า ‘จักรวาลที่ 25’
ผู้สนใจในพฤติกรรมของหนู
จอห์น คัลฮูน นั้นเติบโตมาในเทนเนสซี สหรัฐอเมริกา เขาเป็นลูกชายของผู้ อำนวยการโรงเรียนมัธยมและศิลปิน อีกทั้งยังเป็นนักดูนกตัวยงเมื่ อครั้นยังเด็ก หลังจากได้รับปริญญาเอกด้านสั ตววิทยา เขาก็ได้เข้าร่วมโครงการที่ชื่ อว่า ‘Rodent Ecology Project’ ในเมืองบัลติมอร์เมื่อปี 1946 ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อกำจัดศั ตรูพืชจำพวกหนูในเมืองต่าง ๆ ให้หมดไป
“โครงการนี้ประสบความสำเร็จเพี ยงเล็กน้อย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะไม่มี ใครสามารถระบุได้ว่าควรจับตาดู พฤติกรรม วิถีชีวิต หรือชีววิทยาของหนูในลักษณะใดบ้ าง” สถาบันประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์ ระบุบนเว็บไซต์
ด้วยความสงสัยที่ติดอยู่ ในใจมาเนิ่นนาน คัลฮูน จึงตัดสินใจสร้างสถานที่สั งเกตพฤติกรรมหนูขึ้นมาเป็นแห่ งแรกในป่าหลังบ้านของเขา เพื่อติดตามหนูในช่วงเวลาต่าง ๆ และศึกษาว่ามีปัจจัยใดบ้างเป็ นตัวขับเคลื่อนการเติ บโตของประชากร แต่เมื่อเขาลงมือทำ เขาก็แทบจะหยุดความใคร่รู้ ของตนเองไม่ได้
คัลฮูน ปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมให้ซับซ้ อน และควบคุมตัวแปรอย่างระมัดระวั งมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งยังรับเอาความสนใจด้ านสถาปนิกและวิศวกรโยธาที่ขณะนั้ นกำลังถกเถียงกันอย่างเผ็ดร้ อนว่า ‘เมืองที่ดีควรเป็นอย่างไร?’ เขาตระหนักว่าการออกแบบเมื องในหนูนี้อาจขยายผลไปยังมนุษย์ ได้
คัลฮูน ทำงานกับหนูมาตั้งแต่ปี 1958 ถึง 1972 โดยส่วนใหญ่(ไม่นับครั้งแรก)เกิ ดขึ้นในห้องปฏิบัติการจิตวิ ทยาของสถาบันสุขภาพจิตแห่งชาติ ซึ่งเขาหวังด้วยเช่นกันว่าจะได้ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกั บอนาคตที่แออัดของประชากรมนุษย์ ความพยายาม 24 ครั้งแรกจำเป็นต้องสิ้นสุดลงก่ อนกำหนด เนื่องจากพื้นที่จำกัด
แต่เหตุการณ์ที่โด่งดังที่สุ ดของเขาคือ ‘จักรวาลที่ 25’ ซึ่งเริ่มต้นในปี 1968 โดยเริ่มต้นด้วยหนูตัวเมีย 4 ตัวและตัวผู้ 4 ตัวลงในกรง
จักรวาลที่ 25
หลังจากใช้เวลาปรับตัวเพียงเล็ กน้อย ลูกหนูตัวแรกก็เกิดในเวลา 3 เดือนครึ่งและหนูก็เพิ่มจำนวนขึ้ นอย่างรวดเร็วหลังจากนั้น โดยเพิ่มเป็น 2 เท่าในทุก ๆ 55 วัน หลังจากนั้นเมื่อถึงวันที่ 560 หนูก็เพิ่มขึ้นถึงจุดสูงสุดที่ 2,200 ตัววิ่งไปวิ่งมา แต่การเติบโตที่ฉุกละหุกนี้ก็ สร้างปัญหาตามมาหลายประการ
“มีหนูตัวเมียเพียงไม่กี่ตัวเท่ านั้นที่ตั้งครรภ์จนครบกำหนด และหนูที่ตั้งครรภ์ก็ดูเหมื อนจะลืมลูกไปเฉย ๆ” สถาบันซมิธโซเนียน ระบุ “พวกมันจะย้ายลูกครึ่งหนึ่ งออกจากคอก และลืมลูกที่เหลือไป บางครั้งพวกมันก็ทิ้งลูกไว้ ในขณะที่กำลังตั้งครรภ์”
ผลที่ตามมาก็คือมีลูกหนู จำนวนมากตายเพราะถูกละเลย กระนั้นก็ยังมีความผิดปกติอื่น ๆ ที่น่าหดหู่เพิ่มเติมนั่นคือ หนูที่ไม่ได้รับการเลี้ยงดูอย่ างเหมาะสมหรือหนูที่ถูกไล่ ออกจากรังแต่เนิ่น ๆ กลายเป็นพวกที่ไม่สามารถสร้ างสายสัมพันธ์ทางสังคมได้ดี ดังนั้นมันจึงมีปัญหาในการสร้ างปฏิสัมพันธ์ทางสังคมเมื่อโตขึ้ น
หนูตัวเมียที่ปรับตัวไม่ได้ จะเริ่มแยกตัวในอพาร์ตเมนท์ที่ว่ างเปล่าซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ผิ ดปกติอย่างยิ่ง ขณะเดียวกันหนูตัวผู้ที่ปรับตั วไม่ได้ก็ดูแลตัวเองทั้งวันทั้ งคืน พวกมันเลียขนตัวเองซ้ำแล้วซ้ำ เล่า คัลฮูน เรียกตัวผู้ประเภทนี้ว่า ‘พวกตัวที่สวยงาม’ ซึ่งหมกมุ่นอยู่กับรูปลักษณ์ ของตัวเอง และไม่สนใจจะจีบผู้หญิงหรือไม่ สนใจเรื่องเซ็กซ์เลย
“พวกมันแค่กิน นอน และดูแลตัวเอง โดยจมอยู่กับการมองตัวเองอย่ างหลงตัวเอง” วารสาร Cabinet เขียนในปี 2011
ท้ายที่สุด การเติบโตของประชากรที่มากเกิ นไปก็กัดกร่อนความมั่นคงและเกิ ดความล้มเหลว ขณะเดียวกันในพื้นที่ส่วนกลางที่ แออัดซึ่งแม่หนูหลายตัวทิ้งลู กไว้ก็มีอัตราการเสียชีวิตเพิ่ มขึ้น ปัจจัยเหล่านี้ทำให้สังคมของหนู ตกต่ำลงอย่างรวดเร็ว
เพียงไม่กี่วันหลังจากวันที่ 560 ซึ่งก็คือประมาณวันที่ 600 ก็ไม่มีลูกหนูตัวใดรอดชีวิตได้ นานกว่า 2-3 วัน ไม่ช้าการเกิดใหม่ก็หยุดลงโดยสิ้ นเชิง เมื่อตัวผู้เอาแต่ดูแลตัวเอง และตัวเมียเอาแต่แยกตัว หนูที่แก่ก็ไม่สามารถผสมพันธ์ ได้อีก และก็ถึงจุดสิ้นสุดหลังเริ่ มการทดลอง 5 ปี ประชากรของหนูจาก 2,200 ตัวเหลือ 0 ตัวอย่างเป็นทางการ
สังคมมนุษย์
คัลฮูน เริ่มการทดลองของเขาด้วยความตั้ งใจที่จะถ่ายทอดผลลัพธ์ไปยั งพฤติกรรมมนุษย์ ซึ่งในขณะนั้นผู้คนสนใจเกี่ยวกั บแนวคิดที่ว่าจำนวนประชากรที่ มากเกินไปอาจเป็นอันตรายได้ โดยหนังสือเรื่อง ‘An Essay on the Principle of Population Malthus’ ของ โทมัส มาลธัส (Thomas Malthus) ได้เสนอไว้ว่า การที่ประชากรขยายตัวเร็วกว่ าการผลิตอาหาร จะนำไปสู่ความเสื่อมถอยของสังคม
จากนั้นในปี 1968 พอล เอร์ลิช (Paul Ehrlich) นักกีฏวิทยาจากมหาวิทยาลั ยสแตนฟอร์ดก็ได้ดีพิมพ์ ‘The Population Bomb’ หนังสือเล่มนี้ได้จุ ดชนวนความกลัวอย่างกว้างขว้ างเกี่ยวกับอนาคนที่แออัดยัดเยี ยด
“ผู้คนที่มากเกินไป อัดแน่นอยู่ในพื้นที่แคบเกินไป และเอาของไปจากโลกมากเกินไป” นิตยสารสมิธโซเนียน กล่าวในปี 2018 โดยในหนังสือ ‘The Population Bomb’ ได้เสริมว่า “หากมนุษยชาติไม่ลดจำนวนลงในเร็ ว ๆ นี้ เราทุกคนจะต้องเผชิญกั บภาวะอดอยากครั้งใหญ่บนโลกที่ กำลังจะตาย”
การทดลองของ คัลฮูน ถูกตีความว่าเป็นหลั กฐานของแนวคิดดังกล่าว และสิ่งที่อาจเกิดบนโลกที่ ประชากรมากเกินไป โดยมีพฤติกรมอย่าง ใช้ความรุนแรงแบบเปิดเผย ขาดความสนใจในการมีเซ็กซ์ และการเลี้ยงลูกที่ไม่ดี ในพื้นที่ที่ผู้คนแออัดกลายเป็ นสัญญาณของความเสื่อมถอยทางศี ลธรรม
ดูเหมือนว่าสิ่งเหล่านี้กำลั งสะท้อนออกมาในโลกแห่งความจริง หลายประเทศมีอัตราการเกิ ดลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งอยู่ในระดับที่ไม่ สามารถทดแทนคนรุ่นก่อนหน้าได้ ขณะเดียวกันคนหนุ่มสาวหลายคนก็ แยกตัวออกไปและไม่สนใจที่จะมี ความรัก เป็นความคล้ายคลึงกับ ‘จักรวาลที่ 25’ อย่างน่ากังวล
ขณะที่บางคนก็ชี้ไปยังประเด็นที่ กำลังเป็นจริง โดยระบุว่าในการทดลองนั้นมี จำนวนหนูราว 1% ที่ครอบครองความมั่งคั่งไว้เป็ นของตัวเอง ซึ่งทำให้สังคมไม่สามารถได้รั บทรัพยากรที่จำเป็นต่อการมีชีวิ ตที่ดี “จักรวาลที่ 25 มีปัญหาดัานการกระจายอย่างยุติ ธรรม” สถาบันประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์ กล่าว
บทเรียนที่สำคัญ
แน่นอนว่าหนูและมนุษย์นั้นเป็ นคนละสปีชีส์กันอย่างสิ้นเชิง เราไม่ใช่สัตว์ฟันแทะ เราเป็นสิ่งที่มีชีวิตที่มีสติ ปัญญาเพียงพอที่จะตระหนักถึงสั ญญาณของปัญหาก่อนที่มันจะเกิดขึ้ น และพยายามหาทางแก้ไขไม่ใช่ปล่ อยให้มันดำเนินไปเหมือนหนูในจั กรวาลที่ 25
เช่นเดียวกันงานวิจัยชิ้นอื่น ๆ ที่ศึกษาในมนุษย์ก็แสดงให้เห็ นว่าสภาพแวดล้อมที่แออัด ไม่ได้นำไปสู่ผลลัพธ์เช่น ความเครียด ความก้าวร้าว หรือความไม่สบายใจเสมอไป แต่การทดลองของ คัลฮูน ก็ได้นำเสนอภาพที่ผู้มี อำนาจกำหนดนโยบายจำเป็นต้ องตระหนัก
หากพวกเขาปล่อยปะละเลยสั ญญาณของปัญหา และไม่มีการแก้ไขอย่างจริงจัง สังคมก็อาจค่อย ๆ ถดถอยลงอย่างน่าเศร้า ซึ่งท้ายที่สุดเราทุกคนไม่ว่ าจะชนชั้นไหนก็จะได้รับผลกระทบ สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักถึ งอนาคตที่น่ากังวลโดยใช้ ‘สติและปัญญา’ อย่างรอบคอบ
“ด้วยสติปัญญา ความสามารถในการปรับตัว และความสามารถในการสร้างโลกที่ อยู่รอบตัว มนุษย์จึงสามารถรับมือกั บความแออัดได้ ในลักษณะที่หนูทำไม่ได้” สถาบันประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์ ระบุ
สืบค้นและเรียบเรียง วิทิต บรมพิชัยชาติกุล
ภาพ Yoichi R Okamoto, White House photographer จาก วิกิพีเดีย
ที่มา
https://www.smithsonianmag. com/smart-news/this-old- experiment-with-mice-led-to- bleak-predictions-for- humanitys-future-180954423/
https://www.sciencehistory. org/stories/magazine/mouse- heaven-or-mouse-hell/
https://gizmodo.com/how-rats- turned-their-private-paradise- into-a-terrifyin-1687584457
https://www.the-scientist.com/ universe-25-experiment-69941
https://www.cabinetmagazine. org/issues/42/wiles.php