ผู้คนชื่นชอบการดื่มกาแฟใน Sakkara Café ย่านฮงแด กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้
ภาพถ่าย ADAM DEAN
48 ชั่วโมงกับประสบการณ์ใหม่ในโซล
กรุงโซล มหานครแห่งมนต์เสน่ห์ในแถบทวีปเอเชีย หรือเป็นสถานที่หยุดพักระหว่างทางสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมุ่งสู่ประเทศอื่นต่อไป ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เมืองหลวงของเกาหลีใต้ได้เป็นเจ้าภาพจัดงานระดับสูงมากมาย เช่น การประชุมสุดยอด G-20 หรือรางวัลการออกแบบอย่างมีสไตล์ แถมยังเป็นตลาดการค้าของสมาร์ทโฟนซัมซุงและรถยนต์ฮุนไดอีกด้วย
เมืองที่มีผู้อยู่อาศัยมากกว่าสิบล้านคนซึ่งควบคู่ไปกับการลงทุนในอนาคตและฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมและโชคลาภต่างๆ ที่โซลเพิ่งค้นพบนำมาซึ่งความหลากหลายที่ไม่อาจจินตนาการได้แม้แต่ในทศวรรษที่ผ่านมา
“เมืองแห่งนี้มีความเป็นกันเอง แม้บางครั้งมันจะให้ความรู้สึกว่าเป็นเมืองเล็กๆ ที่แออัดก็ตาม” — Robert J. Fouser, ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล กล่าว
กิจกรรม หลักๆ ที่ต้องทำในขณะที่กรุงโซลนั้นกำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เริ่มเปิดรับประสบการณ์เกี่ยวกับอดีตที่เลื่องลือซึ่งยังคงกึกก้องอยู่ในพระราชวังอันยิ่งใหญ่ พระราชวังคยองบกกุง (Gyeongbokgung, 경복궁) เป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดและมีอายุยาวนานกว่า 600 ปี ประตูคังฮวามุน (Gwanghwamun, 광화문광장) คือประตูทางเข้าที่ตั้งตระหง่านอย่างสวยงาม และใจกลางมีโถงบัลลังก์อันกว้างใหญ่ที่ประดับประดาไปด้วยของสะสม เช่น บัลลังก์ที่ทำด้วยไม้ ภาพวาดภูเขามังกร และสัญลักษณ์อื่นๆ ที่ดูทรงอำนาจ ต่อมาคือ พระราชวังชางด็อกกุง (Changdeokgung, 창덕궁) ซึ่งเป็นที่พำนักของพระมหากษัตริย์หลากพระองค์ในสมัยราชวงศ์โชซ็อน พระราชวังแห่งนี้จึงได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีและได้รับขนานนามให้เป็นมรดกโลก โดยจุดเด่นของพระราชวังคือ สถาปัตยกรรมเกาหลีแบบดั้งเดิมที่มีสวนลับอันเต็มไปด้วยบ่อน้ำและเจดีย์ที่พร้อมมอบบรรยากาศความสงบ ณ ใจกลางเมือง
สิ่งปลูกสร้างทางประวัติศาสตร์ทั้ง 2 แห่งนี้ตั้งอยู่ในย่าน บุกชน (Bukchon, 북촌) ซึ่งเป็นหมู่บ้านดั้งเดิมของเกาหลีที่มีประวัติยาวนานที่เรียกว่า ฮันอก (Hanok, 한옥) โดยบ้านแต่ละหลังนั้นสร้างขึ้นอย่างประณีต หลังคากระเบื้องที่แนบสัมผัสกันแสดงให้เห็นถึงบ้านอันแสนอบอุ่นที่ตั้งอยู่ในตรอกซอกซอยและพร้อมเชื้อเชิญให้นักท่องเที่ยวเข้ามาสำรวจ “การเดินเล่น ณ หมู่บ้านบุกชนเป็นสิ่งที่คุณไม่ควรพลาด” Fouser กล่าว “ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บ้านส่วนใหญ่ได้รับการสร้างขึ้นมาใหม่หรือได้รับการปรับปรุงเกือบทั้งหลัง แต่ทั้งหมดนั้นกลับเข้ากันได้ดีกับทิวทัศน์ของเมืองแบบดั้งเดิม”
ภูมิทัศน์ของกรุงโซลนั้นถูกล้อมรอบไปด้วยภูเขาและทางน้ำไหลผ่าน กำแพงเมืองโซล (Seoul Fortress) เป็นกำแพงหินที่ปรับปรุงใหม่ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยใช้เป็นป้อมปราการในอดีตที่ผ่านมา และในปัจจุบัน สถานที่แห่งนี้มีประโยชน์สำหรับนักเดินป่าที่ต้องการเดินเล่นไปตามความยาวของแนวกำแพงเพื่อชมทิวทัศน์ตามธรรมชาติ ต่อมาคือย่าน บูอัมดง (Buam-dong, 부암동) ถึง ซัมชองดง (Samcheong-dong, 삼청동길) ที่งดงามมากเป็นพิเศษ พร้อมกับกลิ่นไอเสน่ห์ของความโบราณและสวนสาธารณะที่ร่มรื่นหลากหลายแห่งในบริเวณนี้ หากคุณต้องการความเป็นส่วนตัวในวันที่อากาศปลอดโปร่งก็สามารถขึ้นกระเช้าลอยฟ้า ณ เขานัมซัน (Mount Nam) ไปยังหอคอย นัมซันทาวเวอร์ (N Seoul Tower) เพื่อเปิดหูเปิดตากับเส้นทางด้านล่างที่ทอดยาวไปยังประเทศเพื่อนบ้านของเกาหลีใต้ได้
แม่น้ำที่เคยถูกทอดทิ้งในโซลได้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง คลองชองกเยชอน (Cheonggyecheon, 청계천) ได้รับการฟื้นฟูในปี 2003 ภายใต้โครงการพัฒนาและบูรณะคลองชองกเยชอนให้มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม ซึ่งประดับไปด้วยสะพานยกระดับ น้ำพุ และแสงสีตระการตาในยามค่ำคืน ไกลออกไปทางตอนใต้ แม่น้ำฮัน (Han River, 한강) อันยิ่งใหญ่เรียงรายไปด้วยสวนสาธารณะ เส้นทางจักรยาน และแต่งแต้มด้วยสถาปัตยกรรมที่สะดุดตา รวมไปถึงเกาะเทียมขนาดมหึมาซึ่งมีชื่อว่า เซบิทซอม (Some Sevit, 세빛섬) เป็นสถาปัตยกรรมกลางน้ำที่มีจุดชมวิว พร้อมกับการแสดงไฟสีสดงดงามช่วงกลางคืน
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติของเกาหลี (National Museum of Korea) เป็นที่เก็บรวบรวมงานศิลปะ สิ่งประดิษฐ์ และประติมากรรมยอดเยี่ยม รวมถึงภาพวาดภูมิทัศน์อันยิ่งใหญ่และเจดีย์ทางพุทธศาสนาที่หรูหราจากจีน หากต้องการเสพศิลป์ร่วมสมัย พิพิธภัณฑ์ศิลปะลีอุมซัมซุง (Leeum Samsung Museum of Art, 리움 삼성미술관) สามารถตอบโจทย์ได้ ซึ่งผลงานของดาเมียน เฮิรสท์ ศิลปินรุ่นเยาว์ชาวอังกฤษผู้เหลวแหลกที่สร้างผลงานศิลปะสุดอื้อฉาวก็ปรากฏขึ้น ณ สถานที่แห่งนี้เช่นกัน
แหล่งซื้อของ ย่านเก่าแก่ซึ่งอยู่ทางเหนือของแม่น้ำฮันยังคงเต็มไปด้วยตลาดพื้นเมืองแบบดั้งเดิม และขนาดของตลาดที่ยาวจนครอบคลุมช่วงตึกภายในเมือง ที่สำคัญคือตลาดเหล่านี้สามารถตอบสนองความต้องการของบรรดานักช็อปในเรื่องของเสื้อผ้า อาหารสดใหม่ และของขบเคี้ยว ตลาดนัมแดมุน (Namdaemun, 남대문 시장) เป็นแหล่งจำหน่ายอาหารเกาหลี เช่น โสมและเครื่องเขิน ต่อมาคือ ตลาดที่ใส่ใจในเรื่องของแฟชั่น ทงแดมุน (Dongdaemun, 동대문) ซึ่งเต็มไปด้วยผลงานของนักออกแบบรุ่นใหม่ รวมถึงเสื้อผ้า รองเท้า และกระเป๋าที่ผลิตจากโรงงานจำนวนมาก และถนนคนเดิน อินซาดง (Insadong, 인사동) ย่านสำหรับงานศิลปะคลาสสิก งานฝีมือ และของที่ระลึก เช่น ตัวอักษรประดิษฐ์และเซรามิกที่เป็นสินค้าขายดี
ทางใต้ของแม่น้ำฮันในย่าน อัพกูจอง (Apgujeong, 압구정) โดยย่านนี้เป็นส่วนหนึ่งของเขตเศรษฐกิจที่สำคัญของเกาหลีใต้ที่รายล้อมไปด้วยร้านขายเสื้อ หรือร้านขายสินค้าแบรนด์เนมทั้งกระเป๋าและเครื่องประดับ ซึ่งทำให้ย่านนี้มีชีวิตชีวาที่สุดในเมือง รวมไปถึง People of Tastes ศูนย์การค้าที่มีทั้งเสื้อผ้าและอุปกรณ์เสริมซึ่งดึงดูดกลุ่มประชากรวัยหนุ่มสาว และ MMMG สตูดิโอที่เชี่ยวชาญในเรื่องการออกแบบและสินค้าต่างๆ ที่มีรสนิยม เช่น แก้วและพวงกุญแจ
แหล่งทานอาหารอันเป็นที่นิยมสำหรับชาวต่างชาติ คงต้องไม่พลาดถนนหมูย่างเกาหลี Hongik Sutbul Galbi ซึ่งเป็นย่านเด็ดที่รวบรวมร้านหมูย่างไว้อย่างมากมาย โดยแต่ละร้านนั้นจะนำเนื้อวัวและเนื้อหมูสดใหม่มาปรุงสุกหรือตุ๋น พร้อมเสิร์ฟกับผักดองรสชาติจัดจ้าน หรือหากอยากลองทานอาหารในวัดของศาสนาพุทธที่สามารถสร้างความสุขให้กับนักชิมอาหารได้ไม่แพ้กัน ซึ่งร้านอาหารแห่งนี้พร้อมให้บริการอาหารมังสวิรัติแบบโบราณที่ถ่ายทอดสูตรอาหารมารุ่นต่อรุ่น
ต่อมาคือ ร้าน Jungsik ตั้งอยู่ละแวกใกล้เคียงย่านอัพกูจอง ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกอาหารเกาหลีผสมผสานและบรรยากาศของร้านที่ดูเรียบง่าย พร้อมบริการอาหารแบบพื้นเมือง เช่น คิมบับ (ข้าวห่อสาหร่าย) กิมจิ (กะหล่ำปลีดอง) และเค้กข้าว สถานที่สุดท้ายสำหรับการทานอาหารจานเด็ดคือ Vatos Urban Tacos Itaewon ซึ่งเป็นร้านทาโก (Taco) ยอดฮิต พร้อมสภาพแวดล้อมที่มีชีวิตชีวาด้วยไม้สีเข้ม อิฐเปลือย และระเบียงดาดฟ้าโปร่งสบายซึ่งเติมเต็มความต้องการของเหล่าผู้มาเยือนในคืนแสนอบอุ่น
เรื่อง JONATHAN HOPFNER
***แปลและเรียบเรียงโดย กุลธิดา ปัญญาเชษฐานนท์
โครงการนักศึกษาฝึกงาน กองบรรณาธิการ นิตยสารเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ฉบับภาษาไทย