ไซโก (ประเทศไทย) จัดกิจกรรม Save the forest ร่วมอาสาลงพื้นที่เพื่อพิทักษ์ผืนป่ามรดกโลก กับ มูลนิธิสืบ นาคะเสถียร เพื่อสืบทอดเจตนารมณ์ในการอนุรักษ์ผืนป่า พร้อมมอบรายได้สนับสนุนการทำงานอนุรักษ์
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง มีพื้นที่มากกว่า 1,800,000 ไร่ มีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมไม่น้อยกว่า 159 ชนิด นกไม่น้อยกว่า 428 ชนิด พื้นที่ห้วยขาแข้งจึงเป็นบ้านของสัตว์ป่าหลากหลายชนิด โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสายพันธุ์ใหญ่อย่าง ช้างและเสือ อีกทั้งเป็นแหล่งอาศัยของนกหลายสายพันธุ์
ห้วยขาแข้งเป็นส่วนหนึ่งผืนป่าตะวันตก ซึ่งมีการสำรวจพบสัตว์ป่าจำนวนมากที่มีแนวโน้มต่อการสูญพันธุ์อาศัยอยู่ ทำให้เป็นผืนป่าแห่งนี้เป็นพื้นที่อนุรักษ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศไทย และนับเป็นพื้นที่คุ้มครองที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ความสำคัญเช่นนี้ ทำให้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ห้วยขาแข้ง ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของไทย และของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อ พ.ศ. 2534 ซึ่งส่วนหนึ่งการเป็นที่ยอมรับในระดับโลก ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามาจากการอุทิศตนเพื่อการรักษาผืนป่าแห่งนี้ จนกระทั่งยอมสละชีวิตของชายที่ชื่อว่า ‘สืบ นาคะเสถียร’ อดีตหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เพื่อเรียกร้องให้สังคมหันมาสนใจ ให้ความสำคัญและปกป้อง ผืนป่า และสัตว์ป่า แม้ตัวเขาจะเข้ามาดำรงตำแหน่งหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแห่งนี้ได้เพียง 8 เดือนเท่านั้น
เจตนารมณ์การปกป้องผืนป่าในครั้งนั้นได้สืบทอดมายังผู้คนรุ่นหลังที่สนใจทำงานเพื่อปกป้องผืนป่า และเกิดเป็นโครงการเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอีกมากมาย หน่วยงานภาครัฐและเอกชนมากมายต่างยื่นมือเข้าสนับสนุนการทำงานเพื่อการอนุรักษ์ผืนป่าห้วยขาแข้งนี้
องค์กรหนึ่งในนั้นคือ ไซโก (ประเทศไทย) หน่วยงานเอกชนที่ให้ความสำคัญกับการมุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการดำเนินธุรกิจ ครอบคลุมในทุกมิติทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ให้มีความเชื่อมโยงถึงกัน ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals – SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ
Seiko ได้ร่วมมือกับ มูลนิธิสืบนาคะเสถียร องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการสานต่อเจตนารมย์ของ สืบ นาคะเสถียร ในการพิทักษ์ ช่วยเหลือ และรักษาผืนป่าห้วยขาแข้ง และสัตว์ป่าทุกชีวิต จนได้ผลลัพธ์เป็นออกมาเป็นนาฬิกาคอลเลคชั่นพิเศษ สืบ นาคะเสถียร ไทยแลนด์ ลิมิเต็ด อิดิชั่น (Seub Nakhasathien Thailand Limited Edition) ที่ได้เริ่มวางจำหน่ายในช่วงเดือนธันวาคม 2565 เพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิดของโครงการเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างโครงการ Save the Forest ของ Seiko ที่กำลังดำเนินการอย่างจริงจัง และนาฬิการุ่นนี้ก็ได้ผลตอบรับที่ดีเกินคาด
และในช่วงวันที่ 15-17 มกราคม 2566 Seiko ได้เดินทางไปลงพื้นที่ ณ ผืนป่ามรดกโลกห้วยขาแข้ง จ.อุทัยธานี เพื่อร่วมสัมผัสการทำงานของเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิสืบนาคะเสถียร รวมไปถึงเจ้าหน้าที่อุทยาน ที่ทำงานเพื่อพิทักษ์ผืนป่ามรดกโลกแห่งนี้เอาไว้
ในวันแรก คณะทำงานของ Seiko และสื่อมวลชน ได้ร่วมรับฟังบรรยายความสำคัญของป่าผืนป่าห้วยขาแข้ง จากบรรดาผู้ทรงคุณวุฒิที่ทำงานเพื่อมูลนิธิสิบ นาคะเสถียร และผืนป่าแห่งนี้ เช่น คุณเพิ่มศักดิ์ กนิษฐชาต หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง, คุณอุดม กลับสว่าง เจ้าหน้าที่ประสานงานป่าตะวันตกมูลนิธิสืบนาคะเสถียร และคุณภาณุเดช เกิดมะลิ เลขานุการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ที่มาแบ่งปันความรู้ และประสบการณ์การทำงานที่เกิดขึ้นจริงของทุกส่วนงานการพิทักษ์ผืนป่า
คุณอุดม กลับสว่าง เจ้าหน้าที่ประสานงานป่าตะวันตก มูลนิธิสืบนาคะเสถียร
คุณภาณุเดช เกิดมะลิ เลขานุการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร
หลังสิ้นสุดการบรรยาย Seiko ได้มอบเงินจากรายได้ส่วนหนึ่งในการจำหน่ายนาฬิการุ่น Seub Nakhasathien Thailand Limited Edition จำนวน 500,000 บาท ให้กับมูลนิธิสืบนาคะเสถียร เพื่อสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ต่อไป
หลังจากนั้น คณะทำงานของ Seiko ได้พาสื่อมวลชน ได้ลงพื้นที่เข้าสู่เขตอุทยานรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง โดยได้แวะมอบนาฬิกาแขวนผนัง ให้กับทางโรงเรียนห้วยขาแข้งวิทยาคมเพื่อให้โรงเรียนได้ใช้ประโยชน์
และได้เดินทางเข้าสู่ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง และเยี่ยมชมอนุสรณ์สถาน สืบ นาคะเสถียร เพื่อเรียนรู้ข้อมูลการอนุรักษ์ผืนป่าห้วยแข้ง รวมถึงแนวคิดการทำงานอนุรักษ์ของคุณสืบ นาคะเสถียร ที่ได้มีส่วนยกระดับการหนักตระรู้ของผู้คนเรื่องการอนุรักษ์ผืนป่าแห่งนี้จนได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกของยูเนสโก
และที่อนุสรณ์สถานแห่งนี้ Seiko ได้มอบอุปกรณ์สนับสนุนการทำงานที่จำเป็นให้กับเจ้าหน้าที่พิทักษ์อุทยานห้วยขาแข้ง เช่น ชุดยูนิฟอร์มชุดใหม่เพื่อการทำงานพิทักษ์อุทยาน รวมไปถึงอุปกรณ์อื่นๆ ที่จำเป็น เพื่อสืบสานการทำงานในการอนุรักษ์ผืนป่าแห่งนี้
หลังจากนั้น คณะทำงานของ Seiko และสื่อมวลชน ได้ร่วมมือทำกิจกรรมเพื่ออนุรักษ์และปกป้องผืนป่าด้วยการทำแนวกันไฟในบริเวณแนวป่าห้วยขาแข้ง ซึ่งเป็นบริเวณที่มีบรรดาสัตว์ป่าเข้ามาดำรงชีวิตอยู่จริงๆ ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยาน โดยเจ้าหน้าที่ฯ ได้อธิบายถึงความสำคัญของการทำแนวกันไฟ รวมถึงประโยชน์ที่มีต่อความสมบูรณ์ของผืนป่าแห่งนี้ ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่ทางคณะผู้ร่วมกิจกรรม ได้เข้ามาร่วมลงมือทำงานอาสาครั้งนี้อย่างจริงจังกับร่วมเจ้าหน้าที่ที่ทำงานอยู่จริงๆ
นอกจากการทำแนวกันไฟป่าแล้ว ผู้เข้าร่วมกิจกรรมยังได้มีโอกาสร่วมกันสร้าง ‘โป่งเทียม’ ที่เป็นแหล่งอาหาร และแร่ธาตุที่จำเป็นให้กับบรรดาสัตว์ป่าเข้ามาใช้ประโยชน์ โดยคณะของ Seiko ได้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ในการสร้างโป่งเทียมตั้งแต่การขุดเปิดหน้าดิน ไปจนถึงการผสมแร่ธาตุอาหารที่จำเป็นในโป่ง และรดน้ำ ตั้งแต่ต้นจนจบ
ต่อมา มูลนิธิสืบ นาคเสถียร ได้พาไปเรียนรู้ถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าห้วยขาแข้งด้วยการนำชม ‘หอส่องสัตว์’ ในบริเวณห้วยขาแข้ง ซึ่ง ณ ที่แห่งนี้ ได้มีโอกาสพบเห็น ‘วัวแดง’ ซึ่งในประเทศไทย ถือเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 และเป็นสัตว์ที่ถูกจัดให้อยู่ในประเภทใกล้สูญพันธุ์ (EN) ในบัญชีแดงไอยูซีเอ็น (IUCN Red list) โดยวัวแดงถือเป็นสัตว์ป่าสัญลักษณ์ของห้วยขาแข้ง ซึ่งทางคณะของ Seiko ได้มีโอกาสเห็นด้วยตาของตัวเอง
และปิดท้ายด้วยการเยี่ยมชม ‘สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง’ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ใช้ในการอนุบาล เพาะเลี้ยงเพื่อขยายพันธุ์สัตว์ป่าที่อยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์ รวมไปถึงการดูแลสัตว์ป่าที่เป็นของกลางที่ถูกยึดได้จากกระบวนการค้าสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมาย หลากหลายชนิด เป็นการเสร็จสิ้นภารกิจส่งมอบเจตนารมณ์ในการร่วมดูแลรักษาผืนป่าห้วยขาแข้ง ที่ Seiko ได้ร่วมมือกับมูลนิธิ สืบ นาคะเสถียร
Mr. Akira Sakairi, Managing Director of Seiko Thailand ได้กล่าวถึงการมาร่วมทำกิจกรรม Save the forest ร่วมกับมูลนิธิสืบ นาคเสถียร ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งครั้งนี้ว่า ทาง Seiko รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแห่งนี้
Mr. Akira Sakairi, Managing Director of Seiko Thailand
“หลังจากได้เข้าร่วมกิจกรรมนี้ ผมรู้สึกประทับใจธรรมชาติของห้วยขาแข้ง รวมไปถึงวัฒนธรรมที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับธรรมชาติของคนไทยเป็นอย่างมาก ขอขอบคุณ มูลนิธิ สืบ นาคะเสถียร ที่ให้โอกาส Seiko ได้ผลิตนาฬิการุ่นนี้ เพื่อทำประโยชน์ให้กับธรรมชาติของประเทศไทย”
ด้าน คุณเพิ่มศักดิ์ กนิษฐชาต หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง กล่าวถึงกิจกรรม Save the forest ในครั้งนี้ว่า “ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ยินดีที่ได้รับการสนับสนุนความช่วยเหลือด้านการรักษาทรัพยากรทางธรรมชาติในห้วยขาแข้งซึ่งถือว่าเป็นของคนไทย และของผู้คนทั่วโลก โครงการที่ได้ร่วมกับทาง Seiko ถือเป็นโอกาสที่เราจะได้และได้แลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นในการดูแลผืนป่าแห่งนี้
นอกจากนี้ก็เป็นโอกาสที่ทำให้เราได้เผยแพร่ความรู้ความเข้าใจในภารกิจปกป้องธรรมชาติในผืนป่าห้วยขาแข้ง รวมไปถึงบรรดาเจ้าหน้าที่ทำงานเพื่อพิทักษ์ผืนป่าอยู่ทั่วประเทศ นับเป็นโอกาสที่ดีที่ทางห้วยขาแข้งได้รับ ซึ่งทางเราขอขอบคุณทาง Seiko (ประเทศไทย) มา ณ ที่นี้”