เกาะราโรตองกา สถานที่แห่ง Avatar: The Way of Water บนโลกความจริง

เกาะราโรตองกา สถานที่แห่ง Avatar: The Way of Water บนโลกความจริง

เกาะราโรตองกา เกาะที่ใหญ่ที่สุดใน หมู่เกาะคุ๊ก นำเสนอวัฒนธรรมล่องเรืออันเก่าแก่อย่างใกล้ชิด ที่แห่งนี้มีความคล้ายคลึงหลายอย่างกับโลกในภาพยนตร์อวตาร: วิถีแห่งสายน้ำ

การว่ายน้ำดำดิ่งในมหาสมุทรเปรียบได้ดั่งการท่องเที่ยวบนดาวดวงใหม่ๆ จึงไม่น่าแปลกใจที่เจมส์ เเคเมรอน ผู้กำกับภาพยนตร์ นักประดาน้ำสกูบาตัวยง และนักสำรวจประจำ เนชันแนล จีโอกราฟฟิก เลือกใช้ผืนน้ำเป็นฉากหลังของอวตาร: วิถีแห่งสายน้ำ ภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์และผจญภัยเรื่องใหม่ของเขา

“ผมมีความรักต่อมหาสมุทรมาทั้งชีวิตครับ” เขาบอกกับ เนชันแนล จีโอกราฟฟิก และเสริมว่าฉากหลังในภาพยนตร์เรื่องนี้คือ “การยกย่องบรรดาปะการังของพวกเรา”

แคเมรอนทำงานอย่างใกล้ชิดกับฝ่ายศิลป์ของภาพยนตร์ และค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับวัฒนธรรมโพลีนีเซีย ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจของชนเผ่าท้องทะเลในงานชิ้นนี้ สำหรับโลกแห่งความเป็นจริง เกาะราโรตองกา (Rarotonga Island) ซึ่ง มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดา 15 เกาะที่ประกอบกันเป็น หมู่เกาะคุ๊ก ในตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก คือหนึ่งในโลกผืนน้ำของโพลีนีเซียที่เหล่านักท่องเที่ยวสามารถดำดิ่งไปสัมผัสได้

หมู่เกาะคุ๊ก
เจสสิกา แครมป์ นักสำรวจของเนชันแนล จีโอกราฟฟิกและนักชีววิทยาสัตว์ทางทะเล ว่ายน้ำโดยไม่ใช้อุปกรณ์หายใจท่ามกลางปลาแพะแถบเหลืองบริเวณลากูนของเกาะราโรตองกา เกาะเเห่งนี้คือที่ตั้งของชาร์คส์แฟซิฟิก โครงการอนุรักษ์ที่เธอตั้งขึ้นเพื่อปกป้องฉลาม มนุษย์ และสถานที่ที่พวกมันต้องพึ่งพิง ภาพถ่ายโดย ANDY MANN, NAT GEO IMAGE COLLECTION

เช่นเดียวกับเหล่าตัวละครในภาพยนตร์ภาคต่อเรื่องนี้ ชาวหมู่เกาะคุกคือนักเดินทางท่องทะเลเสมอมา คนเหล่านี้เดินทางข้ามมหาสมุทรกว้างใหญ่ด้วยความทะเยอทะยานมาก่อนหน้าวัฒนธรรมอื่นๆ นานนับหลายศตวรรษ “ชาวไวกิงควรถูกเรียกว่าชาวโพลีนีเซียแห่งแดนเหนือ บรรพบุรุษของเราเราเก่งขนาดนั้นแหละ” ชาวเกาะผู้ภาคภูมิใจคนหนึ่งกล่าวกับเรา

ในคริสต์ศตวรรษที่ห้า บรรดาชาวเกาะบนวากา (Vaka – เรือคานูสำหรับการเดินทางไกล) ขนาดยักษ์ ล่องเรือผ่านช่องว่างแห่งหนึ่งในแนวปะการังซึ่งล้อมรอบด้านตะวันออกของราโรตองกาเพื่อค้นหาดินแดนและการเริ่มต้นครั้งใหม่ หนึ่งในเรือเหล่านั้นตัดสินใจเดินทางกลับบ้าน ส่วนอีกสิบลำหายสาบสูญ ลำหนึ่งเดินทางไปถึงเกาะอีสเตอร์ อีกลำหนึ่งไปถึงเกาะโซไซตี และอีกเจ็ดลำไปที่นิวซีแลนด์ ที่ซึ่งผู้คนจำนวนมากเชื่อว่าคนเหล่านี้คือผู้วางรากฐานของวัฒนธรรมเมารี

ชาวเมารี, เมารี, ชาวเกาะ
ในภาพจากปี 1930 ชาวเกาะคุกที่กำลังเดินทางไปร่วมเทศกาลพายเรือวากาอยู่บนพื้นน้ำใสของเกาะราโรตองกา ภาพถ่ายโดย BETTMANN ARCHIVE, GETTY IMAGES

ในปัจจุบัน นักท่องเที่ยวที่ไปถึงราโรตองกาจะได้พบกับโอเอซิสสีฟ้าเขียวซึ่งมีพื้นที่ดำน้ำที่ใสที่สุดแห่งหนึ่งของโลก อย่างไรก็ตาม การดำน้ำในบริเวณนี้อาจมีเรื่องท้าทายอยู่บ้าง ส่วนใหญ่มาจากการทำเหมืองใต้ทะเลลึกซึ่งอาจเกิดขึ้นที่ภายในอุทยานทางทะเล Marae Moana

บนบก ชาวหมู่เกาะคุกทำให้ทุกสิ่งเป็นไปอย่างเรียบง่าย ถนนวงแหวนยาว 32.19 กิโลเมตรทำให้การหลงทางเป็นไปไม่ได้ (เส้นทางเดินรถบัสมีเพียง “ตามเข็มนาฬิกา” หรือ “ทวนเข็มนาฬิกา” เท่านั้น) และเส้นทางเดินเขาที่งดงามตระการตาและแหล่งทางวัฒนธรรมที่ชวนเปิดหูเปิดตาก็ทำให้ประสบการณ์ที่มากมายบนเกาะอันมีชีวิตชีวาแห่งนี้

ข้อมูลเหล่านี้คือสิ่งที่คุณต้องรู้

ดำดิ่งลงใต้สมุทร

การดำน้ำที่ราโรตองกานั้นน่าอัศจรรย์ ทิวทัศน์ใต้ทะเลของเกาะแห่งนี้ดูเหมือนหลุดออกมาจากเทพนิยายกริมม์จากแนวปะการังแข็งตัวรูปร่างเหมือนเห็ดขนาดยักษ์ราวกับอยู่ในเวทย์มนต์ ที่ทั้งน่าขนลุกและน่าดึงดูด การดำน้ำส่วนใหญ่เป็นการดำน้ำจากเรือเพื่อชมปะการังที่ขึ้นอยู่รอบเกาะ

Nga Tipa คือหนึ่งในป่าที่มีชื่อเสียงที่สุด มันเป็นช่องทางเขาวงกตซึ่งทอดผ่านปะการังโขดหินรูปร่างเหมือนเห็ดตูม บริเวณที่ลึก 15 เมตรแห่งนี้ง่ายต่อการดำน้ำ และเพียบพร้อมไปด้วยสัตว์น้ำนานาพันธุ์ (ทั้งปลาเลมอนพีลและเฟลมแองเจิล ปลาบู่ลูกดอกเพลิง และฉลามครีบขาว) ที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ปะการัง

หมู่เกาะคุ๊ก
ราโรตองกาล้อมรอบไปด้วยแนวหินปะการังที่เต็มไปด้วยสัตว์ทะเล ทำให้เกาะในภูมิภาคโพลีนีเซียแห่งนี้คือหนึ่งในสถานที่ดำน้ำที่ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งหนึ่งบนโลก

เช่นเดียวกับ คอรัลการ์เดน (Coral Garden) แต่พื้นที่ดำน้ำแห่งนี้มีแนวปะการังความหนาแน่นสูงที่เรียงตัวไปตามร่องทรายลึก  โดยร่องลึกเหล่านี้คือสถานที่ซึ่งเหล่าฉลามครีบขาวโปรดปราน และเรายังพบเห็นปลาไหลมอเรย์เยลโลร่างบึกบึนตัวหนึ่งด้วย

เกาะแห่งนี้มีพื้นที่ดำน้ำกว่า 30 แห่งอยู่รายรอบ และแต่ละฝั่งของเกาะยังมีลักษณะเฉพาะของตนเอง ตั้งแต่แนวปะการังที่หนาแน่น ลากูนตื้นๆ ไปจนถึงผาลาดชัน  ปะการังเรียงตัวลาดเอียงลงจนถึงความลึกราว 30 เมตรก่อนจะดิ่งชันลงไปที่มหาสมุทรกว้างใหญ่เบื้องล่าง ผาลาดชันเหล่านี้เปิดโอกาสสำหรับการพบเจอพันธุ์ปลาหายากเช่นพิตแคร์นและปลาเทวดาเป็ปเปอร์มินต์

ทางน้ำเช่น Tupapa และ Avana ทอดตัวตัดผ่านปะการัง และมีสัตว์นานาพันธุ์มาเยี่ยมเยือน ทั้งเต่า ฉลาม ปลาผีเสื้อมากมาย และฝูงปลากระเบนนก

ด้วยสภาพแวดล้อมที่ง่ายต่อการดำน้ำ (น้ำที่ใสและอุ่น) ทำให้ราโรตองกาเป็นสถานที่ดำน้ำที่เหมาะกับมือใหม่ ขณะเดียวกัน ทัศวิสัยที่ยอดเยี่ยมและแสงธรรมชาติที่มากเหลือล้นยังทำให้เหมาะกับการถ่ายภาพใต้น้ำอย่างยิ่ง ทางที่ดีควรจองคอร์สดำน้ำล่วงหน้ากับบรรดาร้านดำน้าที่ส่วนใหญ่จะมีบริการคอร์สเหล่านี้

ท่องไปในโลกวัฒนธรรม

ราโรตองกาโดดเด่นเหนือเกาะเล็กอื่นๆ เพราะผู้มาเยือนจะได้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของผู้คนบนเกาะแทนที่จะเอาแต่หมกตัวอยู่ในรีสอร์ตสักแห่ง

หมู่เกาะคุ๊ก
พระอาทิตย์ขึ้นเหนือหาด Muri ที่ราโรตองกา นอกจากการประดาน้ำแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินไต่ขึ้นบนเขาอันเขียวขจีของเกาะแห่งนี้ได้อีกด้วย ภาพถ่ายโดย DIDIER MARTI, GETTY IMAGES

ประสบการณ์ด้านวัฒนธรรมคือวิธีที่ยอดเยี่ยมสำหรับการมีส่วนร่วมกับเกาะแห่งนี้ Te Vara Nui นำเสนอการเที่ยวชมหมู่บ้านเก่าแก่เป็นเวลาสี่ชั่วโมง พร้อมอาหารเย็นแบบบุฟเฟต์ และการแสดงการเต้นรำกลางผืนน้ำ ซึ่งสามารถรับชมได้จากเก้าอี้หรืออัฒจันทร์รูปเกือกม้าที่ล้อมรอบทะเลสาบ

Te Ara หรือพิพิธภัณฑ์วัตถุทางวัฒนธรรมประจำหมู่เกาะคุกมีนิทรรศการน่าตื่นตาตื่นใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ การเดินเรือ การตั้งถิ่นฐาน และสภาวะของปะการังของหมู่เกาะแห่งนี้ และยังเป็นแหล่งฟูมฟักธุรกิจทางวัฒนธรรมอย่างยั่งยืนซึ่งช่วยสนับสนุนชาวเกาะผู้ประดิษฐ์ พัฒนา และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของตนที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้

หมู่เกาะคุ๊ก, ชาวเกาะ
ชาวพื้นเมืองแสดงการเต้นรำแบบดั้งเดิมที่ตลาด Punanga Nui ซึ่งเปิดทุกเช้าวันเสาร์ ภาพถ่ายโดย FRANK HEUER, LAIF/REDUX

เส้นทางเดินข้ามเกาะ ซึ่งกินเวลาครึ่งวัน เป็นเส้นทางเดินเขาอันทรหดระยะ 5.95 กิโลเมตรซึ่งไต่ขึ้นตามสันเกาะความสูง 396 เมตร ตามเส้นทางโบราณและผ่านต้นไทรเคี้ยวคดที่มีรากเป็นเครื่องมือช่วยยึดเกาะอย่างยอดเยี่ยมสำหรับทางเดินพื้นดินเหนียวที่ทำให้ลื่นล้มได้ง่าย จุดสูงสุดของเส้นทางแห่งนี้คือ นีเดิล จุดที่มีความสูง 399 เมตรและมีทัศนียภาพรอบด้านเกือบ 360 องศาแห่งนี้คือ “แหล่งพลังงาน” ของชาวโพลีนีเซีย การเดินเขานี้สิ้นสุดที่น้ำตกวิกมอร์ อันเป็นที่ที่สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับการว่ายน้ำ

หากการเดินทางของคุณมีวันสุดสัปดาห์รวมอยู่ด้วย อย่าพลาดตลาดวัฒนธรรม Punanga Nui แหล่งพบประรวมตัวทุกเช้าวันเสาร์ ตลาดริมน้ำซึ่งอยู่ติดกับอะวารัว เมืองสำคัญและเมืองหลวงของราโรตองกาแห่งนี้ คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวผู้มาเดินดูของฝาก ชาวเกาะซึ่งมาจับจ่ายซื้อของใช้ในชีวิตประจำวัน และพ่อค้าแม่ขายที่สนใจพูดคุยจอแจมากกกว่าการขายของ

บนทางแยก

ในปี 2017 หมู่เกาะคุกก่อตั้งอุทยานทางทะเล Marae Moana ขนาด 1.9 ล้านตารางกิโลเมตรขึ้น อุทยานแห่งนี้ครอบคลุมเขตเศรษฐกิจจำเพาะของหมู่เกาะและห้ามมิให้มีการประมงเชิงอุตสาหกรรมภายในรัศมี 92.6 กิโลเมตร (50 ไมล์ทะเล) ของแต่ละเกาะ อย่างไรก็ตาม การจัดแบ่งเขตภายในอุทยานมากขึ้นยังคงเป็นสิ่งจำเป็น

การขุดเหมืองใต้ทะเลลึกภายในเขตอุทยานยังคงเป็นประเด็นที่ถกเถียง บรรดานักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมต้องการให้มีการออกคำสั่งห้ามทำเหมืองบนพื้นทะเลเป็นเวลาสิบปี เพื่อรวบรวมข้อมูลตัวอย่างและทำการวิจัยที่เพียงพอสำหรับการเข้าใจผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมใดใดที่อาจเกิดขึ้น และเหล่านักวิทยาศาสตร์ยังกังวลว่าเรามีความรู้เกี่ยวกับส่วนลึกของมหาสมุทรและบทบาทที่มันมีต่อการค้ำจุนสิ่งมีชีวิตทั้งในน้ำและบนบกน้อยเกินไป และยิ่งรู้เกี่ยวกับผลกระทบของการทำเหมืองใต้ทะเลน้อยกว่านั้นเสียอีก

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ รัฐบาลหมู่เกาะคุกกำลังสนใจการทำเหมืองเพื่อสำรวจ เพราะพวกเขาเชื่อว่าจะช่วยให้ประเทศมีแหล่งรายได้ที่หลากหลายขึ้นและช่วยในการมุ่งหน้าสู่พลังงานสะอาด

ความสมดุลระหว่างการอนุรักษ์และการพัฒนาอย่างยั่งยืนคือสิ่งที่ยากในหมู่เกาะคุกซึ่งมีผืนดินรวม 241 ตารางกิโลเมตร มหาสมุทรที่อยู่ล้อมรอบคือทรัพยากรอันมีค่าของเหล่าชาวเกาะ และสภาพของมันจะมีบทบาทสำคัญต่ออนาคตของหมู่เกาะแห่งนี้

เรื่อง แคร์รี มิลเลอร์ และ คริส ไทเลอร์ 

แปล ภาวิต วงษ์นิมมาน


อ่านเพิ่มเติม เจมส์ แคเมรอน: โลกความจริงและจินตนาการใน อวตาร: วิถีแห่งสายน้ำ

อวตาร: วิถีแห่งสายน้ำ

Recommend