ลูกเพนกวิน นับ 10,000 ตัว อาจตายหมดแล้ว ผลจากน้ำแข็งละลายได้กวาดล้าง “บ้าน” จนจมน้ำตาย- หรือถ้ารอด พวกมันก็ต้องหนาวตายอยู่ดี

ลูกเพนกวิน นับ 10,000 ตัว อาจตายหมดแล้ว ผลจากน้ำแข็งละลายได้กวาดล้าง “บ้าน” จนจมน้ำตาย- หรือถ้ารอด พวกมันก็ต้องหนาวตายอยู่ดี

ลูกเพนกวิน จมนํ้ากว่า 10,000 ตัว โดยจากการวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมครั้งใหม่จากหน่วยงานสำรวจแอนตาร์กติกาบริติช (British Antarctic Survey) เชื่อว่า ลูกนกเพนกวินจักรพรรดิอย่างน้อย 7,000 ตัวอาจมากถึง 10,000 ตัว ในรังทั่วอาณานิคมรอบทวีปแอนตาร์กติกาตายไปหมดแล้ว ถือเป็นการขยายพันธุ์ที่ล้มเหลวมากที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นภายในฤดูกาลเดียว

จากสังเกต “อึสีน้ำตาล” ของเพนกวินที่ทำรังอยู่และมองเห็นได้จากอวกาศ ระบุว่ารัง 4 ใน 5 แห่ในอาณานิคมหายไปทั้งหมด เนื่องจากปริมาณน้ำแข็งของขั้วโลกใต้ลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งเป็นผลจากภาวะโลกร้อน

“มันเป็นเรื่องที่น่ากลัว” ดร. ปีเตอร์ เฟรตเวลล์ (Peter Fretwell) หัวหน้านักวิจัยกล่าว “มันน่าตกใจ และเป็นเรื่องที่ทำใจลำบากที่จะนึกถึงเหล่าเด็กน้อยขนฟูที่น่ารักเหล่านี้กำลังตายไปเป็นจำนวนมาก”

ดร.เฟรตเวลล์กล่าวว่า การละลายของน้ำแข็งนั้นเป็นเรื่องที่คาดการณ์กันไว้อยู่แล้ว แต่อัตราการละลายของมันนั้นรวดเร็วกว่าที่เคยคิดไว้มากและเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

โดยในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา น้ำแข็งในแอนตาร์กติกาอยู่ในระดับต่ำสุดเท่าที่เคยบันทึก ทำให้หลายพื้นที่ของภูมิภาคนี้สูญเสียน้ำแข็งในทะเลไปเกือบหมด

และเรื่องที่น่าเศร้าก็คือ น้ำแข็งเหล่านั้นเป็นที่ทำรังของเพนกวินจักรพรรดิหลายพันคู่ ซึ่งแต่ละกลุ่มจะกลับมาสถานที่เดิมทุกปีเพื่อทำรังตามวิถีชีวิตของพวกมัน โดยเพนกวินจะวางไข่ในเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน

และลูกน้อยเหล่านั้นจะต้องอยู่บนแผ่นน้ำแข็งจนถึงเดือนธันวาคมหรือมกราคม ขณะเดียวกัน พ่อและแม่ของพวกมันจะออกทะเลไปหาอาหารเพื่อป้อนลูก จังหวะที่แผ่นน้ำแข็งได้ละลายหายไปจึงเป็นช่วงเวลาที่ลูกเพนกวินจักรพรรดิต้องอยู่กันเอง และมันเป็นช่วงเวลาที่อ่อนแอของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้

“อาจเป็นไปได้ที่น้ำแข็งจะแตกออกเป็นแพเล็กๆ ใต้เท้าของนกเพนกวิน” ดร. เฟรตเวลล์ กล่าว “ถ้าพวกมันจมน้ำ ลูกน้อยก็จะจมน้ำตาย หากพวกมันกลับขึ้นมาบนแผ่นน้ำแข็งได้ พวกมันก็จะหนาวตาย เพราะว่าพวกมันยังไม่มีขนที่กันน้ำได้ในช่วงนั้น”

เพราะร่างกายที่ยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่ ลูกเพนกวินยังว่ายน้ำไม่เป็น ขนของพวกมันก็ยังกันน้ำไม่ได้ ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าโอกาสรอดของพวกมันมีน้อยมาก มีเพียงอาณานิคมทางเหนือสุดที่ชื่อว่าเกาะรอธไชลด์ (Rothschild) เท่านั้นที่ยังอยู่

ดร. แคโรไลน์ โฮล์มส์ (Caroline Holmes) หนึ่งในทีมวิจัยเชื่อว่า สาเหตุที่ทำให้แผ่นน้ำแข็งลดลงนั้นเกิดจากน้ำทะเลที่อุ่นผิดปกติทั่วทั้งทวีป และสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับทุกอย่าง ทางทีมระบุว่าเส้นทางอนาคตของเพนกวินเหล่านี้จะต้องได้รับการแก้ไข

นักวิทยาศาสตร์ประเมินว่า เพนกวินจักรพรรดิจะมีจำนวนลดลงมากถึงร้อยละ 90 ภายในปี 2100 และกลุ่มประชากรจะมีขนาดเล็กมาจนนำไปสู่การสูญพันธุ์ แต่หากเราลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เราจะลดผลกระทบของสิ่งที่เกิดขึ้นได้

“การเปลี่ยนแปลงปริมาณและพฤติกรรมการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลเท่านั้นจะช่วยพลิกวิถีของเพนกวินจักรพรรดิเหล่านี้และสายพันธุ์อื่น ๆ อีกมากมายได้” ดร. เฟรตเวลล์ กล่าว

“จะเลวร้ายแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับเรา”

สืบค้นและเรียบเรียง วิทิต บรมพิชัยชาติกุล

ที่มา

https://www.nature.com/articles/s43247-023-00927-x

https://www.theguardian.com/world/2023/aug/25/emperor-penguins-thousands-of-chicks-in-antarctica-likely-died-due-to-record-low-sea-ice-levels

https://www.bbc.com/news/science-environment-66492767

https://www.washingtonpost.com/climate-environment/2023/08/25/emperor-penguin-chicks-population-death-antarctic

อ่านเพิ่มเติม วาฬสีน้ำเงิน อาจไม่ใช่สัตว์ที่ใหญ่ที่สุดอีกต่อไป! พบกระดูกฟอสซิลอายุ 37 ล้านปีที่มีหนัก 300 ตัน

Recommend